‘บิ๊กตู่’ถกอีอีซี ทดลองขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าในตึกสันติไมตรี

“บิ๊กตู่” ถกอีอีซี ทดลองขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าใช้เป็นต้นแบบพัฒนาต่อ แนะรมช.ศึกษาฯ บรรจุหลักสูตรเทคโนโลยีหุ่นยนต์เพิ่มทางเลือก ย้ำไม่ต้องเอาใจรบ. อะไรไม่ดีพร้อมรับฟัง

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เยี่ยมชมนิทรรศการ ผลงานจากนักเรียน และสถานศึกษา ที่อยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเฉพาะนักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจเยี่ยมเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้นำยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากภาคเอกชน ประดิษฐ์ขึ้นมาจัดแสดง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ทดลองขับขี่ภายในตึกสันติไมตรี พร้อมกล่าวชื่นชมความสามารถ ระบุเป็นสิ่งที่รัฐบาลอยากเห็นคือยานยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นฝีมือของคนไทย และแม้จะเป็นรถต้นแบบแต่ก็ขอให้พัฒนาต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชม บูธการจัดแสดงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ หรือ Robotics โดยนายกฯกล่าวว่า ได้เห็นวิวัฒนาการเทคโนโลยีของไทยจำนวนมาก ก่อนที่จะหันไปถามผู้บรรยายว่า สิ่งเหล่านี้รัฐบาลไหนทำ ผู้บรรยาจึงกล่าวว่า รัฐบาลนี้เป็นคนทำ นายกฯจึงกล่าวว่า พูดดังๆ พูดให้สื่อได้ยินบ้างว่ารัฐบาลนี้ทำ เดี๋ยวชอบหาว่าไม่ทำอะไร ก่อนจะหันไปสั่งการให้ รมช.ศึกษาธิการ นำไปบรรจุหลักสูตร ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และการจัดทำหุ่นยนต์ตั้งแต่ระดับประถม เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ และมีโอกาสเลือกว่ายังมีหลักสูตรอื่นนอกจากแพทย์ ตำรวจ และทหาร

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมบูธโครงการพัฒนาเยาวชนใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก สอดรับความต้องการอีอีซี โดยโอกาสนี้นายกฯ ได้ร่วมถ่ายภาพกับเยาวชนก่อนจะกล่าวว่า “ลุงทำให้พวกเรา รัฐบาลก่อนไม่ทำหรอก วันนี้ต้องให้ความสำคัญกับเด็ก เพราะเป็นคนรุ่นใหม่” ก่อนชี้ไปยังรัฐมนตรี และกล่าวต่อว่า “เพราะเดี๋ยวคนพวกนี้ก็ตายแล้ว เราจึงต้องทำให้คนข้างหลัง” จากนั้นเยาวชนได้ ขอบคุณนายกฯและรัฐบาล ที่เปิดโอกาสให้พวกเราได้เรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา ได้ลงมือทำเองพร้อมคิดวิเคราะห์ นายกฯ จึงหันไปกล่าวว่า “ใครสอนให้พูด เดี๋ยวหาว่าผมจัดให้พูดเอาใจรัฐบาล ไม่ต้องเชียร์รัฐบาล อะไรทำดีก็บอกดี อะไรไม่ดีต้องแก้ไขเราก็รับฟังได้ แต่ถ้าจะติติงอะไรก็ไปพูดกันข้างหลัง เดี๋ยวโดนโจมตีอีก” จากนั้น 1 ในเยาวชน ได้ขอถ่ายรูปคู่กับนายกฯ นายกฯจึงสอบถามว่า “อายุเท่าไหร่ เธออายุ 17 ฉัน 63 ฉันไม่เก่งเท่าเธอ แต่ฉันเก่งที่จะหางานให้เธอว่าไปทำตรงไหน แต่เราต้องทำด้วยกัน” จากนั้นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง