ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 - 19 เมษายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | รักคนอ่าน |
เผยแพร่ |
เรื่องรักบางเรื่องเราก็ไม่สมควรได้รับรู้
ความรักเป็นเรื่องเร้นลับอย่างยิ่ง ส่วนตัวอย่างยิ่ง
และความรักอย่างเดียวก็ไม่มากพอจะประคองกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง
ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงเลือกหนทางนี้
เมื่อไม่รู้จึงได้แต่คาดเดาถึงเหตุผล ประกอบไปกับบางถ้อยคำที่เธอเผลอหลุดหล่นจากปากในบางเวลาสาหัสของชีวิต
เธอเข้าใจชีวิตจริง
ความรักควรจะทำให้คนเราดีขึ้น สบายขึ้น เป็นฐานที่มั่นคงมากพอจะฝากลมหายใจ
เพียงความรักเลื่อนลอยที่เต็มไปด้วยหนี้สิน การนั่งคิดว่าผักหญ้าริมรั้วตรงไหนพอจะเก็บกินได้บ้างเป็นเรื่องเต็มทน
ความรักไม่อาจสู้ความจริง
รักน้อยลง แต่มากขึ้นด้วยความมั่นคงสุขสบาย
เธอเลือกหนทางนั้น
เลือกทั้งที่รู้ว่าวันหนึ่ง, อดีตจะตามมาจับเธอเป็นตัวประกัน
“ที่ผมรู้คือการเขียนมีไว้เพื่อเยียวยาความไม่รู้เหล่านี้ สำหรับผม การเขียนคือการฆ่าตัวตายโดยไม่ต้องตายลงไปจริงๆ ทุกคืน ทุกความทุกข์เศร้าของเราถูกกักเก็บในบ่อจนกลายเป็นตัวหนังสือไร้ความหมาย ผมเขียนถึงความไม่รู้ เดินไปบนเส้นขอบของความรู้และความไม่รู้เกี่ยวกับความตายของตัวละครและของตัวเอง”*
ฉันได้อ่าน “เงาของเมฆ” ในวัยที่ได้เรียนรู้ความลับของชีวิตคนอื่น และมีความลับในเรื่องของตัวเองมากขึ้น แก่ชราพอจะเข้าใจเหตุลับต่างๆ แต่อ่อนเยาว์เกินกว่าจะสิ้นความรู้สึกหรือจัดการรับมือกับมันได้อย่างปลอดภัย
เรื่องรักของพ่อแม่เป็นเรื่องยากจะจินตนาการพอๆ กับการนั่งคิดถึงกระบวนการเกิดของตัวเราเอง ธรรมชาติมีวิธีให้ คือคนที่เราสวัสดีตอนเช้า คนที่เป็นเจ้าชีวิตเรา คนที่ดุ คนที่ดี คนที่ไม่สนใจ คนที่เมินเฉย และคนที่ควรจะเข้มแข็งกว่าเรา กอดก่ายประสานร่างกายสู่กัน ก่อกำเนิดออกมาเป็นเรา
มันอาจเป็นเพียงแค่กระบวนการที่ผสมไปด้วยความรู้สึกส่วนตัวหลากหลายอย่าง
และฉันไม่มีวันรู้ว่าความรักตักตวงพื้นที่ความรู้สึกระหว่างกิจนั้นไปได้ซักเท่าไรกัน
และฉันก็ต้องมารับรู้ว่าคนทุกคนต่างมีความหลัง
โลกไม่ได้เริ่มขึ้นเมื่อฉันก่อกำเนิด
หากย้อนไปไกลกว่านั้น
มีตัวละครมากมายกว่านั้น
ครอบครัวไม่ได้ประกอบด้วยคนสามคนเพียงพ่อ แม่ลูก
กรณีพ่อ, ฉันแปลกใจแต่ไม่ค้างคา คำอธิบายง่ายๆ ของพ่อเรื่องคนที่อยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ดูเป็นเหตุเป็นผลดี อาจเพราะฉันรู้สึกว่าเรื่องราวมันผ่านมาแล้ว มีจุดเริ่มต้นและจุดจบชัดเจนพอจะเข้าใจ
ซึ่งนั่นมันต่างออกไปในกรณีของแม่
พื้นที่ใต้เงาของเมฆไม่ร่มเย็นพอจะอยู่ได้ยาว
คำสารภาพรักที่ทั้งมาก่อนเวลาและช้าเกินไป
พริบตาผ่านไป เธอก็ไม่ใช่สาวน้อยคนเดิมคนนั้น
แต่ความรักที่ระอุคุกรุ่น ความรุ่มร้อนที่เรื้อรังไม่ได้รับการเยียวยา
แม้วันผ่าน
เมื่อกลับมาสบตา
พลันเธอกลายร่างกลับไปเป็นสาวน้อยช่างฝันคนเดิม
ควันจากกองไฟไม่มากนัก เมื่อเชื้อของมันเป็นหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม
-เผาพร้อมกันเยอะๆ ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคนรู้-
เถ้าถ่านของเลือดและชีวิตและพระเจ้าอยู่ที่ไหนเผาไหม้ปะปนกัน
-พระเจ้าอยู่ที่ไหน- คำถามนี้ถูกจารึกลงในทุกช่วงตอนของประวัติศาสตร์และชีวิต มีคำตอบเป็นร้อยเป็นพันให้กับคำถามนี้
แต่ฉันไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วพระเจ้าของแม่อยู่ที่ไหน
หรือจะเคยมีพระเจ้าแห่งความสงบสุขเกิดขึ้นในใจของเธอบ้างหรือเปล่า
เผาหนังสือของวัยหนุ่มสาวตามที่โดนสั่ง
ความกล้าหาญลดเหลือเพียงคนที่เดินเคียงข้าง
จากสถานศึกษาหน้ารามกลับปากน้ำ
ความอันตรายไม่กล้ำกรายคู่รักหนุ่มสาว
ฉันหยุดการเติบโตนิรันดร์
เพื่อจะใช้เวลาจ้องมองอีกครั้ง
ร่วงหล่นอีกครั้ง
ในโลกที่ผ่านหน้าฉันไปแล้ว
พอเธอเติบโตขึ้นเราอาจกลับมาพบกัน
เพื่อที่ฉันจะตกหลุมรัก
ความไม่อาจจดจำของเธอ
ว่าเราเคยงดงามเพียงไรในวัยวันหนึ่ง*
ช่างมันเถิด, ฉันคิด
เราต่างก็มีความลับในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น
ปล่อยให้เรื่องรักที่เคยถูกปิดกั้น ได้เติบโตภายใต้เงาของความป่วยด้วยไข้ความจำต่อไป
เพื่ออย่างน้อยให้ได้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ
ในวันที่เราทุกคนล้วนมุ่งหน้าไปสู่ความตาย
———————————————————————————————————
*ข้อความจากในหนังสือ