จดหมาย

จดหมาย

 

• เลิก-ไม่เลิก (1)

สามสิ่งที่ควรเลิกในสังคมโลก

1. อ้างว่าบ้า เที่ยวอาละวาดทำร้ายคน เพราะรู้ว่า คนบ้าไม่ต้องรับโทษหนัก

2. ผู้ต้องหา โดนจับเพราะทำผิดแท้ๆ ห้ามสื่อเปิดเผยใบหน้า แต่คนเป็นเหยื่อกลับเปิดเผยใบหน้าได้

3. รัฐบาล ประชุมเบิกงบประมาณลับ

ข้อ 4. อันนี้เลิกไม่ได้, ฤดูหาเสียง มิตรแท้และศัตรูแท้ ไม่มีในโลก ^___^

เสกสรร แสงจันทร์รุ่ง

 

1) บ้า ที่น่ากลัวกว่า คือ บ้าอำนาจ

บ้าแล้วไม่มีเลิก (ฮา)

2) ด้วยเพราะยังเป็น “ผู้ต้องหา” ยังไม่ใช่ “ผู้กระทำผิด” จริง เลยต้องป้องกันไว้

อันนี้เลยยังไม่ควรเลิก?

3) งบลับ อาจมีความจำเป็นในบางเรื่อง

แต่แม้ไม่เลิก ก็ควรจำกัดวง มิใช่อ้างเรื่องลับตะพึดตะพึอ เพื่อถลุงหาประโยชน์

4) ข้อนี้ เลิกไม่ได้ หรือไม่อยากเลิก–หือ?

 

• เลิก-ไม่เลิก (2)

ผมขอให้ความรู้แก่นักการเมืองรุ่นใหม่ด้วยว่า

ต้องเล่นการเมืองแบบนายควง อภัยวงศ์

คือเข้าถึงประชาชน แบบคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์

คุณชัชชาติเกิดไม่ทันนายควง แต่ท่านทำตามนายควงได้เต็มรูปแบบ

ดูแล้วมีความจริงใจ ไม่เสแสร้ง มองออกทันที

อย่างนี้ เลือกตั้งกี่ครั้งก็ชนะ

เหมือนนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

ท่านก็ทำได้จนคนอิจฉา ไม่ให้อยู่ในเมืองไทย

การเมืองต้องไม่ใช่เล่นแบบศัตรูถึงขั้นจ้องฆ่า

ผมเห็นเหตุการณ์จากข่าว กรณีเคนเนดี้ของอเมริกา

เห็นแล้วขออย่าให้มีอีกเลย

บาปมาก

ตะวันรอน

อ.ลอง จ.แพร่

ป.ล. ผมได้ยินคำพูดของคน 2 คน

เป็นนักการเมืองและอดีตนักการเมือง

คนหนึ่งพูดว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นผู้บังคับบัญชาผม และเคยให้โอกาส ผมไม่เคยลืมบุญคุณ

ส่วนอีกคนหนึ่งพูดว่า เขาเป็นคนเลือกนายกฯ ทักษิณ ให้เป็นนายกฯ

ท่านลองคิดดูว่า ประชาชนฟังหรืออ่านแล้ว

เขาจะให้โอกาสใคร เมื่อมีการเลือกตั้งในอนาคต

ผมคิดถึงอดีตนายกฯ ชาติชาย ชุณหะวัณ

“ก่อนพูดเป็นนายคำพูด

แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว

คำพูดเป็นนายเรา”

 

การเข้าถึงประชาชน

ไม่ควรเลิก–เห็นด้วย

ส่วนการเป็นศัตรูถึงขนาดฆ่ากันนั้น

ควรเลิก–เห็นด้วย

• เลิก-ไม่เลิก (3)

เมืองสะอาด

เมืองลำพูน เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ

อีกทั้งผู้คนล้วนแต่มีน้ำใจงาม

พร้อมกับความสะอาดสะอ้านของบ้านเมือง

จนคว้ารางวัลชนะเลิศจังหวัดหวัดระดับประเทศในปี 2563 และปี 2565

แถมพ่วงรางวัลพิเศษ ต้นแบบการจัดการขยะที่ยั่งเยือน รักษามาตรฐาน 4 ปีติดต่อกัน

แต่เบื้องหลังของรางวัลที่ได้มา ก็ไม่ใช่ง่ายๆ นะ พระเดชพระคุณ

มีป้าย 2 ป้าย เมื่อร่วมยี่สิบปีที่แล้ว

รณรงค์ตัวหนังสือบะเริ่มบนป้ายจากเทศบาลเมืองลำพูน

ป้ายแรก “เศษขยะเพียงหนึ่งชิ้น เป็นราคินของบ้านเมือง”

ป้ายถัดมา “โธ่! คนเก็บมีน้อย คนเป็นร้อยคอยทิ้ง”

เห็นป้ายที่อื่นๆ ทั่วๆ ไป ก็มีแต่ “ห้ามทิ้งขยะมูลฝอยในบริเวณนี้ ฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท”

ก็ขอชมเชยสุดยอดเทศบาลเมืองลำพูน

ที่สรรหาสุดยอดของถ้อยคำ ที่มีทั้งคำออดอ้อน คำตัดพ้อ มาขอความร่วมมือกับชาวบ้าน

และก็ขอชมเชย “โก” หลายๆ ท่าน ที่ผลัดเปลี่ยนเข้ามาบริหาร

จนลำพูนของเราได้รับรางวัลเมืองสะอาดระดับประเทศ มากันหลายครั้ง

แต่ อิอิ กวีมือรางวัลมาเห็นข้อความบนป้าย ถ้าไม่ชิดซ้ายลงคลอง อีตาปิยพงศ์ยอมให้ถอง 3 ตุ้บ เอ้า ฮ่า

โลเกชั่น หน้าตลาดสดหนองดอก เมืองลำพูน

ตากล้อง อีตาปิยพงศ์ (เมืองหละปูน) เจ้าเก่า

ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน)

ป.ล. ส่วนเมืองไม่อาด อยู่ที่ไหน คงจะรู้กันนะฮับ

เพราะกลุ่มคนที่เข้ามาครองบ้านครองเมือง โดยไม่ถูกต้อง

พระเดชพระคุณเล่นเอาเปรียบผู้คนเขา อย่างชนิดหนาตราช้าง ยังต้องชิดซ้าย

ก็พวกเล่นตั้งสวะ เอ๊ย สว. (สูงวัย) มาเป็นตัวช่วยสืบต่ออำนาจตั้ง 250 พระหน่อ เลยแนะ

ถามจริงเหอะ อายบอย (ศิษย์ห้วยขวาง) กันมั่งมั้ยเนี้ยะ

ป.ล. ซ้อน ป.ล. สวะ บ่แม่น ขยะ

ที่ต้องกำจัดออกจากสัปปายะสถาน โดยด่วน

เด้ออ้ายเด้อ

 

สิ่งที่คนลำพูนร่วมมือร่วมใจ จนทำบ้านเมืองสะอาด

อย่า “เลิก” โดยเด็ดขาด

ส่วนที่ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน) ฝากถึงสวะ เอ๊ย สว. (ฮา)

ต้อง “เลิก”

และควรถูกกำจัดออกจากสัปปายะสถาน

อย่างที่ปี้อ้าย–ปิยพงศ์ เปิ้นว่า หรือไม่

เชื่อว่าหลายคนมีคำตอบแล้ว!! •