ส่อง ‘มาเซราติ Grecale Folgore’ : เอสยูวีพลังไฟฟ้ารุ่นแรกค่ายตรีศูล

สันติ จิรพรพนิต

นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ “มาเซราติ” ค่ายรถจากอิตาลี ที่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ได้เป็นเจ้าแรกของประเทศ

นั่นคือ “Grecale Folgore” รถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรก

นำไปอวดโฉมในงานเซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ ที่ผ่านมา พร้อมๆ กับ GranTurismo Folgore รถยนต์คูเป้ดีไซน์ร่วมสมัย มีทั้งขุมพลังเครื่องยนต์สันดาป และแบบพลังงานไฟฟ้า 100%

เป็นการเปิดตัวแบบเวิลด์พรีเมียร์ พร้อมกันทั่วโลก

คำว่า “Folgore” คือชื่อรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของมาเซราติ

ส่วนเมืองไทยน่าจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ที่จะได้เห็นตัวเป็นๆ ของ “Grecale Folgore”

ดีไซน์ด้านหน้าคงคอนเซ็ปต์ “Unique by Design” กระจังหน้าถูกออกแบบมาโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น Trofeo เพื่อระบายความร้อนตามมาตรฐานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

เน้นความร่วมสมัยตามหลักอากาศพลศาสตร์ รวมถึงสปอยเลอร์กันชนท้ายรถยนต์ดีไซน์ใหม่ เพื่อช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd)

ตกแต่งกระจังหน้าเพิ่มด้วยสีดำเงาที่บริเวณณชายกันชนหน้า มือจับประตู กรอบโคมไฟหน้า และสเกิร์ตด้านข้าง

โลโก้และคาลิเปอร์เบรกตกแต่งพิเศษด้วยสีน้ำตาลทองแดง พร้อมช่องระบายอากาศด้านข้างแบบเรืองแสงช่วยเพิ่มความหรูหรา

ล้อแมกซ์ลายสวยมีตั้งแต่ขนาด 19-21 นิ้ว

ภายนอกว่าเด่นแล้ว เมื่อเข้าไปด้านในยิ่งตื่นตาตื่นใจมากขึ้น ทั้งเน้นความหรูหรา สปอร์ตและให้ความสะดวกสบายไปพร้อมๆ กัน

ดีไซน์ภายในที่โดดเด่นด้วยโลโก้ Folgore ที่แดชบอร์ด แบบ 3D ชุดไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสารช่วยเพิ่มความหรูหรา

พวงมาลัย forged สีดำหุ้มด้วยหนังเจาะ มีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์สีน้ำเงินที่ติดตั้งบนพวงมาลัย

หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมลวดลายกราฟิกที่สะดุดตา

มีหน้าจอ head-up-display สามารถปรับค่าได้และแสดงข้อมูลที่สำคัญ เช่น ความเร็ว แผนที่ และเส้นทางการเดินทาง

ทั้งหมดจะแสดงผลบนกระจกหน้าของตัวรถยนต์เพื่อช่วยลดการละสายตาในขณะที่กำลังขับขี่

ตกแต่งอย่างประณีตทุกรายละเอียด ด้วยหนังแท้เกรดพรีเมียม

เบาะโดยสารแบบทูโทนสีดำ-สีครีมหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ECONYL (ผสมผสานนวัตกรรมและเทคนิคการใช้เลเซอร์)

เบาะโดยสารคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 14 ทิศทาง มาพร้อมระบบเป่าลมร้อน/เย็น

วัสดุบุนุ่มคุณภาพเยี่ยมรอบคัน อาทิ ผ้าบุหลังคา รวมถึงชุดพรมที่ผลิตขึ้นจากเส้นใยพิเศษช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้แก่ Grecale Folgore มากยิ่งขึ้น

ติดตั้งระบบทัชสกรีนแบบจอคู่บริเวณกลางแดชบอร์ด โดยจอบนมีขนาด 12.3 นิ้ว และจอล่าง 8.8 นิ้ว ใหญ่สุดเท่าที่เคยติดตั้งในรถยนต์มาเซราติ

ระบบความบันเทิง มาพร้อมการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay, Android Auto สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้สูงสุด 2 เครื่อง

นาฬิกาดิจิทัลมีฟังก์ชั่นที่สามารถเรียกใช้ระบบสั่งการด้วยเสียง เพื่อช่วยผู้ขับขี่ในการทราบข้อมูลสภาพอากาศ มิเดีย การนำทาง และการโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่ใดๆ

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ MIA (Maserati Intelligent Assistant) ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างเหมาะสมกับรถยนต์รุ่น Grecale Folgore

ระบบปรับอากาศใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สามารถรักษาอุณหภูมิภายในห้องโดยสารแม้ขณะรถยังไม่ได้วิ่ง

รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของมาเซราติ นี้มีแรงม้าสูงสุดที่ 410 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 820 นิวตัน-เมตร และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุขนาด 105 กิโลวัตต์-ชั่วโมง 400 โวลต์

โหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันถึง 4 ระบบ ประกอบด้วย MAX RANGE, GT, SPORT และ OFFROAD

โดยโหมดการขับขี่ MAX RANGE ช่วยประหยัดพลังงาน เพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับการใช้งานในโหมดการขับขี่อื่นๆ

หากแบตเตอรี่ต่ำที่ 16% และมีความจำเป็นต้องเดินทางต่อ หรือไม่สามารถหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าได้ในทันที ระบบของรถยนต์จะอนุญาตให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ทั้งปรับลดการทำงานของระบบปรับอากาศ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน และรักษาระยะทางขับขี่คงเหลือให้ได้มากที่สุด

สามารถปรับเปลี่ยนโหมดต่างๆ ผ่าน drive mode selector บนพวงมาลัยโดยโหมดดังกล่าวทั้งหมดจะทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงความเร็วของรถยนต์ Grecale Folgore เสมือนได้อยู่บนสนามแข่ง

ชุดระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ทั้งนุ่มนวลและเพิ่มความมั่นใจยามขับขี่ทุกย่านความเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีสั่งงานผ่านระบบ “Connected Services” เสมือนเป็นรีโมตเชื่อมต่อระหว่างตัวรถและผู้ขับขี่ อาทิ การอุ่นระบบแบตเตอรี่ หรือเปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้า

โดยระบบการทำงานดังกล่าวรถยนต์จะสื่อสารกับกล่องควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการใช้พลังงานหลักที่มากเกินไป และยังเป็นการป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่หมดไปโดยใช่เหตุ

สำหรับระบบการปรับสภาพแบตเตอรี่อัตโนมัติล่วงหน้า จะปรับสภาพแบตเตอรี่อัตโนมัติล่วงหน้าและสามารถชาร์จไฟได้เร็วเป็นพิเศษเมื่อเข้าใกล้กับสถานีชาร์จ

นอกจากนี้ ระบบการปรับสภาพล่วงหน้ายังช่วยเตรียมความพร้อมของแบตเตอรี่ในการเข้าสู่โหมดการชาร์จ และช่วยลดระยะเวลาในการชาร์จเมื่ออุณหูมิของแบตเตอรี่อยู่ในจุดที่สมดุล

มีระบบกำหนดเส้นทาง EV : Grecale Folgore อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการวางแผนการเดินทาง ช่วยให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงสภาพแบตเตอรี่และสามารถคาดคะเนปริมาณการใช้งานได้ตลอดเวลา

ระบบกำหนดเส้นทาง EV จะนำเสนอสถานีการชาร์จทั้งหมด และช่วยคำนวณระยะทางในการเดินทางได้อย่างเหมาะสมที่มีผลมาจากสถานะแบตเตอรี่ ความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ รวมไปถึงการใช้งานระบบอื่นๆ บนรถยนต์ จะถูกนำมาประมวลและแสดงผลให้ผู้ขับขี่ทราบ

ระบบแผนที่แบบ Dynamic Range : คำนวณระยะทางสูงสุดที่สามารถเดินทางได้ภายใต้เงื่อนไขสถานะของแบตเตอรี่ ระยะทางสูงสุด รวมไปถึงวงรอบที่ตัวรถยนต์สามารถเดินทางได้จะถูกแสดงผลอัพเดตผ่านหน้าจอกลางตลอดเวลา โดยอิงค่าจากสถานะของแบตเตอรี่และสไตล์การขับขี่ของแต่ละคน ฯลฯ

เทคโนโลยีอื่นๆ ยังมีอีกเพียบ

งานนี้รอลุ้นกันว่าเข้ามาเมืองไทยแล้วจะมีเสียงตอบรับมากน้อยขนาดไหน •

 

 

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]