นำ”ตัวฉุด”มาเป็น”ตัวช่วย” ในโอกาสที่มติชนก้าวเข้าสู่ปีที่ 41

วันที่ 9 มกราคม เป็นวันเกิดมติชน

ทุกปีชาวมติชนจะใช้พื้นที่ชั้นล่างห้องโถงอาคารสำนักงาน 9 ชั้นเป็นสถานที่ “รับแขก”

เพราะทุกปีในวันนี้ เพื่อนพี่น้องของชาวมติชนจะมาพบปะพูดคุย

ทั้งบุคคลฝ่ายการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ต่างมาเยือน

นำเอาความปรารถนาดีมามอบให้

มาพบปะ ขรรค์ชัย บุนปาน ประธานบริษัทฯ มาพบปะ ฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการฯ

และมาพบปะผู้คนในเครือมติชน เพื่อนในกองบรรณาธิการ และอื่นๆ

วันที่ 9 มกราคม จึงเป็นวันที่ชาวมติชนมีความสุข

และพร้อมจะแลกเปลี่ยนความสุขให้แก่กันและกัน

ปีนี้ก็เช่นกัน มติชนเข้าสู่ปีที่ 41 และเป็นอีกปีที่ต้องก้าวต่อไป

หลังจากหลายปีที่ผ่านมา มรสุมรอบทิศพุ่งเข้าใส่ เฉกเช่นเดียวกับคนในชาติ เฉกเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมวิชาชีพที่โดนมรสุมลูกนี้โหมพัด

เป็นมรสุมจากโลกที่เปลี่ยนอย่างฉับไว และส่งผลกระทบมาเป็นทอดๆ

มาถึงประเทศไทย มาถึงคนไทย

มาถึงมติชน

เมื่อความเปลี่ยนแปลงมาเยือน แรงกระทบทำให้ไม่สามารถ “ตั้งอยู่”

การปรับตัวน่าจะเป็นทางออกที่ดี

มติชนเองก็ต้องปรับตัว

แม้การปรับตัวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นเรื่องจำเป็นต้องปฏิบัติ

เมื่อ “สื่อ” ที่มีอยู่บนโลก มีมากกว่า “สื่อ” ที่มีอยู่เดิม

มีมากกว่าหนังสือพิมพ์ มากกว่าทีวี มากกว่าวิทยุ

ผู้ประกอบการด้านสื่อก็ต้องปรับตัว

มติชนก็ต้องปรับตัว

วันนี้เครือมติชนจึงมีออนไลน์ และพัฒนาบุคลากรให้ทำงานออนไลน์ได้

เขียนข่าว ถ่ายภาพ บันทึกคลิป ตัดต่อ และอื่นๆ

ฝึกฝนตัวเองเพื่อถ่ายทอดข่าวสารให้เข้ากับสื่อที่เพิ่มขึ้น

เปลี่ยนเทคโนโลยีที่ดูเหมือน “ตัวฉุด” ให้กลายเป็น “ตัวช่วย”

ช่วยในการกระจายข่าวสารไปสู่สาธารณะ

กระจายไปทางออนไลน์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ ไอจี ทวิตเตอร์ และอื่นๆ

ขณะที่หนังสือพิมพ์ก็ยังตีพิมพ์ออกจำหน่ายเหมือนเดิม

เทคโนโลยีจึงช่วยให้ข่าวสารกระจายไปสู่สาธารณะได้เร็วขึ้น

หลายคนอาจตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่แตกต่าง

ระหว่างหนังสือพิมพ์กับออนไลน์

คำถามดังกล่าวคือ “การบ้าน” ที่กองบรรณาธิการต้องค้นหา

ค้นหาด้วยความเชื่อว่า เทคโนโลยีที่เพิ่มบทบาทมากขึ้น จะทำให้เกิดผลผลิตใหม่ๆ ขึ้น

เหมือนกับที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคมที่เชื่อว่า เทคโนโลยีไม่ได้แย่งงานคน

แต่เทคโนโลยีจะทำให้คนต้องไปทำงานอื่นที่เทคโนโลยีทำไม่ได้

เช่นเดียวกับสื่อ

เช่นเดียวกับเครือมติชนที่ปีนี้คงเป็นอีกปีหนึ่งที่ต้องปรับตัว

หลังจากที่ทำงานด้านหนังสือมาหลายสิบปี เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเยือน

มติชนก็กำเนิด matichon online ขึ้นมา จากนั้น Khaosod online ก็กำเนิดขึ้น

และข่าวสดออนไลน์ก็ไปเปิดช่องทางทาง Facebook

ต่อมา เว็บไซต์มติชน เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ และเว็บไซต์นิตยสารอีก 4 เว็บไซต์ติดตามมา

กระทั่งได้รับการตอบรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดี

เท่ากับว่าทั้งมติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ นิตยสารศิลปวัฒนธรรม

นิตยสารเส้นทางเศรษฐี นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ได้เปิดช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าไปให้ถึงผู้อ่าน

นำเนื้อหาผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอื่นๆ เพื่อสื่อไปให้ถึงผู้สนใจ

ปี 2561 นี้ เครือมติชนตั้งเป้าหมายลุยงานด้านออนไลน์ต่อไป

ยังสนใจและค้นหาวิธีการนำเสนอข่าวสารด้วยความหรรษา

หมั่นฟิตซ้อมฝึกฝนฝีมือเอาไว้ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยน

เปลี่ยนไปสู่การเลือกตั้ง (ถ้ามี) เปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่

เปลี่ยนไปสู่สังคมที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวพัน

แต่แม้เทคโนโลยีจะทำให้ต้องปรับตัว แต่สิ่งที่ยังคงรักษาเอาไว้ดุจเดิม

นั่นคือเจตนารมณ์ที่ผู้ก่อตั้งมติชนธำรงมาตั้งแต่เริ่มออกหนังสือพิมพ์มติชน

เจตนาที่ต้องการเห็นประเทศเป็นไปตามความปรารถนาของคนส่วนใหญ่

เจตนาที่ต้องการทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ส่วนรวม

เจตนาที่จะป้องปราบความชั่วให้หดหาย

เจตนาที่เป็นไปตามโคลงกระทู้จากฝีมือของ ขรรค์ชัย บุนปาน ที่เขียนขึ้นและจารึกไว้หน้าบริษัท

มติ ต้องถูกต้อง โดยธรรม

ชน กับคน ก่อกรรม ชั่วร้าย

ประชา ต่างธงนำ เรามุ่ง

ชาติ นพคุณ ถ่อยป้าย เปรอะขึ้นเงาเสมอ

โคลงกระทู้นี้เคยนำมาเสนอแล้วหลายครั้ง

ในโอกาสที่มติชนก้าวเข้าสู่ปีที่ 41 นี้จึงขอนำมาเสนออีกครา