จัดเต็ม ‘เอ็มจี วีเอส เอชอีวี’ ไฮบริดครบเครื่อง-พลังเหลือล้น

สันติ จิรพรพนิต

แม้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย ยังเดินหน้าแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ที่ผ่านมา กวาดยอดจองเกือบ 1 หมื่นคัน แชร์ส่วนแบ่งในงานกว่า 20%

เรียกว่าเป็นครั้งแรกที่ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งทะลุทะลวงขนาดนี้

กระนั้นก็ตาม บรรดาค่ายรถก็ยังไม่เทน้ำหนักไปยังกลุ่มรถไฟฟ้าเสียทั้งหมด เพราะเข้าใจถึงโครงสร้างพื้นฐานของไทยว่ายังไม่พร้อมเต็มร้อย

ถึงแม้ปัจจุบันสถานีชาร์จจะกระจายไปทั่วประเทศ แต่ยังเน้นเส้นทางหลักๆ กลุ่มเมืองท่องเที่ยว

ทำให้คนอีกจำนวนมากที่อาจสามารถเลือกซื้อรถยนต์ได้เพียงคันเดียว ยังชั่งใจอยู่ประมาณหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้เองค่าย “เอ็มจี” ที่แม้จะมีทั้งรถยนต์สันดาปภายใน หรือไอซีอี และรถยนต์ไฟฟ้า ก็ยังออกเครื่องยนต์ “ไฮบริด” มาเป็นตัวเลือก

นั่นคือรุ่น “วีเอส เอชอีวี” ถือเป็นไฮบริดรุ่นแรกของเอ็มจีในบ้านเรา

ผมเองมีโอกาสทดลองขับรถยนต์รุ่นนี้ ต้องบอกว่าเป็นรถที่ดูสวยเด่นทั้งภายใน-ภายนอก ที่สำคัญขับสนุกอย่างมาก

รุ่นที่ได้มาทดสอบเป็นตัวท็อป (รุ่น X) ด้านนอกสวยงามออกแนวรถยุโรป โดยเฉพาะด้านหน้าถอดแบบมาจากรถยนต์ “โรวี่ โทโทโร่” แบรนด์หรูของเอ็มจี

มีเส้นสายสีฟ้าดูสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ว่าไม่ใช้รถยนต์สันดาปภายใน

ไฟหน้าแบบ LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน

ส่วนด้านหลังนี่คุ้นตากันดีเพราะคือ “เอ็มจี แซดเอส” นั่นเอง

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ด้านนอกติดตั้งแผ่น AERO WHEEL COVER ช่วยในเรื่องแอโรไดนามิก

เช่นเดียวกับภายในถอดแบบมาจาก “โรวี่ โทโทโร่” เช่นกัน

หน้าจอปรับได้หลายแบบมาก ส่วนจอกลางมีระบบไอสมาร์ท เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพง 6 ตำแหน่ง แท่นชาร์ตสมาร์ตโฟนกำลังแรงทีเดียว

เกียร์แบบอีซีวีที เบรกมือไฟฟ้า ปุ่มปรับต่างๆ กล้องมองรอบคัน

ใกล้ๆ เป็นปุ่มระบบ “KERS” ช่วยชาร์จพลังงานกลับสู่แบตเตอรี่ ตั้งได้ 3 ระดับ ความหน่วงของรถเมื่อถอนคันเร่งจะต่างกันไป

เบาะนั่งสีทูโทนสวยดีครับ นุ่มด้วยโอบกระชับแผ่นหลังได้ดี เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ส่วนฝั่งซ้ายปรับมือ

เบาะด้านหลังผมลองไปนั่งดูแล้ว สบายดี พนักองศากำลังดี ที่วางเท้าเหลือเฟือ

ส่วนแบตเตอรี่เขาเก็บใต้ที่ว่างด้านหลัง แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อน เพราะมีช่องดูดแอร์จากห้องโดยสารอยู่ใต้เบาะนั่งด้านซ้าย

อากาศเย็นจะไหลเข้าไประบายความร้อนของแบตเตอรี่ และไหลออกนอกรถบริเวณซุ้มล้อหลัง

ขึ้นไปนั่งปรับเบาะต่างๆ เรือนไมล์สวยสบายตาทีเดียว พวงมาลัยจับกระชับมือดี มีระบบมัลติฟังก์ชั่น ระบบควบคุมความเร็ว แต่ยังไม่ถึงขั้นอะแอปทีป ที่หยุดและไหลตามคันหน้าได้

ช่องเสียบพอร์ตอยูเอสบี-เอ ยูเอสบี-ซี ให้มาหลายจุด บริเวณฐานกระจกมองหลังมีอีกจุด เอาไว้เสียบกับกล้องหน้ารถไม่ต้องมีสายระโยงระยาง

เอ็มจี วีเอส ใช้เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 1.5 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 21.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ถือว่าลูกใหญ่พอสมควร

กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร

ปรับโหมดการขับขี่ 3 แบบ อีโค คอมฟอร์ต และสปอร์ต

พวงมาลัยปรับน้ำหนักได้ 3 แบบ คือเบา มาตรฐาน และมั่นคง แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน

ส่วนผมเน้นมาตรฐาน รู้สึกว่ากำลังดี ไม่หนักเวลาถอยจอด หรือในย่านความเร็วสูงไม่หวิวเกินไป

ความคมของพวงมาลัยถือว่าได้ประมาณหนึ่ง ไม่ได้คมกริบแต่ก็ไม่แย่ มีระยะฟรีนิดหน่อย

เรียกว่าเป็นรถที่ทำมาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า

ช่วงล่างยอดนิยมด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต เหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม

อัตราเร่งตีนต้นถือว่าใช้ได้เลย

ความเร็วกลาง-ปลาย ไหลมาได้ทันใจ ทั้งการเร่งแซงเหยียบเป็นมาตามแรงเท้า

เสียงลม เสียงเครื่องเข้ามาไม่มาก ช่วงล่างเข้าโค้งได้เนียนอยู่พอสมควร

ส่วนความประหยัดตามอีโคสติ๊กเกอร์อยู่ที่ 24 กิโลเมตรเศษๆ แต่ใช้งานจริงไม่น่าถึง

โดยเฉพาะหากใครเท้าหนักหน่อย ได้ 15-17 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าเหมาะสม

ระบบความปลอดภัยต่างๆ มีมาพร้อมสรรพ อย่างกล้องมองภาพรอบทิศทาง คมชัดระดับ High Definition เปลี่ยนมุมมองได้ทั้งหน้า-หลัง ซ้ายขวา

เวลาเลี้ยวเข้าซอยไม่ว่าจะซ้าย หรือขวา กล้องจะส่งภาพบริเวณล้อด้านนั้นๆ มาที่จอกลางด้วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

รวมทั้งสามารถเรียกดูภาพจากมุมต่างๆ ได้ด้วยการกดปุ่มบริเวณใกล้ฐานเกียร์ จากนั้นมาปรับมุมภาพที่เราต้องการบริเวณหน้าจอกลาง

ซึ่งมีทั้งภาพด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา รวมถึงภาพมุมสูง

ทั้งสามารถเรียกดูความดันลมยางได้ว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่

นอกจากนี้ เวลาจอด กล้องจะส่งดูภาพมูมสูงที่จำลองรัศมีความกว้างของประตูเวลาเปิด เพื่อให้ดูว่าประตูแต่ละบาบมีโอกาสเปิดไปกระแทกกับอะไรหรือไม่

อีกออปชั่นหนึ่งที่ผมชอบคือแผนที่นำทาง เพราะสามารถย้ายจากจอกลางมาที่หน้าจอคนขับได้

ข้อดีไม่ต้องชำเลืองไปทางซ้าย ส่วนจอกลางเราสามารถใช้งานอย่างอื่นได้เหมือนเดิม

ส่วนเวลาจะเปลี่ยนจุดหมายหากไม่จอดรถ ผมแนะนำให้ใช้ระบบสั่งการด้วยเสียง จะปลอดภัยมากขึ้น

ส่วนออกปชั่นอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว SCS

ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS

ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์

และอีกจุดเด่นของค่ายเอ็มจี การสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย เปิด-ปิดวิทยุ ซันรูฟ หรือขอแผนที่นำทาง

พูดฮัลโหล เอ็มจี เพิ่มเริ่มใช้งาน หรือกดปุ่มสั่งการที่พวงมาลัยเป็นรูปหน้าคนกำลังพูด สามารถใช้คำสั่งเสียงได้เช่นกัน

แต่เอาจริงจากการใช้งาน ใช้มือปรับเองจะเร็วกว่า

“เอ็มจี วีเอช เอชอีวี” มี 2 รุ่นย่อย

รุ่น D ราคา 859,000 บาท

รุ่น X ราคา 919,000 บาท •

 

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]