‘ก้าวไกล’ กับ ‘ติ๊กต็อก’

คนมองหนัง

ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า “ติ๊กต็อก” เป็นนวัตกรรมด้านการสื่อสารที่เปลี่ยนโฉมการเลือกตั้งครั้งนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

ในบทความชิ้นนี้จะไม่ขอวิเคราะห์ประเด็นยากๆ เช่น ติ๊กต็อกมีพลังตรงจุดไหน? ติ๊กต็อกเข้าถึงชาวบ้านตามต่างจังหวัดหรือเป็นมิตรกับคนสูงอายุมากกว่าโซเชียลมีเดียอื่นๆ จริงหรือไม่? อย่างละเอียดลึกซึ้ง

แต่อยากจะบอกเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเอง ที่เพิ่งมาเริ่มใช้ติ๊กต็อกอย่างเข้มข้นจริงจัง ในช่วงเทศกาลเลือกตั้งที่ผ่านมานี่เอง

จุดใหญ่ใจความหลักที่ทุกคนมองเห็นตรงกัน ก็คือ พรรคก้าวไกลและผู้สนับสนุนนั้นใช้ติ๊กต็อกได้เก่งและทรงพลานุภาพมากๆ

ในฐานะยูสเซอร์คนหนึ่ง ผมตระหนักถึงพลังทางการเมืองของก้าวไกล ผ่าน 2-3 ปรากฏการณ์สำคัญๆ

ปรากฏการณ์แรก ศักยภาพของคนธรรมดาสามัญที่ถูกนิยามว่าเป็น “หัวคะแนนธรรมชาติ” จะปรากฏขึ้นชัดเจนมากในโลกติ๊กต็อก

ด้านหนึ่ง แม้บัญชีติ๊กต็อกทางการของพรรคก้าวไกลเอง จะมีผู้ติดตามที่ก้าวกระโดดผิดหูผิดตา และมียอดวิวที่สูงจริงๆ ในช่วงใกล้เลือกตั้ง

แต่สิ่งที่โดดเด่นและไพศาลกว่านั้น ก็คือ เรื่องที่ยูสเซอร์ซึ่งเป็นสามัญชนคนธรรมดาจำนวนมากได้ช่วยกันผลิตคอนเทนต์เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล ป้อนเข้าไปในระบบของติ๊กต็อก

มีทั้ง “คอนเทนต์แนวผลิตซ้ำ” คือการตัดคลิปสั้นจากรายการโทรทัศน์ รายการสัมภาษณ์ทางออนไลน์ การถ่ายทอดสดการปราศรัยบนเวที และรายการดีเบตต่างๆ ในจำนวนมหาศาลและซ้ำซ้อนไปมา (ซึ่งไม่ติดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เหมือนในโซเชียลมีเดียอื่นๆ)

ที่กลายเป็นแรงโปรโมตพรรคก้าวไกลในระดับทบทวี/ทวีคูณ

นอกจากนี้ ยังมีคอนเทนต์จากบรรดาพลเมืองผู้กระตือรือร้น ที่ไปถ่ายบรรยากาศบริเวณเวทีปราศรัย หรือบรรยากาศการได้พบเจอตัวจริงของผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ที่ออกตระเวนหาเสียงตามพื้นที่สาธารณะต่างๆ มาผลิตเป็นคลิปในติ๊กต็อก

คอนเทนต์จากคนธรรมดา/หัวคะแนนธรรมชาติเหล่านี้ ได้ผลักดันให้ก้าวไกลกลายเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ยึดครองพื้นที่ติ๊กต็อกชนิดเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ปรากฏการณ์ที่สอง ติ๊กต็อกเข้ามาเติมเต็มในสิ่งที่สื่อกระแสหลัก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ทำไม่ได้เลย และเป็นสิ่งที่แพลตฟอร์มรุ่นพี่ เช่น เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ พอทำได้อยู่บ้าง แต่ไม่เต็มศักยภาพนัก นั่นคือการพาผู้ใช้ไปทำความรู้จักกับบรรดาผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ต่างจังหวัดของพรรคก้าวไกล ได้อย่างละเอียดลออจนน่าทึ่ง

(ขณะที่ถ้าเราติดตามข่าวสารจากเว็บข่าวใหญ่ๆ หรือช่องทีวีหลักๆ เราจะแทบไม่รู้จักผู้สมัครที่ไม่ได้อยู่ใน “บ้านใหญ่” หรือ “ตระกูลการเมือง” เหล่านี้เลย)

ภายใต้เงื่อนไขสำคัญที่ว่า บรรดาผู้สมัคร ส.ส.ของก้าวไกล ต้องใช้ติ๊กต็อกให้เป็นและสม่ำเสมอด้วย

ติ๊กต็อกอาจทำให้คนจำนวนมากได้รู้จักและประทับใจกับผู้สมัครหน้าใหม่ที่กลายเป็น “สตาร์” อย่างรวดเร็ว เช่น “คุณไอซ์ รักชนก ศรีนอก” (ว่าที่ ส.ส.กทม. เขต 28 ผู้ขี่จักรยานพิชิต “วัน อยู่บำรุง”) และ “คุณจีน พุธิตา ชัยอนันต์” (ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 4 ผู้ถือโทรโข่งจวก “ลุงตู่” กลางตลาดนัด)

แต่สำหรับผมแล้ว ติ๊กต็อกยังสามารถนำพาเราให้เดินทางไกลไปได้มากกว่านั้น เป็นเพราะโซเชียลมีเดียนี้นี่เองที่ทำให้ผมได้รู้จักกับ “คุณทวิวงศ์ โตทวิวงศ์” ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 “คุณชริน วงศ์พันธ์เที่ยง” ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 “คุณวุฒิพงศ์ ทองเหลา” ผู้สมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 2 “คุณปรัชญาวรรณ ไชยสืบ” ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี เขต 2 “คุณกฤช ศิลปชัย” ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 2 และ “คุณอิทธิพล ชลธราศิริ” ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 เป็นต้น

ผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มนี้ คือบุคคลที่คนตามข่าวการเมืองหรือนักข่าวการเมืองแทบไม่เคยรู้จัก ทว่า พวกเขากลับสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์/โมเมนต์การหาเสียงที่น่ารัก น่าประทับใจ น่าสะเทือนใจ แฝงอารมณ์ขัน และเต็มเปี่ยมความหวัง ได้ในโลกของติ๊กต็อก

โดยส่วนตัว คลิปหาเสียงในติ๊กต็อกที่สนุกสนานและคลาสสิคที่สุดของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งปี 2566 ก็คือ คลิปที่คุณอิทธิพล ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พร้อมด้วยผู้ช่วยหาเสียงอย่าง “ครูใหญ่ อิทธิพล บัวพัฒน์” และทีมงานคนอื่นๆ เกาะกลุ่มลอยตัวบนห่วงยางไปตามคลองชลประทาน พร้อมชูป้ายแนะนำตัวและเบอร์ผู้สมัครไปด้วย ในช่วงเทศกาลเล่นน้ำสงกรานต์

เมื่อได้ดูคลิปดังกล่าว ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นทันที ก็คือ การทำงานการเมืองอย่างสนุกและมีอารมณ์ขันแบบนี้ จะทำให้ผู้สมัคร ส.ส.คนนี้ มีลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ได้

แล้วเมื่อถึงวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม ก็ปรากฏว่าบรรดาผู้สมัคร ส.ส.เขต พรรคก้าวไกล ที่ผมระบุชื่อไว้ด้านบน ต่างได้รับเลือกตั้งชนิดพลิกความคาดหมายทั้งหมด

ติ๊กต็อกคือเครื่องมือในการฉายศักยภาพทางการเมืองและเสน่ห์ส่วนบุคคลของพวกเขา ซึ่งแทบไม่เคยปรากฏออกมาในพื้นที่สื่อกระแสหลักและโซเชียลมีเดียอื่นๆ

ปรากฏการณ์สุดท้าย พอไถดูคอนเทนต์เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลในติ๊กต็อกไปเรื่อยๆ เรื่องหนึ่งที่ผมเชื่อก่อนวันเลือกตั้ง ก็คือ พรรคการเมืองพรรคนี้น่าจะได้คะแนนเยอะเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ และไม่ได้มีฐานโหวตเตอร์จำกัดวงอยู่ตรงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ดังที่ชอบพูดๆ กัน

เนื่องจากวิดีโอในติ๊กต็อกจำนวนมาก ได้ทำให้เราเห็นภาพเหล่าผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว ที่เดินเข้าไปพบปะ รับฟังปัญหา และขอคะแนนเสียงจากพ่อแก่แม่เฒ่าตามชุมชนต่างๆ

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชากรสูงอายุในหลายจังหวัดกับผู้สมัครหน้าใหม่ของก้าวไกล นั้นดูมีมิตรจิตมิตรใจ สื่อสารกันได้ ไม่มีความขัดแย้ง และไม่มีปัญหาเรื่องเจเนอเรชั่น

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม ผมจึงพอทำความเข้าใจได้ว่า ทำไมก้าวไกลถึงได้คะแนนเยอะขนาดนี้

ทั้งคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ชนะเป็นอันดับหนึ่งในหลายจังหวัด และการได้ ส.ส.เขตในต่างจังหวัดอย่างเป็นกอบเป็นกำ และมิได้จำกัดอยู่เพียงในเขตเมือง แต่กินไปถึงพื้นที่นอกเขตเมืองด้วย (หรืออีกนัยหนึ่ง คือ “ความเป็นเมือง” ได้ขยายตัวออกไป)

โดยสรุปแล้ว แม้ก้าวไกลจะชนะการเลือกตั้งหนนี้จากหลากหลายปัจจัย ทั้งภายในและภายนอกพรรค

แต่ถ้าเราไม่เคยเข้าถึงติ๊กต็อกเลย เราก็อาจไม่เข้าใจหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สุด ซึ่งหนุนส่งให้ก้าวไกลกลายเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง •

 

| คนมองหนัง