นาย ต. : บทเรียน “เพซ”

คอลัมน์ก่อสร้างและที่ดิน

กรณีการแก้ปัญหาทางธุรกิจโดยการเจรจาตัดขายบางส่วนของทรัพย์สินออกไป ของ บมจ.เพซ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่มี สรพจน์ เตชะไกรศรี เป็นซีอีโอ เป็นประเด็นร้อนที่คนในวงการอสังหาริมทรัพย์ติดตามอย่างใกล้ชิดด้วยความระทึกใจ

เพราะเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คนรุ่นใหม่ “คุณยิ่ง” สรพจน์ เตชะไกรศรี ที่มีรสนิยมเนี้ยบ ทำงานหนัก มีความทะเยอทะยานที่จะทำโครงการพัฒนาอสังหาฯ ชั้นดีอย่างพิถีพิถันแบบที่บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ทั่วไปไม่ทำกัน และจะทำปีละไม่มาก เพียงปีละ 1 โครงการ

โครงการที่ บมจ.เพซฯ ทำ ได้แก่ โครงการตึกมหานคร เป็นตึก 77 ชั้นสูงที่สุดในประเทศไทยก่อสร้างแล้วเสร็จ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ประกอบด้วยส่วนของอาคารชุดเพื่อขาย ส่วนของโรงแรม และส่วนที่เป็นร้านอาหารท่องเที่ยวชมวิว มูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท

โครงการนิมิตร หลังสวน ที่อยู่อาศัยซูเปอร์ลักซัวรี่ ถนนหลังสวน-สาระสิน ติดสวนลุมพินี สูง 53 ชั้น เป็นฟรีโฮล เรสซิเด้นท์ 187 ยูนิต ราคาตารางเมตรละกว่า 3 แสนบาท เป็นโครงการที่สำเร็จในการเปิดจองอย่างรวดเร็ว

โครงการมหาสมุทร วิลล่า เป็นโครงการไพรเวท คันทรีคลับ ที่มีเพียง 50 หลังราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท

 

การทำโครงการพัฒนาอสังหาฯ ของเพซ แต่ละโครงการ จะใช้การออกแบบชั้นดีของโลก ใช้วัสดุก่อสร้างอย่างดี และใช้ผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำ ผลงานที่ออกมาจึงเป็นที่ยอมรับของวงการพัฒนาอสังหาฯ และเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ

นอกจากโครงการอสังหาฯ แล้ว บมจ.เพซ ยังลงทุนซื้อ “ดีน แอนด์ เดลูก้า อินเตอร์เนชั่นแนล” แบรนด์ดังธุรกิจคาเฟ่จากสหรัฐเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ แนวไลฟ์สไตล์ ด้วยเงินอีกไม่น้อย

การลงทุนทำโครงการพัฒนาอสังหาฯ ดังกล่าวของ “เพซ” นอกจากชื่อเสียงและรางวัลต่างๆ ที่ได้รับแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ตามมาคือหนี้สินจำนวนมหาศาล

อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่สูงลิ่วน่ากลัว

 

ทางเลือกหรือความเป็นไปได้ของการทำโครงการอสังหาฯ แบบนี้คือ

หนึ่ง สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้ เศรษฐกิจการเมืองในประเทศเติบโตราบรื่น และเศรษฐกิจโลกไม่มีวิกฤตใหญ่ๆ ก็จะมีกำไรมหาศาลด้วยอัตราสูงลิ่ว ได้ทั้งเงินทั้งกล่อง

สอง เจอปัญหาอุปสรรค เศรษฐกิจการเมืองไม่เป็นใจ ก็จะเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

ปัจจุบัน “เพซ” กำลังอยู่ในความเป็นไปรูปแบบที่สอง ขาดสภาพคล่อง ต้องเดินเข้าเส้นทางตัดขายทรัพย์สินบางส่วนออกไป อาทิ ดีนแอนด์เดลูก้า ห้องชุดในโครงการมหานคร และโครงการนิมิตร หลังสวน

ล่าสุด บมจ.แสนสิริ ที่เข้ามาทำดีลเจรจาซื้อห้องชุดในโครงการมหานคร และนิมิตรหลังสวน ประกาศยกเลิกดีลไป

หนทางข้างหน้าของ “เพซ” จะเป็นอย่างไร ยังต้องติดตาม และต้องนับถือในผลงานการพัฒนาอสังหาฯ ที่ผ่านมา

เรื่องราวที่เกิดขึ้นต้องถือเป็นบทเรียนสำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จะนำมาทบทวนและกำหนดเป็นแนวทางสำหรับตนเอง

สำหรับภาพรวมของอสังหาฯ ทั้งประเทศ กรณีที่เกิดขึ้นกับ “เพซ” จะเป็นสัญญาณการถดถอยของตลาดอสังหาฯ หรือไม่ หรือจะเป็นเพียงสัญญาณเตือนให้ระมัดระวัง หรือเป็นเพียงปัญหาเฉพาะของแต่ละบริษัท

อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณของผู้ชม