จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 9-15 มีนาคม 2561

จดหมาย

เราจะรู้ไหมว่า…(1)

ข้องใจในการทำงานของข้าราชการไทยและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาก
1) ถ้าไม่มีการฆ่าเสือดำ
เราจะรู้ไหมว่า มีการบุกรุกที่ดินสร้างรีสอร์ตและสร้างสนามบินส่วนตัวเป็นพันๆ ไร่
การสร้างรีสอร์ต สร้างสนามบิน ไม่ใช่เรื่องที่จะแอบทำแบบซ่อนเร้นได้
2) ถ้าไม่มีการแจกอั้งเปาตำรวจ
เราจะรู้ไหมว่า มีผู้เอาเวลาราชการไปทำธุระส่วนตัวตั้งเก้าสิบกว่าวัน โดยผู้บังคับบัญชาไม่รู้
3) ถ้าไม่มีการทุบรถที่จอดขวางทางเข้า-ออก
เราจะรู้ไหมว่า มีการเปิดตลาดโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
คงจะมีกรณีอย่าง 3 ข้อข้างต้นนี้อีกมากมาย
ที่ปล่อยปละละเลยหรือเอื้อประโยชน์ เพื่อรับสินบน
ถึงเวลาหรือยัง ที่ต้องหาผู้ทำผิดเหล่านี้ทั้งหมด และลงโทษอย่างจริงจัง
แม้จะเกษียณแล้วก็ตาม ซึ่งจะทำให้การทุจริตในเมืองไทยลดน้อยลงบ้าง
คนอีสาน

ถ้าไม่มีการปฏิวัติ
เราจะรู้ไหมว่า
บางที กฎเหล็ก ระดับ ม.44
ที่จะปราบผู้มีอิทธิพล ปฏิรูปตำรวจและปราบโกง แบบเบ็ดเสร็จ
ก็ “บ่ มี ไก๊” เหมียนกัน-แฮ่ม

เราจะรู้ไหมว่า…(2)

ตามที่ปรากฏกรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
ซึ่งยิ่งตรวจสอบยิ่งพบพฤติการณ์ฉ้อโกงเงินคนจนกันอย่างเป็นกระบวนการ และอย่างไม่ละอาย
จนกระทั่งหัวหน้า คสช. ต้องใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งย้ายปลัดและรองปลัดกระทรวง พม. ไปประจำสำนักนายกฯ นั้น
กรณีดังกล่าว เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นขบวนการใหญ่ระดับประเทศที่มีการสมคบคิดกันอย่างเป็นขบวนการดำเนินการกันเกือบทุกจังหวัด
ซึ่งข้าราชการ พม. ระดับเล็กๆ คงไม่กล้ากระทำหากไม่ได้รับการคุ้มครองจากผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ยันถึงระดับนโยบาย
ดังนั้น การที่กระทรวง พม. ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงจึงไม่ใช่ข้อยุติในการหาผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ได้ทั้งหมด
เพราะไม่สามารถสอบไปถึงผู้บริหารในระดับนโยบายได้
นอกจากนั้น กระทรวง พม. ไม่ใช่แต่จะมีโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้แต่เฉพาะคนไร้ที่พึ่ง-ผู้ป่วยเอดส์เท่านั้น
หากแต่มีอีกหลายโครงการที่ใช้เงินงบประมาณหลายหมื่นล้านบาท
โดยเฉพาะ “โครงการบ้านมั่นคง” ที่มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตอย่างมหาศาลอีกด้วย
ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงขอเรียกร้องให้ “คณะกรรมการธุรกรรม” ภายใต้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
เร่งรีบเข้ามาใช้อำนาจตามมาตรา 48 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม
เพื่อตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินและเส้นทางทางการเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
ตั้งแต่พนักงานเจ้าหน้าที่ในระดับจังหวัดทุกจังหวัดไปจนถึงระดับนโยบาย ระดับรัฐมนตรี และระดับรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวง พม. ด้วย
เพื่อจะสามารถยับยั้งการโยกย้ายถ่ายโอนเงินที่เกิดขึ้นจากการกระทำความผิดในหลายๆ โครงการได้ทันการณ์
เพื่อเสนอผลการตรวจสอบให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
นายศรีสุวรรณ จรรยา
เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย

ถ้าไม่มีนิสิตฝึกงาน
ออกมาเปิดโปงเรื่องข้างต้น
เราจะรู้ไหมว่า
มี “ข้าราชการ” ยุค “คสช.” ใจจืดใจดำโกงเงินคนจนได้ลงคอ

เราจะรู้ไหมว่า…(3)

ผมเห็นว่าบ้านเมืองเราไม่ค่อยสงบสุข
มีความขัดแย้งเพราะเราห่างพระพุทธองค์
เราควรหัดคิดตามพระพุทธองค์ดังนี้
คิด ผิด-ถูก : เป็นปุถุชน-คนหนาด้วยกิเลส หรือคนธรรมดา
คิดถึง บาป บุญ ชั่ว (บาป บุญคุณ โทษ) : เป็นกัลยาณชน (คนดี)
คิดอะไรควร อะไรไม่ควร : เป็นนักปราชญ์ (วิญญูชน)
คิดถึงอริยสัจ 4 และปฏิบัติได้ : เป็นพระพุทธเจ้า
ความคิดเหมือนเรือ เมื่อข้ามถึงฝั่งแล้ว ก็ไม่ต้องแบกเรือไปด้วย
ข้อเสียของคนคือ ทำโดยไม่คิด
ข้อเสียของชีวิตคือ คิดแล้วไม่ทำ
พระสวดปาฏิโมกข์ ไม่เข้าใจคำแปล ก็ไม่แน่ว่าจะได้ขึ้นสวรรค์
ตะวันรอน อ.ลอง จ.แพร่

สาธุ
แล้ว…แป๊ะจะรู้ไหมว่า
การแบกเรือต่อไป ทั้งที่ถึงฝั่งแล้ว
มัน หนากกก… ขนาดไหน
ป.ล. ข้อเสียของชีวิต คือคิดสืบต่ออำนาจ (ฮา)