‘เฟซบุ๊ก’รับเก็บข้อมูลผู้ใช้เว็บ-แอพพ์ที่ใช้บริการเฟซบุ๊กด้วย ชี้กูเกิล-ทวิตเตอร์ใช้วิธีเดียวกัน

(FILES) This file photo taken on November 20, 2017 shows logos of US online social media and social networking service Facebook. Facebook took out full-page ads in European newspapers on April 16, 2018 to trumpet tough new EU legislation that promises "more data protection for you", as the company seeks to win back trust following a damaging privacy scandal. The new law, set to come into effect on May 25, aims to give users more control over how their personal information is stored and used online, with big fines for firms that break the rules. / AFP PHOTO / LOIC VENANCE

เดวิด เบเซอร์ ผู้อำนวยการการจัดการผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก ระบุผ่านบล็อกเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ยืนยันว่า เฟซบุ๊กไม่ได้เก็บข้อมูลเฉพาะผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเท่านั้น แต่เก็บข้อมูลผู้ที่ใช้แอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ที่ใช้บริการของเฟซบุ๊กอย่างการล็อกอินผ่านเฟซบุ๊ก รวมไปถึงปุ่มไลค์ ปุ่มแชร์

การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลัง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ชี้แจงต่อสภาคองเกรสในกรณีดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนโดยระบุว่าเฟซบุ๊กเก็บข้อมูลผู้ใช้งานนอกเหนือไปจากการโพสต์ข้อความผ่านโปรไฟล์ของตัวเอง

เบเชอร์ระบุว่า เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่ใช้บริการของเฟซบุ๊ก อย่างการล็อคอินผ่านเฟซบุ๊ก บริการโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงปุ่มไลค์ ปุ่มแชร์ของเฟซบุ๊ก เฟซบุ๊กจะได้รับข้อมูลแม้คุณจะล็อกเอาท์ หรือแม้ไต่ไม่มีบัญชีเฟซบุ๊กก็ตาม

นอกจากนี้เบเชอร์ ยังยอมรับด้วยว่าไม่เพียงแต่เฟซบุ๊กที่ใช้วิธีการดังกล่าว ทว่ากูเกิล และทวิตเตอร์ก็ใช้วิธีการดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามเบเชอร์ ระบุข้อมูลต่างๆที่เก็บนั้นมีเหตุผลเพื่อพัฒนาความปลอดภัยบนเฟซบุ๊กและสนับสนุนความสามารถของผลิตภัณฑ์และบริการของเฟซบุ๊ก พร้อมทั้งยืนยันว่า เฟซบุ๊กไม่ได้ขายข้อมูลของผู้ใช้งาน