เผยแพร่ |
---|
ความรู้สึกของชาวบ้านต่อกระแส “พลังดูด” อันเริ่มต้นอย่างคึกคักตั้งแต่เดือนเมษายนต่อเนื่องมายังเดือนพฤษภาคม
เป็นความรู้สึกในเชิง “รังเกียจ”
นี่เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ เพราะเมื่อมีการใช้คำว่า “ดูด”ก็มักจะเกิดนัยประหวัดไปยังของสกปรก ความโสโครก
อย่างเช่น การดูดฝุ่น ก็เพราะฝุ่นเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการ
อย่างเช่น การดูดส้วมก็เพราะว่าสิ่งที่ตกคลักอยู่ในส้วมนั้นถือว่าเป็นของปฏิกูล
สายตาที่มองไปยังกรณี”การดูด”จึงเป็นเรื่องไม่ดี
ทั้งๆที่การดูดเป็นครรลองของประชาธิปไตย”ไทยนิยม”แล้วเหตุใดเมื่อคสช.เปิดยุทธการดูดจึงถูกมองแบบเหล่ๆ
นั่นก็เพราะเป็น “คสช.”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าคสช.มาพร้อมกับรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษ ภาคม 2557
รับเอาคำขวัญ”ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”มาเป็นของตน
พร้อมกับแต่งเพลงอันสุดแสนไพเราะ เพราะพริ้งประกาศเจตนารมณ์อันเลิศหรู
เราจะทำตาม “สัญญา” ขอ “เวลา”อีกไม่นาน
แต่เวลาผ่านไป 3 ปีเศษเมื่อจะก่อตั้ง “พรรคคสช.”ขึ้นเจ้าของบทเพลงอันเลิศหรูด้วยอุดมการณ์ก็เปิดปฏิบัติการ “ดูด”
ถามว่าเป้าหมายการดูดอยู่ที่ใคร
คำตอบ ส่วนหนึ่ง มาจากแกนนำ “กปปส.”ที่เคยออกมาสกัดกั้น “การเลือกตั้ง” ดำเนินมาตรการ”ชัตดาวน์”ปิดเมืองประกาศตนเป็น “คนดี”
ส่วนหนึ่ง มาจาก “นักการเมือง” ซึ่งเติบใหญ่มาจากแต่ละ”ซุ้ม” ที่พร้อมจะถลาเข้าหาผลประโยชน์และอำนาจ
นี่ย่อมเป็นหนังคนละม้วนจากที่เคยร้องร่ำทำเพลง
เราจะทำตาม “สัญญา” ขอ “เวลา” อีกไม่นาน
ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับก็คือ ประชาชนรอคอยมาเป็นเวลา 3 ปีและ 4 ปีเพื่อที่จะได้การเมืองแบบนี้หรือ
การเมืองของ “คสช.”
คำว่า “ปฏิรูป” ก่อนการเลือกตั้งความหมายเป็นอย่างเดียวกับปฏิบัติการ “ดูด”กระนั้นหรือ
นี่หรือคือ “เป้าหมาย”ที่คสช.ทำ “รัฐประหาร”