สมหมาย ปาริจฉัตต์ : ตามไปดูครูเขมร อายุ วรรณะ สุข พละ (จบ)

สมหมาย ปาริจฉัตต์

ตามไปดูครูเขมร เดินทางมาถึงตอนสุดท้าย ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่นของการต้อนรับการเยี่ยมเยือนโรงเรียนครูเจ้าของรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ของคณะมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี

ณ Kum Rou Krong โรงเรียนประถมศึกษาขนาดใหญ่ระดับแถวหน้าของจังหวัดกัมปงชนัง

ครูดี โสพร เพื่อนครู ผู้บริหาร เปิดเวทีด้วยชุดการแสดงของนักเรียนโชว์ศิลปะการร่ายรำตามแบบฉบับวัฒนธรรมเขมร เรียกเสียงชื่นชมและปรบมืออยู่นาน ระหว่างนั้นนักเรียนส่วนใหญ่ที่มาเข้าแถวมอบผ้าคล้องคอให้คณะผู้มาเยือนต่างพากันกลับเข้าห้องเรียน ทำกิจกรรม เรียนกันเอง ตามที่ครูมอบหมายงานล่วงหน้าไว้ให้แล้ว

รองผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวต้อนรับเล่าถึงการปรับปรุงคุณภาพ การขยายโอกาสทางการศึกษา มุ่งกระตุ้นส่งเสริมนักเรียน ครูพัฒนาการเรียนการสอน ทั้งด้านวิชาความรู้ ทักษะต่างๆ และทัศนคติในการดำเนินชีวิต ก่อนจบท้ายอวยพร อายุ วรรณะ สุข พละ

ผู้อำนวยการเขตการศึกษา เล่าถึงข้อมูลพื้นฐานของจังหวัด ประชากร สถิติทางการศึกษา สถานที่ท่องเที่ยว และการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่พยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

 

ถึงคิวฝ่ายผู้มาเยือน ดร.กฤษณพงศ์ ตอบขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานวันนี้และเล่าการดำเนินงานของจังหวัดให้ทราบ มูลนิธิเดินทางไปเยี่ยมเยียนครูและโรงเรียนมีโอกาสพบผู้บริหารการศึกษาของแต่ละประเทศ พบทูต พบผู้บริหารโรงเรียน พบครู พบนักเรียน ที่กัมพูชารัฐมนตรีเล่าถึงหลักการปฏิรูปการศึกษา 5 ประการ ที่เน้นย้ำมากคือครู การพัฒนาครูให้มีคุณภาพ

“ทำให้ครูมีความหวัง มีกำลังใจ ท้าทายเชิญชวนให้พวกเขาอยากพัฒนาตัวเอง เพื่อก้าวไปสู่การยอมรับเช่นเดียวกันบ้าง ระหว่างทางจนมาถึงโรงเรียนทำให้ผมหวนคิดถึงอดีตชีวิตเมื่อวัยเด็ก” ครูกฤษณพงศ์ปิดท้าย ก่อนอวยพรคืนขอให้ทุกท่านมี อายุ วรรณะ สุข พละ เช่นเดียวกัน ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

จากนั้นมอบเวทีให้ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าฯ คนที่ 2 ครูดี โสพร เล่าถึงชีวิต ประสบการณ์ กลยุทธ์ เทคนิค วิธีการสอน อบรมดูแลนักเรียนของเธอ

โดยเฉพาะการช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนอ่อน มีปัญหาขาดโอกาส ครอบครัวยากจน ให้เล่าเรียนดีขึ้นและอยู่ร่วมกับเพื่อนนักเรียนด้วยกันได้

ภาษาอังกฤษสำเนียงเขมร คล่องแคล่ว ชัดแจ๋ว พร้อมฉายภาพชาร์ตภาษาอังกฤษขึ้นจอทีละประเด็นๆ ชวนให้คนฟังทั้งห้องติดตามอย่างต่อเนื่อง

 

ครูเป็นคนกัมปงชนังโดยกำเนิด อายุ 40 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยพนมเปญ ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพครูมัธยมและประถม ผ่านการฝึกอบรมเป็นครูสอนประถมศึกษาที่ศูนย์ฝึกอบรมครูของจังหวัดกัมปงชนัง และฝึกอบรมครูพื้นฐานจากศูนย์ฝึกอบรมครูฮุนเซน จังหวัดกันดาล สอนหนังสือมา 21 ปี ปัจจุบันสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมีทั้งหมด 55 ห้องเรียน ห้องเรียนของครูมีนักเรียน 45 คน เป็นเด็กผู้หญิง 25 คน

“มุ่งสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีความรู้ ทักษะชีวิต คุณธรรม อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ ให้การศึกษา สร้างสัมพันธ์ที่ดีและความร่วมมือกับโรงเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรต่างๆ เพื่อช่วยเหลือส่งเสริมนักเรียน” เธอพูดถึงวิสัยทัศน์และพันธกิจที่ยึดมั่นในการทำหน้าที่ครู

“ครูต้องเข้าใจจิตใจของนักเรียน เข้าถึง รู้จักนักเรียน ความยากจนทำให้พฤติกรรมการเรียนต่ำ ล่าช้า ขี้เกียจ ครูต้องมองเห็นปัญหาของเขาตั้งแต่ต้นๆ”

แนวทางที่จะช่วยพวกเขา โดยเฉพาะนักเรียนเรียนอ่อน มาจาก 3 ฝ่าย ฝ่ายแรก โรงเรียน ตั้งแต่ผู้บริหาร ครู และเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ต่อมาคือครอบครัว พ่อแม่ ผู้ปกครอง และฝ่ายที่สาม สังคม ชุมชน ต้องช่วยโดยการสื่อสารที่ดี และความร่วมมือ

โดยเฉพาะครูต้องเตรียมการ บทเรียน อุปกรณ์การเรียน ต้องทำง่าย ใช้สะดวก เหมาะสมกับวิชาที่เรียน ใช้ค่าใช้จ่ายไม่มากในการจัดทำ จัดหาทั้งในห้อง นอกห้อง การจัดการห้องเรียน สร้างบรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียน ตามลำดับ

 

ครูดี เธอทำอย่างไรในการจัดการห้องเรียน

“พูดให้นักเรียนเกิดความอบอุ่น มั่นใจ เล่าเรื่องราวที่จะเรียนและทำกิจกรรมด้วยกัน ให้ลุกขึ้นและนั่งลง ทำกิจกรรม กระตุ้น เชิญชวน เล่นเกม ก่อนเข้าสู่บทเรียน” เธอเล่าเป็นขั้นตอน เพื่อนครูนั่งฟังอย่างตั้งใจ

ครูต้องขวนขวายแสวงหา เรียนรู้ สร้างสิ่งใหม่ๆ เพิ่มพูนความรู้เสมอๆ มีการสื่อสารที่ดี ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดี วิธีช่วยนักเรียนที่เรียนอ่อน โดยเฉพาะการอ่านและการเขียน แบ่งออกเป็นสามช่วง ก่อนเรียน ระหว่างการเรียน และหลังการเรียน

ก่อนเรียน ครูต้องเตรียมการสอนให้ดี รู้จักนักเรียนโดยละเอียด รู้ปูมหลังสถานภาพของครอบครัวเป็นอย่างไร วิชาที่เรียนอ่อน ทดสอบให้การบ้าน ประสานกับทางครอบครัวให้ความร่วมมือช่วยเหลือตั้งแต่ต้นเทอม อย่างน้อยให้พูด สะกดคำ เขียนให้ถูกต้อง วันละ 5 คำ จัดการห้องเรียนให้ได้ ให้นั่งคละเคล้ากัน นักเรียนอ่อนนั่งกับนักเรียนเรียนดีจะได้ช่วยเหลือกัน สังเกต เช็กอุปกรณ์การเรียนของเด็กมีหรือไม่

ระหว่างเรียน ทุกวันก่อนเข้าสู่บทเรียน ให้เด็กที่เรียนอ่อนอ่านและเขียนบนกระดาน ทำความเข้าใจสระ พยัญชนะ ใช้คำพูดที่ดีๆ ให้เครื่องมือสื่อประกอบเพื่อความเข้าใจ เด็กเก่งและไม่เก่งทำงานด้วยกันเป็นกลุ่ม เสนองาน มีการวิพากษ์งานเด็ก ให้หัวข้อ ให้ระดมสมอง ครูค่อยช่วยและอธิบายเพิ่มขึ้น ทบทวนความเข้าใจโดยการถามคำถามให้นักเรียนคิด

หลังเรียน กระตุ้นให้อ่านเรื่องตลก ขำขัน เรื่องสั้น หรือหนังสือวิชาการ สอนให้มีนิสัยรักการอ่านหนังสือ ให้การบ้านเกี่ยวข้องกับเรื่องที่อ่าน ที่เขียน เข้าห้องสมุด สืบค้นอินเตอร์เน็ต เล่าเรื่องดีๆ เรื่องความสำเร็จ ตรวจเช็กการบ้านเด็กทุกวัน และให้รางวัลเมื่อพวกเขาพัฒนาตัวเองได้ ติดต่อกับพ่อแม่ ผู้ปกครองช่วยกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้ที่บ้าน ทำงานใกล้ชิดกับครูใหญ่และครูที่สอนเด็กกลุ่มเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล

ครูเล่าวิธีปฏิบัติการช่วยเหลือนักเรียนเรียนอ่อนจบ โชว์หลักฐานเชิงประจักษ์ ประกาศนียบัตรและภาพพิธีรับมอบรางวัลหลากหลาย ล่าสุด รางวัลครูดีเด่นของกระทรวงศึกษาธิการและกีฬา เมื่อ 25 มกราคม 2017 และรางวัลสมเด็จเดโชฮุนเซน อันดับหนึ่ง เมื่อ 23 มีนาคม 2017

ปิดท้ายด้วยรายชื่อลูกศิษย์ 13 คน ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันระดับประเทศและนานาชาติ ประสบความสำเร็จทางการศึกษาและการงานอย่างน่าภาคภูมิใจ

 

ครูยืนยันความมุ่งมั่นต่อไปว่า “ต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติม หาวิธีการและเครื่องมือใหม่ๆ สำหรับพัฒนาการเรียนการสอนภายใต้ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของโลก ขณะเดียวกันให้ความสำคัญการจัดความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกๆ คน ทุกฝ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน ดำรงรักษาความเป็นครูที่มีจิตวิญญาณต่อไป” เสียงปรบมือดังทั่วห้อง

ก่อนคณะพากันออกไปสังเกตการณ์การเรียนในห้องให้เด็กพูดถึงความเด่นของครูดี เด็กแย่งกันเล่า พูดจาชัดเจน ทดสอบเด็กห้อง ป.4/5 ให้อ่านหนังสือ ทำเลข บวก ลบ คูณ หาร เลขสามหลัก สี่หลักตามโจทย์ที่ครูผู้มาเยือนให้บนกระดาน ให้บอกวิธีคิด วิธีทำ เด็กแย่งกันยกมือขอออกมาอธิบายหน้าห้อง จนเข้าใจวิธีการสอน วิธีคิด หลายๆ แบบของครูเขมร น่าทึ่งทั้งครู ทั้งเด็กทีเดียว

ใกล้ถึงเวลาจากคณะต้องเดินทางกลับ ฝนเทลงมาส่งท้ายก่อนรถเคลื่อนตัวออก ยกมือไหว้ จับมือบอกลากันอย่างอบอุ่นและมีความหวัง วันหน้าจะได้พบกันอีก

ลาก่อน กัมพูเจีย