ขอบคุณข้อมูลจาก | คอลัมน์สาระนิยาย Psy ฟุ้ง |
---|---|
ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 |
เผยแพร่ |
2 ปรากฏการณ์อันเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2551 เท่ากับเป็น “สัญญาณ” ในทางการเมือง
1 วันที่ 14 พฤษภาคม
ศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งรับคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นฟ้องคดีทุจริตหวยบนดิน (ออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว)
จำเลยบางส่วนได้แย้งประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 เรื่องการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ศาลฎีกาฯ จึงมีคำสั่งให้ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยก่อนใน 2 ประ เด็น คือ 1 ประกาศ คปค.ฉบับดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ 1 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 เรื่องการตรวจสอบการกระทำท่ำก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ลงวันที่ 30 กันยายน 2549 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
1 วันที่ 18 พฤษภาคม
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” กรณีที่มีประชาชนสอบถามการหยุดออกอากาศรายการ “ยกโขยงหกโมงเช้า” และรายการ “ชิมไปบ่นไป” ว่า
เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าผิดกฎหมาย
“ทั้งๆ ที่ผมได้ตรวจสอบทางกฎหมายแล้วเห็นว่าไม่ผิดเพราะผมไม่ได้เป็นลูกจ้าง แต่เป็นเพียงแค่รับจ้างดำเนินรายการ”
ไม่ว่าเรื่อง “คตส.” ไม่ว่ากรณี “ชิมไปบ่นไป” ล้วนดำรงอยู่เหมือน “ระเบิดเวลา”
ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบในเรื่องสถานะของ คตส. ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบในเรื่องของรายการ “ชิมไปบ่นไป”
จังหวะก้าวของ นายนพดล ปัทมะ ก็โดดเด่นขึ้นมา
ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายนพดล ปัทมะ แถลงผลการเจรจาไทย-กัมพูชาว่าด้วยการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ว่า
กัมพูชายอมรับการเปลี่ยนแปลงการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยขอขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเป็นมรดกโลก และให้คำมั่นว่าจะส่งแผนที่ใหม่แสดงขอบเขตตัวปราสาทพระวิหารที่จะขึ้นทะเบียนมาให้ฝ่ายไทยและทางยูเนสโกพิจารณา ภายในวันที่ 1 มิถุนายน
พร้อมกับยืนยันด้วยว่า แนวทางดังกล่าวเป็นการขอขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทซึ่งช่วยให้ไม่มีปัญหาเรื่องการขอขึ้นทะเบียนพื้นที่ที่เป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนเป็นมรดกโลก
ทำให้ไม่มีการเสียผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย และไทยสามารถรักษาสิทธิทางเขตแดนไว้ได้อย่างสมบูรณ์
ก็เป็นเรื่อง
ที่เป็นเรื่องมิใช่กรณีปราสาทพระวิหาร ที่เป็นเรื่องมิใช่กรณีสถานะของ คตส. ที่เป็นเรื่องมิใช่สถานะของ นายสมัคร สุนทรเวช
หากแต่เป็นชนวนจากการแก้ไขเพิ่มเติม “รัฐธรรมนูญ”
หากแต่เป็นจังหวะก้าวที่ 2 ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการสำแดงพลานุภาพทางการเมือง
เป็นการตีเลาะโดยรอบต่อรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช
ช่วงบ่ายวันที่ 25 พฤษภาคม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดชุมนุมแสดงพลังคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส. ส.ว.ที่ยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ยึดพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นฐานที่มั่น
ห้วงเวลาเดียวกันนี้ทางด้านท้องสนามหลวง กลุ่มต่อต้านก็ได้เปิดเวทีปราศรัยโจมตีพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชน
เวลา 16.00 น. ก็เคลื่อนขบวนจากสนามหลวงไปบนถนนราชดำเนิน
แม้ขบวนของประชาชนต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากท้องสนามหลวงจะมีเพียง 200 คน แต่ตำรวจก็ไม่สามารถสกัดขัดขวางได้ ปล่อยให้มาจัดตั้งเวทีใกล้กับจุดชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เวลา 21.00 น. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป้าหมายคือทำเนียบรัฐบาล
เมื่อถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ก็ถูกตำรวจสกัดและมีการปะทะกันเล็กน้อย
ไม่ว่าการรุกของกลุ่มต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากท้องสนามหลวงไปบนถนนราชดำเนิน ไม่ว่าการเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาลของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีลักษณะรุก มีลักษณะถอยอยู่ในที
แต่ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ บทบาทของรัฐบาล บทบาทของพรรคพลังประชาชน
แสงแห่งสปอตไลต์ฉายจับไปยังบทบาทของ นายสมัคร สุนทรเวช ไปยังบทบาทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อย่างเป็นพิเศษ
สะท้อนการรุก สะท้อนการรับ สะท้อนการตั้งรับในลักษณะรุก
อย่าคิดว่ารัฐบาลและพรรคพลังประชาชนจะดำรงอยู่ในลักษณะอันเป็นเป้านิ่งในทางการเมือง
เห็นได้จากบทบาทของพรรคพลังประชาชน
เห็นได้จาก ส.ส.พรรคพลังประชาชนจำนวนหนึ่งแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามให้ดำเนินคดีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยข้อหาขัดขวางการใช้อำนาจนิติบัญญัติของ ส.ส.
ขณะเดียวกัน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยื่นถอดถอนประธานรัฐสภา ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 136 คนที่เสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต่อ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา
และประกาศยกระดับเป้าหมายการชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช แห่งพรรคพลังประชาชน
ผลก็คือ นายสมัคร สุนทรเวช ออกรายการพิเศษ
ระบุรัฐบาลได้เตรียมกำลังทหารและตำรวจไว้พร้อมแล้วเพื่อสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ในตอนค่ำวันเดียวกันก็เป็นคิวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
เพื่อลดทอนอุณหภูมิแห่งความไม่พอใจต่อ นายสมัคร สุนทรเวช และต่อรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าจะไม่มีการสลายการชุมนุม
ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ต้องออกมาเบรกเนื่องจากคำประกาศของ นายสมัคร สุนทรเวช ได้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างสูงให้กับมวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หากแม้กระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆก็มีคำถามและเห็นว่าเป็นกระบวน ท่าที่ไม่เหมาะสม
รัฐบาลจำเป็นต้องลดทอนความไม่พอใจที่ดำรงอยู่”ภายใน”จึงต้องมีการร่วมรับประทานอาหารค่ำพรรคร่วมรัฐบาล
และเพื่อเสริมความมั่นใจว่าสถานการณ์ไม่บานปลาย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงต้องออกมาแถลงยืนยันว่าจะไม่มีการใช้กำลังทหารตำรวจเพื่อสลายการชุมนุม
อาจกล่าวได้ว่าการชุมนุมที่ยืดเยื้อมาจากเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องไปยังเดือนมิถุนายน รัฐบาลอยู่ในลักษณะตั้งรับ
เนื่องจากเอกภาพระหว่างนายกรัฐมนตรีกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น
เด่นชัดยิ่งว่าสถานการณ์ของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เริ่มอยู่ในสภาพตั้งรับอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจาก นายจักรภพ เพ็ญแข ตกเป็นเป้าหมายแรกในการจัดการ
และน่าเชื่อว่ายังมีเป้าหมายอื่นที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรอจะจัดการโดยประสานเข้ากับขบวนการ “ตุลาการภิวัฒน์” อันเป็นผลสะเทือนก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
การกลับบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงปรากฏมรสุม “ดำ” ตั้งเค้าเด่นชัดขึ้นเป็นลำดับ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022