วันที่ 8 ธันวาคม 2560 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สกุลเงินดิจิตอลที่รู้จักในไม่กี่ปีมานี้อย่าง บิตคอยน์ ล่าสุด มูลค่าได้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 16,000 ดอลลาร์แล้วในวันนี้ หลังไต่ระดับขึ้นถึง 67 เปอร์เซ็นต์เพียง 1 สัปดาห์ พร้อมกับข้อถกเถียงที่รุนแรงขึ้นต่อเรื่องเงินดิจิตอลที่กลายเป็นภาวะฟองสบู่แตก ทำให้เงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดมีมูลค่าแบบพุ่งทะยานถึง 17 เท่าในปีนี้

โดยมูลค่าบิตคอยน์ตามอัตราแลกเปลี่ยนบิทสแตมป์ในลักเซกเบิร์ก ไต่ขึ้นอยู่ที่ 16,615.62 ดอลลาร์ ขึ้นเกือบ 22 เปอร์เซ็นของวันนี้ จากก่อนหน้านี้ที่ 16,607.14 ดอลลาร์ ถือว่าราคาขึ้นเป็น 3 เท่านับตั้งแต่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และนับว่าเป็นครั้งแรกที่ราคาพุ่งเกิน 1,000 ดอลลาร์

ด้านคอยน์เบสท์ บริษัทจัดการซื้อขายเงินดิจิตอลของสหรัฐฯกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า มันเคยประสบกับภาวะชะงักจากจราจรข้อมูล ทำให้ตัวเลขอยู่ที่ค่าล่าสุดและทำงานต่อ ทำให้ตลาดแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ กำลังต่อสู้เพื่อรักษาจราจรทางข้อมูลเช่นเดียวกับมูลค่าที่พุ่งไม่หยุด ด้วยการเปิดตัวสัญญาบิตคอยน์อนาคตชุดแรกเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักลงทุน ซึ่งนายเดวิด เดรก ผู้ก่อตั้งดีแอลเจ แคปิตอลกล่าวว่า บิตคอยน์อาจทำมูลค่าได้ถึง 20,000 ดอลลาร์ เพราะเงินทุนจำนวนมากเข้ามาและทำให้กลายเป็นเงินเหลวที่ปลอดภัยที่สุดขึ้น

อีกทั้งกระแสบิตคอยน์ที่กำลังบูมก่อให้เกิด 2 ความคิด โดยฝั่งที่เห็นด้วยกล่าวว่า บิตคอยน์เป็นตัวกลางที่ดีในการแลกเปลี่ยนหรือความสามารถในการเก็บมูลค่าที่เทียบได้เก่าโลหะมีค่า และยังถกเถียงว่ามันยังใช้อ้างกับสกุลเงินดั้งเดิมได้เพราะมันไม่ได้อยู่ในการควบคุมของธนาคารกลาง ซึ่ง ณ ตอนนี้ ปริมาณบิตคอยน์จะถูกจำกัดไว้ที่ 21 ล้านดอลลาร์และถูกปล่อยแล้วราว 16.7 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม นายเจมี่ ไดมอน ประธานบริหารของเจพี มอร์แกน เชส แอน โค มองว่า ราคาที่พุ่งขึ้นจะเป็นฟองสบู่ที่ถูกขับเคลื่อนส่วนใหญ่จากการเก็งกำไร เสี่ยงให้บิตคอยน์อ่อนค่าจากการพลิกกลับอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับ นายไนเจล กรีน ประธานบริหารและผู้ก่อตั้งดีเวิร์ท กรุ๊ปกล่าวว่า บิตคอยน์เป็นเหมือนการพนันระดับใหญ่ตามจำนวนสินทรัพย์ที่พอกพูน ซึ่งยังคงเป็นน่านน้ำที่ไม่เคยสำรวจ เพราะเราไม่มีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้มาก่อน อีกทั้งสินทรัพย์ขึ้นในระดับแนวตั้งซึ่งควรมีระฆังเตือนสำหรับนักลงทุน

ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า การเปิดตัวของสัญญาบิตคอยน์อนาคตของซีโบ โกลบอล มาร์เก็ต กรุ๊ปนี้ จะช่วยขยับราคาที่ตั้งเป้าซึ่งจะดึงนักลงทุนเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งซีเอ็มอี กรุ๊ปจะเปิดตัวบิตคอยน์อนาคตในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนแนสแดค จะมีแผนเข้าสู่ตลาดเงินดิจิตอลในปีหน้า

ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จะขยายให้ธนาคารในสหรัฐฯเข้าร่วมในกิจกรรมเงินบิดคอยน์ถึงอีกเมื่อไหร่ โดยที่โกลแมน แซ็ค ประกาศชัดว่าบิตคอยน์อนาคตจะเป็นลูกค้าแน่นอนเมื่อมันสามารถดำรงอยู่ได้ เพราะธนาคารจะประเมินข้อกำหนดและความเสี่ยงสำหรับสัญญาบิตคอยน์อนาคตให้เป็นไปตามมาตรฐาน อีกทั้งยังมีบางส่วนออกมาเตือนว่าการเปิดบิตคอยน์อนาคต จะเปิดทางให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้นที่เดิมพันกับสกุลเงินดิจิตอล และอาจสร้างความผันผวนได้ในระยะยาว