ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 มีนาคม - 5 เมษายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | แนวโน้ม |
เผยแพร่ |
กิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย)
เปิดเผย
ยังมีโอกาสที่เงินทุนต่างชาติจะไหลออกได้อีกจากแรงกดดันการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันบอนด์ยิลด์ของสหรัฐสูงกว่าของไทย
ภาพรวมความเคลื่อนไหวของเงินทุนเคลื่อนย้ายทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีอยู่ที่ร้อยละ 2.9 ขณะที่ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 2.7
ผลของบอนด์ยิลด์สหรัฐที่สูงกว่าไทยส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากประเทศไทยต่อเนื่อง
โดยอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น ทำให้นักลงทุนกังวลต้นทุนทางการเงินในอนาคตของบริษัทที่อาจจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยไม่ได้โดดเด่นมากนัก จึงอาจไม่ดึงดูดให้เม็ดเงินลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นได้
เชื่อว่าเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจะไม่เกิน 1 แสนล้านบาทจากปัจจุบันที่ไหลออกแล้วประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มถือครองหุ้นไทยในระดับที่น้อยลง โอกาสที่จะขายออกมามากๆ จึงน้อยลงตามไปด้วย
ผลกระทบกับบริษัทจดทะเบียนไทยหากอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น บริษัทจดทะเบียนจะมีต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยกระทบกับบริษัทในกลุ่มเช่าซื้อ แต่จะส่งผลดีกับกลุ่มธนาคาร