ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 มกราคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | วิถีแห่งอำนาจ |
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร
กระบี่อสูร ต๊กโกวคิ้วป่าย (122)
อาจกล่าวได้ว่าเอี้ยก่วยได้รับการฝึกปรือผ่านพี่อินทรีอัปลักษณ์ กระนั้น กล่าวอย่างถึงที่สุดเท่ากับเป็นการฝึกปรือจากวิทยายุทธ์ของต๊กโกวคิ้วป่าย
เพราะพี่อินทรีอัปลักษณ์ อยู่กับต๊กโกวคิ้วป่าย
เรื่องนี้เอี้ยก่วยประเมินตั้งแต่ถูกลากดึงให้เข้ามาในหุบเขารกร้างแล้ว สิ่งที่เอี้ยก่วยได้นอกจากวิชาฝีมือซึ่งยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ ยังขึ้นอยู่กับพละกำลัง
กิมย้งบรรยายตามสำนวนแปล น.นพรัตน์ ออกมาว่า
ฝึกซ้อมในน้ำป่าครึ่งค่อนวันมีพลังรุดหน้ากว่าเดิม ในใจทั้งแตกตื่นทั้งยินดี หวนนึกถึงคนผู้หนึ่งมีพลังเพิ่มพูนไม่อาจกระทำสำเร็จในเวลา 10 วันครึ่งเดือน เหตุใดแทงจู่โจมในน้ำครึ่งวันกลับมีพลังกระบี่รุดหน้าเพิ่มพูน
คาดว่าดีของงูประหลาดนั้นคงมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างเอ็นกระดูกทำให้กำลังภายในเติบใหญ่โดยไม่รู้สึกตัว
ยามตกอยู่ในห้วงคับขันค่อยปะทุออกมา
นั่งพักริมลำธารครู่หนึ่งเรี่ยวแรงก็ฟื้นฟู ยามนี้มิต้องให้อินทรีอัปลักษณ์เร่งเร้าก็กระโดดลงไปในลำธาร ฝึกซ้องเพลงกระบี่เอง
กระโดดขึ้นฝั่งเป็นคำรบ 2 ไม่ทราบว่าอินทรีอัปลักษณ์ไปอยู่แห่งหนใด
สายฝนเริ่มอ่อนแรงจึงรู้ว่าน้ำป่าไหลทะลักอย่างฉับพลันผ่านไปรวดเร็ว กะทันหัน ช่วงชิงโอกาสที่ยังไม่เหน็ดเหนื่อยฝึกซ้อมต่อไป
พลันกระโดดหวนกลับไปยังลำธารอีก
กลับขึ้นฝั่งเป็นคำรบ 4 ปรากฏเห็นดีงู 2 ดี จึงประจักษ์ว่าที่อินทรีอัปลักษณ์หายไปมีเป้าหมายอย่างไร
จึงหยิบจับขึ้นรับประทาน แล้วหวนลงไปฝึกอีกคำรบ 1
ค่ำคืนนั้นเอี้ยก่วยไม่หลับไม่นอน ระหว่างฝึกซ้อมกลางสายน้ำก็คิดถึงหลักเหตุผลของกระบี่ที่แทงตาม พุ่ง ทวน ฟัน ขวาง ฟาดย้อนมากหลาย จนบัดนี้ค่อยล่วงรู้เข้าใจและตระหนักว่าเมื่อใช้กระบี่เช่นนี้สามารถทำลายล้างทุกสิ่ง
“ตัวกระบี่ไยต้องมีคม” เป็นคำถาม
“แต่หากนี่มิใช่เป็นกระบี่หนักอันมีน้ำหนักมากกว่ากระบี่ทั่วไปหลาย 10 เท่าก็มิอาจใช้เพลงกระบี่ชุดนี้ได้”
กระบี่ธรรมดาทั่วไปเพียงขยับสั่นพลิ้วเบาๆ ไม่ทันแผ่พุ่งพลังออกคมกระบี่ก็หักแล้ว
นี่ย่อมเป็นเงื่อนปมอันเนื่องมาจากกระบี่หนักไร้คม และค่อยๆ ประจักษ์ว่าเหตุใดอินทรีอัปลักษณ์จึงพยายามกดดันให้มันเลือก
ภายในความครุ่นคิดจึงเข้าใจเป็นลำดับ
ฝนซาขาดเม็ดแล้ว ท้องฟ้ายามราตรีดุจดั่งได้รับการชะล้าง ประกายสีเงินของเดือนดวงใหม่สาดพร่างพรมไปโดยรอบ
ไม่ว่าพุ่มพฤกษ์ และสายน้ำ ลำธาร
มองดูน้ำป่าไหลทะลักลงมาด้วยจิตใจได้คิดถึงเหตุผล ผ่านการเคี่ยวกรำ ฝึกซ้อม หลายครั้งหลายคราค่อยทราบว่าเพลงยุทธ์อันมาจากกระบี่หนักไร้คม สิ้นสุดแต่เพียงนี้ ไม่จำเป็นต้องฝึกปรืออีกแล้ว
ต่อให้กระบี่อสูร ต๊กโกวคิ้วป่ายฟื้นคืนชีพ เพลงกระบี่ที่ถ่ายทอดผ่านอินทรีอัปลักษณ์ คาดว่ามีเพียงนี้เท่านั้น
ภายภาคหน้าหากมีกำลังภายในเพิ่มพูน กระบี่ที่ใช้จะมีน้ำหนักเบาลงเป็นลำดับ
ในที่สุดจะใช้กระบี่ไม้ประหนึ่งใช้กระบี่หนักตามอนุศาสน์อันต๊กโกวคิ้วป่ายจารึกไว้ในสุสาน นั่นเป็นเพราะพลังจากฝึกปรือเพิ่มพูนจากน้อยไปหามาก ตื้นเขินเป็นลึกล้ำ จากปริมาณพัฒนาไปสู่คุณภาพ
ขึ้นอยู่กับการเพาะสร้างของมันเอง ด้านเพลงกระบี่กลับบรรลุถึงขั้นสุดยอดแล้ว
เดินทอดน่องริมลำธารแหงนหน้ามองจันทร์กระจ่าง หวนนึกหากมิใช่ต๊กโกวคิ้วป่ายตกทอดกระบี่หนักไว้ และหากมิใช่อินทรีคอยกระตุ้นอยู่ด้านข้าง
ประกอบกับได้รับประทานดีของงูประหลาด
ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่เพลงกระบี่ชุดนี้ของต๊กโกวคิ้วป่ายจะมีโอกาสได้ปรากฏและสำแดงเดชขึ้นในยุทธจักรอีก
ยิ่งนึกยิ่งตระหนักในสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดของต๊กโกวคิ้วป่าย