ฟ้า พูลวรลักษณ์ : จะมี”ความหวัง”หาก”การเมือง” เป็นเรื่อง”สากล”

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๐๖)

ข่าวปลอม ทำลายสามัญสำนึกก่อน

แล้วจากนั้น มันก็จะทำลายสิ่งอื่นๆ ตามมา

แต่ชาวบ้านจะไม่ค่อยสนใจ ข่าวปลอมจึงขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เป็นต้นวัชพืชพิษ ที่แผ่ลามไปเรื่อย ไปทุกประเทศ

ข่าวปลอมไม่จำกัดพื้นที่ มันอาจมาจากแอฟริกา หรือยุโรปเหนือสุด หรือมาจากจีน อินเดีย

แต่ที่แน่นอน มันต้องเป็นศัตรูกับสามัญสำนึกก่อน ชาวบ้านชอบมาก ด้วยเหตุผลเดียวกับที่พวกเขาชอบเครื่องรางของขลัง หรือปาฏิหาริย์

ต่างกันที่ว่า บัดนี้ มันมาเพื่อทำร้ายมนุษย์โดยตรง มันฆ่าก่อน แล้วจึงค่อยยอมให้ตรวจสอบ

ในที่สุด มนุษย์ทุกคนจะถูกหลอก

หลายข่าวปลอม เป็นข่าวจริงในอดีต ที่ถูกนำมาเสนอใหม่ เช่น พายุของเมื่อสิบปีก่อน หรือน้ำท่วมใหญ่ของห้าปีก่อน แต่ถูกนำมาเสนอเหมือนกับว่าเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง

สิ่งที่น่ากลัวบนโลกนี้คือ mind-set

มนุษย์มี mind-set ที่แตกต่างกัน

ความแตกต่างเพียงนิดเดียวนี้ ทำให้มนุษย์ทำสงคราม เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว นี่คือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าตัวชีวิตเองเสียอีก

ยกตัวอย่างเช่น ในยุคกลาง สงครามศาสนา ที่จริงเกิดจากการตีความในพระคัมภีร์ที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่แล้วก็เกิดศาสนาที่แตกต่าง ซึ่งทำให้เกิด mind-set ที่แตกต่าง

ทันใดนั้นสงครามศาสนาก็เกิดขึ้น ทั้งที่เวลาผ่านไป เราจะพบว่าความแตกต่างเหล่านั้น ช่างเล็กน้อยเหลือเกิน

๗ ในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบ เรามีความแตกต่างของระบบทุนนิยม กับระบบคอมมิวนิสต์ ทำให้เกิดสงคราม เกิดความเกลียดกลัวกันอย่างลึกซึ้ง แต่เวลาผ่านไป วูบหนึ่งเราจะแปลกใจ ที่พบว่า นี่เป็นเพียงความแตกต่างของ mind-set เท่านั้นเอง ที่จริงไม่ว่าจะไปทางไหน ไม่ว่าจะทำอะไร มนุษย์เราก็ไม่ได้แตกต่าง

เพียงเราหลุดพ้นจากการเกาะกุมของ mind-set เท่านั้นเอง

มันเป็นโซ่ตรวนที่ลึกซึ้งยิ่งนัก เพราะมันเป็นเส้นเล็กนิดเดียว แต่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้

mind-set ทำให้เรากำหนดว่าคนคนนี้เป็นยิว หรือเป็นอิสลาม หรือเป็นอะไรก็ช่าง ที่จิตของเรากำหนดไว้ก่อน แล้วพวกเขาก็ต้องรับโทษ ที่เรากำหนดไว้ก่อนอีกเช่นกัน แต่ที่จริงสิ่งนี้มีจริงหรือ

หรือเป็นเพียงสิ่งที่เรากำหนดขึ้นมาเท่านั้น

เรามองเห็นภาพนี้ไม่ชัด แต่แล้วเราก็กำหนดขึ้นมาเอง ว่าภาพที่ออกมาทำนองนี้ ต้องเป็นสิ่งนี้ เรากำหนดไว้ขึ้นมาเอง แล้วติดยึดกับมันอย่างเหนียวแน่น ยิ่งกว่าตัวชีวิตเอง

มีคำถามที่น่าสนใจคือว่า การเมืองเป็นเรื่องท้องถิ่น หรือเป็นเรื่องสากล

คำตอบมักจะออกมาว่า การเมืองเป็นเรื่องท้องถิ่น

อุดมคติทางการเมือง คือการพยายามยกระดับการเมืองที่เป็นเรื่องท้องถิ่น ให้กลายเป็นสากล

ความยากลำบากอยู่ที่ว่า มันเหนียวแน่น ยากลำบาก มันมักจะถูกดึงกลับลงไปเป็นเรื่องท้องถิ่น คนที่มีอุดมคติทางการเมืองจึงมักเป็นผู้แพ้ ต้องถูกฆ่า ต้องหลบหนี ไร้ที่อยู่อาศัย

การเมืองเป็นเรื่องท้องถิ่นมีพลังมากระดับนั้นเชียวหรือ มนุษย์เราจะสิ้นหวังถึงเพียงนั้นเชียวหรือ

๑๐ การเมืองไทยเห็นได้ชัด ว่าเป็นการเมืองแบบท้องถิ่น

ใครมีความคิดเห็นเป็นอื่นก็เป็นผู้แพ้

คนที่เล่นการเมืองแบบท้องถิ่น เรียกสิ่งนี้ว่า ความจริง

และคนที่เล่นการเมืองแบบสากล จึงเป็นผู้หลงฝัน

แต่คนหลงฝันก็มีจำนวนหนึ่ง ที่จับกลุ่มกัน รวมตัวกัน เรียกว่ากลุ่มฝัน

๑๑ ที่จริงแล้ว

๑ การเมืองเป็นเรื่องท้องถิ่น

๒ การเมืองเป็นเรื่องสากล

สองข้อนี้ ไม่มีขีดใดถูกต้องสมบูรณ์ เพราะพวกมันล้วนเป็นคลื่นแห่งความน่าจะเป็น

แม้ว่าวันนี้ข้อแรกจะแข็งแรงกว่ามาก แต่มันก็เป็นเช่นนี้ เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง

หากฉันเลือกได้ ฉันอยากเลือกให้การเมืองเป็นเรื่องสากล เพราะเป็นอย่างนั้นเท่านั้น มนุษย์จึงจะมีความหวัง แต่ฉันเลือกเองได้หรือ

ถ้าการเมืองเป็นเรื่องท้องถิ่นตลอดกาล มนุษย์เราจะสิ้นหวัง เพราะเราขยับตัวช้ามาก น้อยมาก ห้าสิบปีผ่านไป เราจะขยับตัวเพียงนิดเดียว เราเดินไปได้สองสามก้าว แล้วเราก็หยุดเดิน มิหนำซ้ำ เราจะก้าวถอยหลัง หนึ่งร้อยปีผ่านไป เราอาจพบว่า เราไม่ได้ไปไหนเลย

หนึ่งร้อยปีผ่านไป เราก็ยังคงอยู่ที่เดิม