คนโดนสิงห์ : วันนี้ที่ “รอคอย”

หลังพยายามมาพอสมควร โดยเฉพาะผลงานครึ่งปีหลังที่แล้ว และต้นฤดูกาลนี้

ในที่สุด” “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล” พี่สาวอดีตมือ 1 โลกอย่าง” “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล” ก็คว้าแชมป์รายการอาชีพครั้งแรกในชีวิตได้เสียที

แถมยังเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับโลกแอลพีจีเอทัวร์ ศึก” “แอลเอ โอเพ่น”” ระหว่างวันที่ 19-22 เมษายน ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

ย้อนไปตลอด 2 ปีที่ผ่านมา โมรียาต้องเห็นน้องตัวเองสร้างปรากฏการณ์กระหึ่มโลก ทั้งเป็นหญิงไทยคนแรกที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ (โยโกฮาม่า ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิค 2016)

แล้วยังเป็นก้านเหล็กแรกในประวัติศาสตร์ได้แชมป์ 3 รายการแรกแบบติดต่อกัน (คิงสมิลล์ แชมเปี้ยนชิพ และแอลพีจีเอ วอลวิก แชมเปี้ยนชิพ ในเดือนพฤษภาคมทั้งหมด)

เท่านั้นไม่พอ เอรียายังกล้าๆ ผงาดแชมป์เมเจอร์” “วีเมนส์ บริติช โอเพ่น”” ในเดือนกรกฎาคม ตามด้วยอีกถ้วยแอลพีจีเอ “แคนาเดี้ยน แปซิฟิก วีเมนส์ โอเพ่น” เดือนถัดมา และนอนกอดเงินล้าน (ดอลลาร์สหรัฐ) กับการได้คะแนนสะสมสูงสุด “เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ” ก่อนนั่งบัลลังก์มือ 1 โลกกลางปี 2017 ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้ทั้งตัวเองและประเทศไทยเป็นอย่างมาก

เชื่อได้เลยว่า ต่อให้ยินดีอย่างใจจริงกับน้องสาวมากแค่ไหน โปรโมคงอดนึกน้อยใจไม่ได้ว่า เมื่อไหร่จะ” “ถึง”” วันของเธอเสียที

อันที่จริง ในปีที่จุฑานุกาลคนน้องขึ้นมือ 1 โลก คนพี่กลับมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่า ช่วง 6 เดือนหลังของปีด้วยซ้ำ

และส่อเค้าเหมือนจะได้แชมป์ให้เห็นเป็นระยะ เพียงแต่ “ความนิ่ง, ความแม่น” และ “ความสม่ำเสมอ” ของเธอยังไม่ “คลิก” กันจะจะเท่านั้น

กระทั่งอดีตรุกกี้หญิงยอดเยี่ยมปี 2013 วัย 23 ปี จะทำสำเร็จในรายการแอลเอ โอเพ่น พาร์ 71 ที่เมืองแห่งมายาฮอลลีวู้ด ซึ่ง 2 วันแรก เธอทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เปิดหัว 3 อันเดอร์พาร์ 68 ตามจ่าฝูง “ปาร์ก อินบี” อีกหนึ่งอดีตมือ 1 โลกจากเกาหลีใต้ แค่ 2 สโตรก

และเป็นผู้นำบ้างด้วยสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 134 ในรอบ 2

 

หากใครก็ตามที่เฝ้าติดผลงานโมรียามาตลอดจะรู้ได้เลยว่า การนำฝูงของเธอไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือน่าตื่นตาแต่อย่างใด

เพราะทุกคนกลัวว่าเธอจะสมาธิหลุดเสียเอง และมันก็เกือบกลับสู่อีหรอบเดิม หลังเจ้าตัวเริ่มแผ่วรอบ 3 ทำสกอร์เพิ่มได้จุ๋มจิ๋มเพียง 1 อันเดอร์พาร์ 70

ทว่า ทำบุญเก่าไว้เยอะ ยังนำร่วมกับ “โค จิน-ยอง” มือใกล้เคียงกัน 18 โลกจากเกาหลีใต้ ที่มาแรงทำท่าจะแซงทางโค้ง 2 รอบล่าสุด สกอร์รวม 3 วัน 9 อันเดอร์พาร์ 204

แต่นอกจากทั้งคู่ต้องระแวงกันเองแล้ว ยังไว้ใจอินบีที่ยืนจ้องเป็น “ตาอยู่” ห่างแค่ 2 สโตรกไม่ได้

และทันทีที่รอบสุดท้ายเปิดฉากขึ้น เหมือนโปรโมจะออกอาการเกร็งเห็นได้ชัด เนื่องจากถ้าไม่นับเบอร์ดี้แรกของวันตั้งแต่หลุม 2 ปรากฏว่า 9 หลุมต่อมาได้แต่ประคองตัวเซฟพาร์

โชคดีที่กอล์ฟเป็นกีฬาสุดแปลก ไม่เพียงแต่ต้องแข่งกับคนอื่นแล้ว จะต้องแข่งกับตัวเองอีกด้วย

เป็นเหตุให้โปรโมซึ่งมีสกอร์ขยับขึ้นจากเดิม 9 อันเดอร์พาร์ เป็นเพียง 10 อันเดอร์พาร์ ใน 11 หลุมนั้น ยังไม่หล่นฝูง เพราะจิน-ยอง ฟอร์มสะดุดเสีย 2 โบกี้ เอาคืนเบอร์ดี้เดียว

ส่วนอินบีก็ไม่แรงเท่าที่คิด ตี 2 เบอร์ดี้ พลาดเสีย 1 โบกี้

 

อย่างไรก็ตาม จาก 11 หลุมแรกที่ต่างคนต่างฝืด กลับมาเข้มข้นใน 7 หลุมสุดท้าย จู่ๆ โมรียาฟื้นมาดื้อๆ เก็บถึง 3 เบอร์ดี้จากหลุม 12-15 พรวดนำที่ 13 อันเดอร์พาร์ ขณะที่จิน-ยอง ก็ตื่นด้วยคน ทำเพิ่มอีก 2 เบอร์ดี้เป็น 10 อันเดอร์พาร์ อินบียังอยู่ที่ 8 อันเดอร์พาร์

ทว่า โมรียาฟื้นได้ ก็วูบได้ เสียโบกี้หลุม 16 ทำให้จิน-ยองที่แค่เซฟพาร์มีสกอร์เข้าใกล้แบบไม่ต้องออกแรง 2 สโตรก และอินบีเก็บเบอร์ดี้บีบเหลือ 3 สโตรก

แม้โปรโมน่าจะเปิดซิงแชมป์ครั้งแรกไม่ยาก หลังหลุม 17 ยังนำ 2 คนด้วยความห่างเท่าเดิม แต่แล้วแรงกดดันทุกอย่างก็ถาโถมเข้ามา เมื่ออินบี และจิน-ยอง ซึ่งได้ทีออฟหลุมสุดท้ายพาร์ 3 ระยะ 170 หลาก่อน หวดลูกไปจ่อปากหลุมไม่กี่ฟุต ส่งผลให้โปรโมหน้าเปลี่ยนสี และลนจนตีช็อตแรกไกลจากหลุมเกือบ 20 ฟุต

ดีที่หลุมนี้แค่พาร์ 3 โมรียาจึงแก้ไขสถานการณ์ไม่ยาก พัตลูกไปใกล้หลุมเพื่อเซฟพาร์ ขอเพียงอย่าเสียโบกี้ ไม่อย่างนั้นจิน-ยองที่กำลังได้เบอร์ดี้จะตีเสมอ 11 อันเดอร์พาร์ ต้องหาแชมป์ด้วยการดวลเพลย์ออฟแทน ทว่า กลับเป็นจิน-ยอง ที่พัตเบอร์ดี้ไม่กี่ฟุตพลาดไปเอง จึงยากที่โมรียาจะพลาดตามถึง 2 ช็อต แล้วก็เซฟพาร์คว้าแชมป์

ท่ามกลางความปลาบปลื้ม “คุณแม่นฤมล ติวัฒนาสุข” และ “เอรียาน้องสาว” ที่ยืนลุ้นอยู่ไม่ห่าง รวมทั้ง “คุณพ่อสมบูรณ์ จุฑานุกาล” อยู่ในไทย

ก่อนโปรโมจะแย้มเคล็ดลับความสำเร็จสั้นๆ แต่ได้ใจความว่าต้อง “อดทน” และฝันที่เป็นจริงก็จะตามมาเอง