จดหมาย

• อดีต : ปัจจุบัน (1)

มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งในอดีต

เป็นที่ชื่นชมของประชาชนค่อนข้างมาก

เพราะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลทหารที่มาจากการล้มกระดานเข้ามาบริหารประเทศตลอดมา

นั่นก็คือ พรรคประชาธิปัตย์

ที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารมาตลอด

จนถึงรัฐบาลไทยรักไทย ที่มี ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำ

ที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมการเมืองใหม่ ด้วยการชูนโยบายหาเสียงที่ทำได้จริง

นโยบายไม่หายไปกับสายลมจอยหลังเลือกตั้งเหมือนกับพรรคการเมืองต่างๆ

จนชนะการเลือกตั้งอันดับหนึ่งมาทุกครั้ง

พรรคประชาธิปัตย์ความนิยมจากประชาชน จึงค่อยๆ ลดน้อยถอยลง

ยิ่งได้ผู้แทนประเภท เจ้าถ้อยหมอความ เข้ามาในพรรคมากๆ ทำให้พ่ายแพ้พรรคไทยรักไทยในอดีต จนมาถึงเพื่อไทย ทุกครั้ง

ตอนหลังๆ จึงหันรีหันขวาง ต้องระดมพลนักเป่านกหวีด เรียกร้องเผด็จการเข้ามาบริหารประเทศแทนการต่อต้านซะงั้นแหละ

ผลงานบริหารประเทศก็เป็นแค่เรื่องฝีปากเจ้าถ้อยหมอความ

เขียนมาถึงตอนนี้ก็มิได้เชียร์ฝ่ายใด หรือทับถมฝ่ายใดทั้งสิ้น

เพราะเอาเรื่องจริงมาเขียน

หากบริหารประเทศด้วยความสามารถ

ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้จริง

ประชาชนก็จะเลือกเข้ามาเอง

แฟนคลับถ้ารักพรรคการเมืองไหน เขารักกันจริง

พร้อมทั้งเชียร์และเลือกเข้ามาอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

ดูอย่างประชาธิปัตย์ในอดีต ที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารอย่างหัวชนฝามาตลอด

และก็ชนะเข้ามาเป็นลำดับหนึ่งทุกครั้งเช่นกัน

อย่างเช่นที่เมืองลำพูน สมัยแรกที่นายหัวชวน หลีกภัย ได้เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก

ฟาร์มหมูแห่งหนึ่งที่เป็นแฟนคลับของประชาธิปัตย์ ถึงกับติดป้ายเฉลิมฉลอง

ลดราคาขายหมูชำแหละ 2 กิโล 90 บาททันที

อิอิ อีตาปิยพงศ์ อยากกินหมูถูกอีกครั้ง

จึงวอนประชาธิปัตย์กลับตัวกลับใจใหม่

หันมาต่อต้านเผด็จการทหารจริงๆ กันอีกครั้ง

ไม่ใช่รับปากตอนหาเสียง

แล้วเข้าไปร่วมรัฐบาลกับพวกเผด็จการอย่างหน้าตาเฉย

หากกลับตัวกลับใจได้

อนาคตคงจะเรียกความนิยมจากประชาชนเหมือนในอดีตกลับมาอีกครั้งหนึ่งได้แน่

เชื่อน้องเถอะเพ่

ดารานำแสดง : เขียงหมูแห่งหนึ่งจากฟาร์มหมู ที่มาลดราคาเฉลิมฉลอง นายหัวชวนได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก

โลเกชั่น : เขียงหมูส่วนตัวนอกตลาดสดแห่งหนึ่งที่เมืองลำพูน

ตากล้อง : คนอยากกินหมูถูก และอดีตแฟนคลับของประชาธิปัตย์ อีตาปิยพงศ์

ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน)

 

โอกาสที่ปี้ปิยพงศ์

จะได้กิน “หมูถูก” อย่างในอดีต มีน้อย

ด้วยเพราะประชาธิปัตย์ดูจะห่างๆ จากจุดยืนชูธงต้านเผด็จการ

มานานแล้ว

ตั้งเป้าจะเป็นรัฐบาลให้ได้เสียมากกว่า

การปิดเขียงหมูฉลองนั้น

เป็นสายลมจอย ที่ไม่มีวันหวนกลับ!?!

 

• อดีต : ปัจจุบัน (2)

หลายปีก่อน มีโอกาสไปเยี่ยมคำนับ นากาโชเน่ อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น

เพื่อศึกษาดูว่า วิธีแก้การเมืองแบบเดิม แก้อย่างไร

ญี่ปุ่นเดิมก็มีการซื้อเสียง แจกของแจกเงิน

แต่เขาแก้สำเร็จไปแล้ว

แก้อย่างไร ผมถามท่านนากาโชเน่ ว่าทำอย่างไร

ท่านย้อนถามผมว่า การเมืองคืออะไร

การเมืองคือวิธีการปกครองบ้านเมือง

ที่ในโลกเขาวางกฎเกณฑ์ไว้ดีแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นระบบประธานาธิบดี หรือระบบนายกรัฐมนตรี

แล้วคุณจะปฏิรูปทำไม

ผู้ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายนั้นก็คือ ตัวนักการเมือง ต่างหาก

ญี่ปุ่นจึงได้ออกกฎหมายเลือกตั้งใหม่ โดยมีสาระสำคัญดังนี้

1) โปสเตอร์ มีได้ขนาดเดียว คือ 42 x 42 เซนติเมตร

ถามเขาว่าทำไมถึงเล็ก เขาตอบว่า แผ่นใหญ่ทำให้บ้านเมืองสกปรก

2) ห้ามแจกของทุกชนิด/ห้ามแจกเงิน

3) ห้ามจัดเลี้ยงทุกชนิด

4) ห้ามบริจาคเงินทุกชนิด ถ้าจะบริจาคต้องบริจาคนอกเขตเลือกตั้ง

5) การหาเสียง ห้ามใช้ลำโพงกระจายเสียงไปตามถนน แต่พูดในห้องประชุมได้

6) ระยะเวลาการหาเสียง ส.ส./ส.ว./ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เวลา 15 วัน นายกเทศมนตรี ให้เวลา 7 วัน

ถามว่าเพราะเหตุใด ท่านตอบว่า การหาเสียงของนักการเมือง “โกหก อวดเก่ง” ทั้งนั้น ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ ต้องศึกษาเอง

7) การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ถือเป็นคดีอาญา

8) เมื่อมีการทำผิด ให้ลงโทษผู้มีส่วนด้วย เช่น หัวคะแนน ลูกเมีย เลขาฯ ผู้จัดการหาเสียง

9) คดีเลือกตั้ง ศาลชั้นต้นต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 100 วัน ศาลอุทธรณ์ 100 วัน ศาลฎีกา 100 วัน

กฎหมายฉบับนี้ ผู้ริเริ่มคือ นายโฮโซกาวา ซึ่งเป็น ส.ส.พรรครัฐบาล แต่ไม่สามารถผ่านมติของพรรคได้ จึงลาออกจากพรรครัฐบาล และไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน

จึงสามารถออกมาได้

นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง

อุดร ตันติสุนทร

 

อุดร ตันติสุนทร ประธานมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

ส่งจดหมายนี้มานานมากๆ แล้ว

แต่ไม่ล้าสมัย

และดูจะล้ำหน้าไปกว่าประเทศไทยมาก

ซึ่งหลายเรื่องน่าสนใจ

แต่มิได้หมายความว่า เราจะต้องเดินตามญี่ปุ่นต้อยๆ

หลายเรื่องเราสามารถปรับให้เหมาะสมกับคนไทยได้

และควรต้องทำ

ปล่อยเอาไว้การเมืองเรา ดูจะถอยหลังเข้าคลองไปเรื่อยๆ

เห็นด้วยไหม •