พันโทบรรจบ โตนวล นักรบเกาหลีผลัด 1 คนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่

รายงานพิเศษ | มงคล วัชรางค์กุล

 

พันโทบรรจบ โตนวล

นักรบเกาหลีผลัด 1

คนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่

 

ผมโชคดีที่ได้มารู้จักกับเพื่อนรุ่นน้อง “คุณต้อย” เบญจวรรณ รัตนประยูร อดีตกงสุล (ฝ่ายการพาณิชย์) หรือผู้อำนวยการศูนย์พาณิชยกรรม ณ นครนิวยอร์ก ระหว่างมิถุนายน 1995 – ตุลาคม 2001 (ปี พ.ศ.2538-2544)

คุณต้อยปฏิบัติราชการระหว่างเหตุการณ์ 9/11 ต้องตามทวงหนี้ค่าสินค้าให้บริษัทไทยที่ไม่ได้รับการชำระเพราะเหตุการณ์ 9/11

คุณต้อยเกษียณอายุราชการในตำแหน่งที่ปรึกษาการพาณิชย์ระดับทรงคุณวุฒิ (10) สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

คุณต้อยเล่าว่า คุณพ่อ พันโทบรรจบ โตนวล ปัจจุบันอายุ 97 ปี เป็นอดีตทหารสงครามเกาหลีผลัด 1 คนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมผ่านสงครามเวียดนาม รุ่น 2 และผ่านสงครามทุ่งช้าง

พ.ท.บรรจบ โตนวล คือวีรบุรุษ 3 สมรภูมิ

คุณพ่อ พ.ท.บรรจบสุขภาพยังแข็งแรง ความทรงจำดีเลิศ ผมจึงขอโอกาสสัมภาษณ์คุณพ่อบรรจบทางออนไลน์ นำมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้

พ.ท.บรรจบ โตนวล เกิดวันที่ 2 กันยายน 2469 ที่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เติบโตมากับสวนทุเรียนของ ต.บางไผ่ จ.นนทบุรี

คุณพ่อบรรจบเล่าถึงการเข้าร่วมสงครามเกาหลีผลัด 1 ว่า คุณพ่อสมัครไปเกาหลีขณะที่มียศสิบโท เริ่มออกเดินทางจากค่ายทหารที่อยุธยา เมื่อเดือนตุลาคม 2493 มาพักที่โรงพยาบาลหญิง ราชวิถี ฝึกรบรออยู่รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 1 เดือน ก่อนไปลงเรือชื่อ เรือเฮอร์เตอร์เมิกซ์ เป็นเรือขนสินค้าไปเมืองโอกินาวา ใช้เวลาเดินทาง 10 วัน 10 คืน มีเรือรบไทย 4 ลำคุ้มกันไป

พักฟื้นให้หายเมาคลื่นที่โอกินาวา 3 วัน แล้วเดินทางต่อทางเรือไปท่าเรือเตกู เกาหลีใต้ ใช้เวลาเดินทาง 2 วัน แล้วต่อขึ้นรถไฟไปเมืองปูซาน

ที่ปูซานได้เข้าที่พักฟื้น 5 วัน เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวและได้รับอาวุธใหม่

จากปูซาน ขึ้นรถไฟจากปูซานเข้าเกาหลีเหนือ 11 วัน 11 คืน ถึงเปียงยางเมืองหลวงของเกาหลีเหนือ รบตามทางตั้งแต่ปูซานขึ้นไปโดยตลอดทาง เพราะช่วงนั้น เกาหลีเหนือเข้ามายึดเกาหลีใต้แล้ว จึงต้องตีเอาคืน

ผู้คุมกำลัง คือ พ.ท.สุรกิจ มัยลาภ (ยศขณะนั้น) เป็นเสนาธิการคุมกำลังพลไปในเรือ ผู้บัญชาการกองกำลัง เดินทางไปทางเครื่องบิน ชื่อ พล.ต. ม.จ.พิสิษฐ์ดิษพงษ์ ดิสกุล (ยศขณะนั้น) ประจำการที่เซอูล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ (ชื่อเดิมของกรุงโซลในปัจจุบัน) เป็นหัวหน้าคณะ และเป็นผู้บัญชาการทหารไทย ประจำกองบัญชาการสหประชาชาติ

กองกำลังทหารไทยในเกาหลีชื่อ กรมผสมที่ 21 ทำการรบอย่างห้าวหาญทุกผลัด จนต่อมา ปี 2495 ทหารอเมริกันตั้งฉายาให้ว่า “พยัคฆ์น้อย” (Little Tiger)

คุณพ่อบรรจบอยู่ที่เกาหลีเหนือ 2 เดือนกว่า รบในเมืองเกาหลีเหนือทุกวัน เกาหลีเหนือจะเอาเมืองคืน รบถึงแม่น้ำยาลู (เส้นกั้นพรมแดนเกาหลีเหนือกับจีน)

จีนแดงส่งกองกำลังมาช่วยเกาหลีเหนือ

ทหารไทยได้รับคำสั่งให้ถอยหนีหมด เหลือแต่คุณพ่อ ส.ท.บรรจบ โตนวล กับเพื่อน บัญชาการลูกน้อง 9 คนอยู่ที่เปียงยาง

ทหารอเมริกันสั่งให้ถอยเป็นหน่วยๆ ส่วนทหารชาติอื่นที่ยังอยู่คือ ฟิลิปปินส์ อังกฤษ ตุรกี เกาหลีใต้ อยู่เป็นทหารส่วนรั้งท้าย

คุณพ่อบรรจบทำหน้าที่ทหารไทยส่วนรั้งท้าย มีรถจี๊ป 2 คัน คันละ 5 คน ประจำที่เปียงยาง

เมื่อทหารไทยถอยไปแล้ว 3 วัน ทหารไทยส่วนรั้งท้ายได้รับหน้าที่ให้ทำลายกระสุนปืนของอเมริกันที่เหลือจำนวนมาก กองสุมขนาดใหญ่ประมาณสนามหลวง คุณพ่อบรรจบวางชนวนด้วยรถจี๊ป จุดทำลายไม่ให้ทหารจีนมาใช้ประโยชน์ มีทหารอังกฤษมาตรวจการวางระเบิดทำลายกระสุนครั้งนั้น

การรบคราวนั้น ถอยมาจากแม่น้ำยาลู คุณพ่อบรรจบพอทำลายอาวุธเสร็จก็หนีมาที่เมืองเคซอง (ตรงเส้นขนานที่ 38) เป็นเมืองของเกาหลีใต้ การเดินทางใช้การติดต่อทางวิทยุ วิ่งตามแผนที่มาเคซอง มารวมตัวกับหน่วยเดิมที่เมืองนี้

จากเคซอง ถอยหนีมาเรื่อยๆ พร้อมกับทหารอเมริกัน มาถึงเมืองอินชอน แล้วทหารไทยกับทหารทุกประเทศ กองกำลังสหประชาชาติและทหารอเมริกันตีกลับ ยึดเคซองกลับคืน

การรบดำเนินต่อไป

ทหารไทยที่อยู่แนวหน้าได้พัก คุณพ่อบรรจบได้พัก 7 วัน บินไปพักผ่อนที่โตเกียว

แล้วบินกลับจากโตเกียว มารบต่อที่เคซองจนทหารผลัด 1 ครบเทอมได้กลับบ้าน

คุณพ่ออยู่ที่เกาหลี 11 เดือน 21วัน ทหารไทยผลัดที่ 2 มารับหน้าที่ที่เมืองเคซอง คุณพ่อส่งต่อหน้าที่ให้ ส.ท.ชาญ กำหนดแน่ ทำการรบต่อไป

ส.ท.บรรจบ โตนวล เดินทางกลับประเทศไทยด้วยเรืออานนท์เม็กซ์ จากท่าเรือปูซาน นั่งเรือสินค้าไปไต้หวัน 2 วัน เปลี่ยนเรือกลับไทย ถึงเมืองไทยปลายปี 2494

รวมการปฏิบัติราชการเกาหลีหนึ่งปีเต็ม

ผมเคยดูหนังสารคดีสงครามเกาหลีจากทีวีในอเมริกา ถ่ายให้เห็นภาพทหารอเมริกันถอยจากแม่น้ำยาลู เดินเท้าสู่เกาหลีใต้ในพื้นหิมะขาวโพลน ทหารบางคนทรุดโทรม รองเท้าขาดรุ่งริ่ง ต้องย่ำเท้าเปล่าไปบนหิมะ บางคนโดนหิมะกัดเท้าเน่า กล้องถ่ายให้ดู น่าสงสารมาก

จึงเรียนถามคุณพ่อบรรจบว่า “มีทหารไทยโดนหิมะกัดเท้าบ้างไหม”

คุณพ่อบรรจบตอบว่า

“หิมะตกหนักที่เปียงยาง อุณหภูมิติดลบ -25 องศาเซลเซียส มีเพื่อนทหารไทย 4 คน ชื่อ หมู่แร่ม หมู่ย้อย หมู่กรี หมู่สังข์ ถูกส่งไปตัดนิ้วเท้ากับหมอที่โตเกียว แล้วส่งกลับไทยเลย

สาเหตุเพราะความหนาวเย็น ถุงเท้าที่อยู่ในรองเท้าที่อุ่นเมื่อเหงื่อออก อากาศหนาวจึงกลายเป็นน้ำแข็งแช่อยู่อย่างนั้นตลอดเวลาในรองเท้า ไม่ได้ถอดออก เลือดไม่เดิน หิมะจึงกัดนิ้วเท้าจนเน่า

ต้องตัดนิ้วเท้าทิ้ง

 

หมายเหตุ : ไทยเป็นชาติแรกใน 21 ชาติที่ตอบรับส่งกำลังทหารไปช่วยสหประชาชาติในเกาหลี สาเหตุเกิดจากเกาหลีเหนือส่งกำลังเข้ายึดเกาหลีใต้อย่างจู่โจมเมื่อ 29 มิถุนายน 2493 เกาหลีเหนือเข้ายึดกรุงเซอูล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ได้

ไทยส่งกรมผสมที่ 21 ออกเดินทางไปเกาหลีเมื่อ 23 ตุลาคม 2493 กำลังพล 1,294 นาย เข้าสมทบกับกรมผสมที่ 187 กรมทหารพลร่มของอเมริกัน เคลื่อนไปปฏิบัติการรบที่เปียงยาง เกาหลีเหนือ เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2493

กองทัพเรือ มีเรือรบ 3 ลำเข้าร่วมรบคือ รล.ประแส กำลังพล 110 นาย รล.บางปะกง กำลังพล 110 นาย เรือช่วยรบ รล.สีชัง กำลังพล 85 นาย เรือรบเข้าสมทบกับกองเรือที่ 95 ของสหประชาชาติ

กองทัพอากาศ ส่งหน่วยบินลำเลียงไปสมทบ

นายพลแม็กอาเธอร์แม่ทัพใหญ่อเมริกัน ต้องการเผด็จศึกให้เสร็จสิ้นก่อนเดือนธันวาคม 2493 เพราะอากาศจะหนาวเย็นยิ่งขึ้น จึงส่งกำลังบุกยึดเปียงยางขึ้นไปถึงแม่น้ำยาลู ชายแดนจีน แต่ถูกทหารจีนโจมตีถอยร่นลงมาในเขตเกาหลีใต้

ต่อมามีการเซ็นสัญญาสงบศึกเกาหลี เรียกว่า สัญญาปันมุนจอม เมื่อ 27 กรกฎาคม 2496

ไทยส่งทหารเข้าร่วมสงครามเกาหลี 23 ผลัด รวม 11,776 นาย เสียชีวิต 125 นาย บาดเจ็บ 318 นาย ป่วย 503 ราย สูญหาย 5 นาย