‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปธ.องคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ให้ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นำรัฐมนตรีทหาร และ ผบ.เหล่าทัพ เข้ารดน้ำขอพรวันสงกรานต์ แต่ปีนี้ทุกอย่างดู ‘เรียบง่าย’ กว่าทุกปี เพราะ ‘ป๋าเปรม’ ให้รดน้ำเพียง 9 คนเท่านั้น ได้แก่ นายกฯ พร้อมด้วย 2 รองนายกฯทหาร ‘บิ๊กฉัตร’พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ‘บิ๊กจิน’พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง และฝั่งทหารได้แก่ ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกลาโหม พร้อม 5 ผบ.เหล่าทัพ

“ผมต้องขอโทษ ที่ไม่สามารถให้ทุกคนได้รดน้ำ ทั้งๆที่จะคุยด้วย แต่ตอนนี้นายกฯ งานก็เยอะ และผมก็ไม่มีเวลามากพอ ที่จะให้ทุกคนรดน้ำด้วย” พล.อ.เปรม กล่าว

แน่นอนว่ามีการ ‘ตีความ’ ไปถึง ‘สุขภาพ’ ของ พล.อ.เปรม ที่ยังไม่เต็มร้อย หลัง ‘ป๋าเปรม’ มีปัญหาสุขภาพมาตั้งแต่ต้นปี ที่ไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงรับรองวันกองทัพบก 21ม.ค. อีกทั้งไม่ได้ออกงานพบสื่อยาวมาถึง การเปิดบ้านวันสงกรานต์ 11เม.ย.ที่ผ่านมา โดยช่วงต้นปีนายทหารคนสนิท ‘ป๋าเปรม’ เปิดเผยว่า พล.อ.เปรมร่ายกายอ่อนเพลีย ทานอาหารได้น้อยลง แพทย์จึงขอให้พักผ่อน งดออกงาน แม้ต่อมา พล.อ.เปรม แข็งแรงขึ้น จนสามารถเดินออกกำลังกายในบ้านได้ตามปกติ
.
การเปิดบ้านของ พล.อ.เปรม ครั้งนี้ จึงสยบกระแสข่าวเรื่อง ‘สุขภาพ’ ที่ลือถึงขั้น ‘ป่วยหนัก’ ไปได้บ้าง แต่ยังมีการพูดถึงเรื่อง ‘สุขภาพ’ อยู่ ด้วย ‘ป๋าเปรม’ ให้รดน้ำขอพรเพียง 9 คน การยืนทรงตัวต่างๆ และไม่ได้เดินพูดคุยกับรัฐมนตรีทหาร ผบ.เหล่าทัพ และนายทหารตำรวจ ที่มาร่วมขอพรและอวยพรเช่นตามปกติ

ทำให้ ‘เสธ.ณุ’ พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิท ‘ป๋าเปรม’ ได้ชี้แจงหลังพิธีฯทันที ว่า ท่านไม่ได้ป่วยและไม่ได้มีปัญหาเรื่องการทรงตัว ตามที่มองกัน และท่านอายุจะ 98 ปีแล้ว แม้จะสามารถยืนหลังตรงได้ แต่คออาจไม่ตรงบางช่วง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่ให้รดน้ำขอพรเพียง 9 คนนั้น เพราะไม่อยากนั่งนานเท่านั้น
.
ตรงกับบุคคลใกล้ชิดบ้านสี่เสาฯ ระบุว่า “ป๋าไม่ได้ป่วยตามที่เป็นข่าว ยังเดินออกกำลังกายในบ้านได้ปกติ แต่ที่ท่านไม่ออกงานช่วงนี้ เพราะไม่อยากเป็นข่าว เช่นครั้งที่เคยออกมาเตือนนายกฯเรื่องกองหนุนลด ก็ส่งผลต่อรัฐบาลไม่น้อย”
.
ทำให้คำอวยพรที่ พล.อ.เปรม ส่งให้ ‘บิ๊กตู่’ ครั้งนี้ จึง ‘เรียบ’ และเต็มไปด้วย ‘พลังบวก’ ไม่มีการสะกิดเตือนเรื่องใดเป็นพิเศษหรือเตือนกันตรงๆออกสื่อ แต่มีเรื่องที่ พล.อ.เปรม เตือนรัฐบาลแฝงอยู่คือ ‘ระยะเวลา’ ในการทำเพื่อบ้านเมือง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลและคสช.ถูกโจมตีหนักในเรื่อง ‘โรดแมปเลือกตั้ง’ และการ ‘คืนอำนาจ’ ให้ประชาชน ที่เลื่อนออกไปหลายครั้ง

อีกทั้งแสดงความมั่นใจกับ ผบ.เหล่าทัพ และ กองทัพ ที่จะเป็น ‘กองหนุน’ ที่สำคัญ เพราะที่ผ่านมามีข้อเสนอ ‘เสี้ยม’ ให้ ‘กองทัพ’ แยกออกจาก ‘รัฐบาล-คสช.’ ซึ่งผบ.เหล่าทัพก็ได้ประสานเสียง ‘ไม่แยก’ และหนักแน่น ‘สนับสนุน’ รัฐบาล-คสช.ต่อไป เพราะ ผบ.เหล่าทัพ เป็น ‘สมาชิกคสช.’ ด้วยนั่นเอง
.
“ในใจผมเป็นพวกเราเสมอ ผมพยายามเฝ้าดูว่า นายกฯจะพาประเทศของเราไปได้สำเร็จ จะใช้เวลาสักเท่าไหร่ ผมมั่นใจนายกฯและพวกเราทุกคน ผบ.เหล่าทัพ ว่าจะเป็นแรงสนับสนุนที่ดี ให้นายกฯสามารถดำเนินการบริหารประเทศให้สำเร็จให้ได้” พล.อ.เปรม กล่าว
.
ที่สำคัญ พล.อ.เปรม ยังได้ถามหา ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. ด้วยว่า “ป้อมไปไหน” ซึ่ง ‘บิ๊กตู่’ ได้ตอบกลับ พล.อ.เปรม ว่า “ท่านไม่สบาย ไปตรวจเช็คสุขภาพตามวงรอบ เส้นเลือดหัวใจ หลังไปบายพาสปีที่แล้ว” ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.เปรม มักจะถามถึง ‘บิ๊กป้อม’ เสมอ และถามถึงสุขภาพแทบทุกครั้ง

ปลายปีที่แล้ว นายกฯ ได้บอก ‘ป๋าเปรม’ ว่า พล.อ.ประวิตร นิ้วล็อค ซึ่ง ‘ป๋าเปรม’ ได้แซว ‘บิ๊กป้อม’ ไปต่อยใครมา โดย นายกฯ ได้ตอบแทนว่า “ต่อยตัวเอง” ซึ่ง ‘ป๋าเปรม’ ได้พยายามชวน ‘บิ๊กป้อม’ พูดคุย ก่อนจะเข้าเรื่อง ‘นิ้วล็อค’ โดย พล.อ.เปรม ได้ถาม พล.อ.ประวิตร ว่า ยังเล่นกอล์ฟหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่ได้เล่นแล้ว เพราะขาเจ็บ และก่อนหน้านั้นก็เคยทัก ‘บิ๊กป้อม’ ที่น้ำหนักที่ลดลงไปหลายกิโลฯด้วย

เป็นความห่วงใยที่ ‘ป๋าเปรม’ มีให้ ‘บิ๊กป้อม’ แม้ที่ผ่านมาจะมีกระแส ‘เสี้ยม’ ให้ทั้ง พล.อ.เปรม และ พล.อ.ประวิตร ให้มี ‘รอยร้าว’ แก่กัน เพราะต่างก็มี ‘บารมี’ ในกองทัพ ถึงขั้นเรียก พล.อ.ประวิตร ว่า ‘ป๋าป้อม’ เลยทีเดียว ซึ่งทำให้ พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาปฏิเสธการเป็น ‘บิ๊ก’ หรือการเป็น ‘ป๋า’ เพราะไม่ต้องการ ‘ตกเป็นเป้า’ และต้องการ ‘โลว์โปร์ไฟล์’ ตัวเอง

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ ‘ภาพความสัมพันธ์’ ของทั้ง ‘2ป.’ ป๋าเปรม-บิ๊กป้อม ออกมาแนบแน่นใกล้ชิด เพราะใน ‘สถานการณ์พิเศษ’ นี้ ทุกคนต้องช่วยกัน ‘ประคับประคอง’ บ้านเมือง ช่วง ‘เปลี่ยนผ่าน’ ให้กลับสู่ ‘สถานการณ์ปกติ’ ได้อย่างเรียบร้อย ตามที่ทุกฝ่ายตั้งใจ ดังนั้น ‘ป๋าเปรม’ และ ‘กองทัพ’ ต้องเป็น ‘กองหนุน’ ที่สำคัญให้ คสช. ทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ อย่าตกหลุมแรงเสี้ยม
.
เพราะรวมกัน ‘เราอยู่’ ดีที่สุด !!