ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 กันยายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | รักคนอ่าน |
เผยแพร่ |
เรือนร่างเงียบเชียบ การบอกลาเย็นเยียบน่าขยะแขยง : อ่านแล้วฉันนึกถึงรอยผ่าคอของตัวเอง
หมอพยายามทำให้กลมกลืนไปกับผิวที่สุด มันแนบเนียนจนหลายคนไม่รู้ว่ามันมีอยู่
แต่ฉันก็รู้ว่ามันอยู่ตรงนั้น
สัมผัสไม่เหมือนเดิมของเนื้อที่เกิดใหม่ปิดบังชิ้นส่วนแปลกปลอมและเรื่องราวของมันเอาไว้เบื้องหลัง
ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น
นอกจากฉัน
เสียงโลหะกระทบขอบถนนกับเสียงกรีดร้องของฉันเอง เสื้อกล้ามสีดำกับรองเท้าสีน้ำเงินเลอะรอยเลือด สัมผัสอุ่นๆ ของคอนกรีตกั้นทางที่คายความร้อนของมันออกมาซึมเข้ากระดูกสันหลัง ไฟถนนวับวาวและกลิ่นคาวเลือด
เพลงยังคงดังอยู่
หลายคนถาม และฉันก็เล่า
พอเล่าบ่อยเข้าฉันก็เบื่อ
ทำไมเรื่องราวมันช่างซ้ำซาก เรียบง่าย ไร้จุดกระตุ้นอารมณ์ได้ขนาดนี้นะ
ฉันอยากเติมแต่งเรื่องเข้าไป ใส่การทะเลาะกันรุนแรง การระเบิดอารมณ์
ชีวิตเราที่บุบสลายผุพังไปสมควรได้รับความเร้าใจมากกว่านี้สิ
ฉันคิดเรื่องใหม่ๆ เติมความตื่นเต้นเข้าไป รู้ว่าจะหยุดตรงไหนเพื่อเรียกอารมณ์คนฟัง เริ่มเล่าต่อหลังเสียงถอนหายใจและน้ำเอ่อนัยน์ตา
แต่ฉันก็ได้แต่เล่าให้ตัวเองฟัง
มันเรียบง่ายเกินไป
ง่ายจนไม่มีใครอยากเชื่อว่าเรื่องราวแบบนี้จะทิ้งร่องรอยร้าวรานต่อเนื่องได้เป็นปีๆ
เรื่องราวเกี่ยวพันของผู้คนในเมืองที่มีหอนาฬิกา ผูกพันชะตากรรมดำมืดลับลี้ของพวกเขาเอาไว้
หญิงคนหนึ่งซึ่งสูญเสียลูกชายแวะเข้าไปในร้านขนมเค้ก ช่างตัดเย็บกระเป๋าสำหรับใส่หัวใจ เสื้อกาวน์มีความลับซุกซ่อนไว้ ลมหายใจสุดท้ายของเสือเบงกอลในพิพิธภัณฑ์แห่งการทรมาน กลิ่นความตายฝังตัว ล่องลอย โอบกอด แทรกมวลอยู่ทั่วไปในเมืองนี้
บางที, หมออาจจะล้วงเอาหัวใจฉันออกมาจากทางแผลนั้นแล้วเอาไปเก็บไว้ที่อื่น
เพราะฉันรู้สึกเศร้าน้อยลง
การมีหัวใจมีแต่จะนำมาซึ่งความเศร้าล้ำลึกแบบไร้จุดจบ
ฉันเก็บตัวมากขึ้น ออกไปเจอคนอื่นน้อยลง
ไม่เลี้ยงสัตว์
ไม่เลี้ยงพืช
ไม่สะสม
นอนจมอยู่กับความไร้อารมณ์นี้อย่างมีความสุขสมบูรณ์
ฉันนึกไม่ออกว่าการต้องข้องเกี่ยวกับคนเยอะๆ จำวันเกิดคนนั้น ไปงานแต่งของคนนี้จะสามารถทำได้อย่างไร
บาดแผลที่ทิ้งรอยไว้แทบจะทั่วตัวฉันล้วนแล้วแต่มีที่มา
แผลนั้นรวมเข้ากับเรื่องราวของน้ำตาที่ฉันสูญเสียให้กับความรักที่หลุดลอย
แผลนี้เล่าถึงความโง่งมที่ฉันนึกว่ามันคือความรัก
นาทีที่ทำให้เกิดแผลแต่ละรอยนั้นช่างแสนสั้น แต่เรื่องราวเบื้องหลังนั้นยาวนาน มันใช้เวลาทั้งชีวิตค่อยๆ เดินทางไปสู่การสร้างรอยแผล อะไรที่ทำให้เราเป็นคนแบบนี้ อะไรที่ทำให้เรามุ่งหน้าไปสู่ความเจ็บปวดที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้
บางทีหัวใจฉันคงยับเยินเกินไป แผลเป็นทิ้งรอยหนานูนเกินแก้ไขเยียวยา เหลือเพียงเศษเนื้อไม่ปะติดปะต่อกับรอยเชื่อมไร้ที่มาปราศจากจุดหมาย ฉันเหมือนเป็นของชำรุดที่แม้จะใช้งานได้ แต่คนก็อยากวางเอาไว้เฉยๆ โดยไม่กล้าทิ้ง
ใครจะตัดใจทิ้งความทรงจำของตัวเองได้ง่ายดาย
อะไรที่ยังต้องทำก็ทำต่อไป
มีคนบอกว่าเมื่อไหร่ที่เรารู้ว่าสิ่งนี้คือปัญหาและรู้ว่าต้องเดินออกมา นั่นคือเรามีปัญญา
เมื่อเราตัดสินใจก้าวออกมาแล้วเดินไปข้างหน้า ถือว่าเรามีความกล้าหาญ
และศักดิ์ศรีของเราจะยังคงอยู่หากเราก้าวเดินโดยไม่เหลียวกลับไปอย่างอาลัยอาวรณ์
ฉันยังมีศักดิ์ศรีอยู่
เพราะฉันยังมีวันให้ก้าวต่อไป
และยังมีพื้นที่ร่างกายอีกมากมายเพื่อใช้สลักรอยแผลเป็น
Revenge (เรือนร่างเงียบเชียบ การบอกลาเย็นเยียบน่าขยะแขยง) เขียนโดย Yoko Ogawa แปลโดย นลินญา จรูญเรืองฤทธิ์ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก กันยายน2559 โดยสำนักพิมพ์ไจไจบุ๊คส์