กำลังซื้อบ้านหดแรง

สํารวจตลาดโครงการใหม่บ้าน คอนโดฯ โดยสอบถามจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายๆ รายในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่ากำลังซื้อที่อยู่อาศัยหดตัวลงค่อนข้างแรง

ช่วงไตรมาสแรก มกราคม-มีนาคม คำตอบของผู้ประกอบการอสังหาฯ ส่วนใหญ่บอกว่า “ไม่ดีอย่างที่คิด” ซึ่งหมายความว่า ไม่ถึงกับแย่ แต่ไม่ดีอย่างที่คาดการณ์ไว้เมื่อตอนปลายปีที่แล้ว

แต่ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาแล้ว เดือนเมษายน และกำลังจะถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม ผู้ประกอบการอสังหาฯ ส่วนใหญ่รู้สึกว่า “สถานการณ์ตลาดแย่ลงกว่าเดิมอย่างน่ากังวล” หมายถึงตั้งแต่จำนวนลูกค้าที่แวะมาเยี่ยมชมโครงการมีจำนวนลดลง, จำนวนลูกค้าที่ตัดสินใจจองซื้อก็ลดลง และจำนวนยอดการโอนกรรมสิทธิต่อเดือนต่อโครงการก็ลดลง

ยิ่งถ้าเป็นที่อยู่อาศัยระดับราคา 2-3 ล้านบาท 4-5 ล้านบาทต่อยูนิต อัตราการปฏิเสธการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินก็ยังมีอัตราที่สูง

สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยระดับราคา 10-20 ล้านบาทขึ้นไป ก็มีแนวโน้มในทิศทางที่ลดลงเช่นกัน แม้จะไม่ลงในอัตราที่มากเหมือนระดับราคาที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทลงไป แต่ก็จะสังเกตเห็นว่า บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่บางราย ก็ปรับแผนลดจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ลงบ้างแล้ว หันมาเน้นการขายโครงการที่เปิดตัวไปแล้วให้มากขึ้น

จำนวนลูกค้าเยี่ยมชมโครงการ ยอดจองซื้อ และยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงมากขึ้นในไตรมาสที่ 2 นี้ สะท้อนถึงกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่อ่อนแรง หดตัวอย่างไม่ต้องสงสัย

 

แม้ยอดรายได้และกำไรไตรมาส 1 ปี 2566 ของบริษัทอสังหาฯ ผู้นำตลาดหรือ top 10 ยังมีอัตราการเติบโต แต่เป็นการเติบโตจากการชิงส่วนแบ่งตลาดมาจากบริษัทอสังหาฯ ขนาดกลางและเล็กอื่นๆ โดยอาศัยความแข็งแกร่งด้านการเงิน ทีมงาน และแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อถือ ไม่ใช่การเติบโตจากการเติบโตของตลาดหรือการขยายตัวของกำลังซื้อ

การหดตัวลดลงของลูกค้าเยี่ยมชม ลูกค้าจองซื้อ และลูกค้าโอนในระยะนี้ เป็นผลจากกำลังซื้อและความมั่นใจของผู้ซื้อที่หดตัวลงเป็นสำคัญ

ยังไม่น่าจะไปถึงขั้นที่เรียกว่าดิสรัปชั่นเพราะทัศนคติผู้บริโภคเปลี่ยนไม่ต้องการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยด้วยการซื้อและผ่อนชำระเป็นเวลานาน หรือเพราะจำนวนประชากรรุ่นใหม่น้อยลงทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่น้อยลง

ตัวอย่างที่ยืนยันว่า ยังมีความต้องการมากแต่กำลังซื้อไม่ถึง คือการที่ผู้ซื้อ 30-40% ที่ถูกปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ก็แสดงว่า ผู้คนยังต้องการที่อยู่อาศัย ต้องการเป็นเจ้าของ เพียงแต่ยื่นกู้ไม่ผ่าน

เมื่อใดที่รายได้ประชาชนเพิ่มขึ้น เช่น ค่าแรงเพิ่มขึ้น ค่าทำงานล่วงเวลาหรือโอทีเพิ่มขึ้น เงินเดือนเพิ่ม โบนัสเพิ่ม และหนี้สินครัวเรือนเทียบกับรายได้ลดลง

เมื่อนั้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัยก็จะแรงกลับมาได้อีก

เวลานี้ผู้คนมหาศาลกำลังมีความหวังจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สืบเนื่องมาจากผลการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมา ว่าจะทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะรายได้และกำลังซื้อ

หวังว่า อย่าได้มีอะไรมากีดขวางความหวังเหล่านี้เลย เพราะเป็นความหวังที่แรงและรอมานานหลายปี •

 

 

ก่อสร้างและที่ดิน | นาย ต.