‘อิ๊ง’ประกาศ เติมรายได้ครัวเรือนละ 2 หมื่นบาทต่อเดือน ย้ำ ไม่ใช้นโยบายแจกเงินไปทั่ว

‘อิ๊ง-เศรษฐา’ มั่นใจนโยบาย พาเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแน่ ชี้ ไม่ใช่นโยบายแจกเงินอย่างเดียว แต่แก้ทั้งระบบอย่างทั่วถึง โยนให้ ‘เศรษฐา’ ตอนแทนปมพรรคครอบครัว

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดนโยบายใหม่กรณีการตอกย้ำเป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ขอเคลื่งพรรค พท.ได้หรือไม่ ว่า เรามีความเชื่อว่านโยบายที่เปิดในวันนี้ เป็นนโยบายที่จะลงไปถึงประชาชนทุกคน ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์สุดท้ายที่จะทำให้เราชนะการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า นโยบายส่วนใหญ่ที่ออกมาจะต้องใช้เงิน นายเศรษฐา กล่าวว่า จริงอยู่ที่เราใช้เงิน แต่ขั้นตอนที่เรามีโดยใส่เงินลงไปจะมีผลกลับมา เมื่อประชาชนมีแรงขับเคลื่อนมากขึ้น และมีการจ่ายภาษีได้ ก็จะกลับมาเป็นรายรับของรัฐบาล แต่บางส่วนก็ต้องมีการจ่ายไปก่อน

เมื่อถามว่า ขณะนี้รัฐบาลมีหนี้เยอะ หาก พท.ตั้งรัฐบาลจะสามารถเริ่มนโยบายได้เมื่อไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้น และผ่านการรับรองจากรัฐสภา เราจะสามารถเริ่มนโยบายของพรรคได้เลยทันที ซึ่งพรรค พท.เรามีหลายนโยบายที่จะไม่ใช้เงินใส่ลงไปอย่างเดียว เช่น นโยบายทางการเกษตร ที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปด้วย พร้อมเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง และไม่จำเป็นต้องใส่เม็ดเงินลงไป ส่วนรายละเอียดของเม็ดเงินที่จะไปใช้ยังไม่เปิดเผย

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงรายละเอียดในนโยบายเติมรายได้ 20,000 บาทต่อเดือนต่อครอบครัวว่า นโยบายดังกล่าวคิดจากครัวเรือน ไม่ใช่คิดต่อคน ถ้าครอบครัวใดรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน เราจะเติมเงินให้เพื่อให้เขามีศักยภาพในการดำเนินชีวิต และเสียภาษีกลับมายังรัฐบาล ย้ำว่าเราจะไม่ใช้นโยบายแจกเงินไปทั่วและไม่ได้อะไรกลับมาเลย โดยเราไม่สามารถใส่เงินไปแค่จุดเดียว และแก้ปัญหาไปวันต่อวัน อันนี้คือนโยบายกระตุ้นฐานราก พร้อมกระตุ้นทั้งระบบ

ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวต่างชาติถามว่า การที่ น.ส.แพทองธาร มาร่วมงานกับพรรค พท.กังวลหรือไม่ว่าจะเป็นการตอกย้ำภาพความเป็นพรรคของครอบครัวชินวัตร ทำให้ น.ส.แพทองธาร ส่งไมโครโฟนให้ นายเศรษฐา เป็นผู้ตอบคำถามแทน โดย นายเศรษฐา ได้ผายมือไปยังที่นั่งของคณะผู้บริหารพรรค และผู้ประสงค์ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนกล่าวยืนยันว่า พรรค พท.ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว บุคคลากรของพรรคพท.ล้วนแล้วเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมมีความรู้ความสามารถ