ขอแสดงความนับถือ

ขอแสดงความนับถือ

 

คอลัมน์ “ดาวพูลโตมองดูโลก” ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับนี้

พาไปมอง “นโยบายเศรษฐกิจ” ของพรรคการเมืองต่างๆ

ซึ่งโดยส่วนตัวของ “ดาวพูลโต” ออกจะผิดหวังอยู่ตามสมควร

ด้วยเห็นว่ายังไม่มีนโยบายเศรษฐกิจของพรรคการเมืองใด

ที่ก้าวข้ามการมุ่งหาคะแนนเสียงจากหีบบัตรเลือกตั้ง และทำเพื่ออนาคตของประชาชนด้วยอุดมการณ์อย่างแท้จริง

ดาวพูลโต จึงสรุปว่า “นโยบายเศรษฐกิจ ถอยหลังลงคลอง”

การสรุปเช่นนี้ เหมือนจะเป็นการมองโลกในแง่ร้าย

แต่ก็เป็นแง่ร้ายที่มุ่งกระตุ้นเตือนให้พรรคการเมือง นักการเมือง เฟ้นหานโยบายเศรษฐกิจและอื่นๆ มานำเสนอให้ประชาชนเลือก

เลือกเพื่อที่เราจะก้าวสู่ความเป็น “ประชาธิปไตย” ที่มิใช่ถอยหลังลงคลอง

และแน่นอน

มิได้ต้องการที่จะให้เบือนหน้าหนี จาก “การเลือกตั้ง” แต่อย่างใด

 

ด้วยการเบือนหน้าหนีจากการเลือกตั้งนั้น

รังแต่จะทำประชาธิปไตยถอยหลังเข้าคลอง มากกว่าประเด็นอื่นๆ

การเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

แม้ว่าจะเผชิญคำถามอันน่าห่วงใยมากมายก็ตาม

ดังที่ “คำ ผกา” ได้ประมวลคำถามเหล่านั้น มาให้พิจารณา ที่หน้า 74-75

อาทิ เรายังมี ส.ว. 250 เสียงที่อาจทำให้นายกฯ ยังคงเป็นประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนเดิม?

ถ้าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ได้เป็นรัฐบาลต้องเกิดการรัฐประหารแน่ๆ?

บ้างก็ว่า ถ้าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง “เขา” (ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาที่ว่านี้เป็นเขาไหน) คงต้องหาเรื่องยุบพรรค?

บ้างก็บอกว่า หลังการเลือกตั้งจะไม่มีอะไรดีขึ้น นักการเมืองหน้าเดิม ขึ้นเสวยอำนาจเหมือนเดิม ไปเกี้ยเซี้ย ฮั้วกันแสวงหาผลประโยชน์เหมือนเดิม?

บ้างก็จินตนาการล่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้วว่าพรรคเพื่อไทยจะไปจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ?

บ้างก็สงสัยว่า แลนด์สไลด์ของเพื่อไทยหวังแค่จะเอาทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน แพทองธาร ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะอยากเอาพ่อกลับบ้าน

เป็นต้น

 

คํา ผกา ยืนยันว่า ไม่ผิดที่เราจะมีคำถาม และจะรู้สึกกลัวล่วงหน้า

หรือคาดการณ์ทุกอย่างให้เป็น worst case scenario ไว้ก่อน

ด้วยคนไทยที่ยืนอยู่ข้างประชาธิปไตยทุกคนต่างเผชิญกับความอกหัก ผิดหวัง พ่ายแพ้ซ้ำซากมาแล้ว

เราจึงกลัวที่ตั้งความหวัง

หรือต่อให้พรรคที่เราเชียร์มีแนวโน้มจะชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย

เราก็จะรีบเตือนตัวเองว่ามันไม่มีจริง มันไม่มีวันจะจริง

เราจะไซโคตัวเองว่า ฝ่ายครองอำนาจ เขามีทุกอย่าง เงิน อาวุธ ระบบราชการ และเชื่ออย่างจริงจังว่า อนาคตของประเทศนี้ถูกบงการโดยอำนาจรัฐพันลึก

การเลือกตั้ง และการเมืองในสภา เป็นเพียงละครตบตาประชาชน

เลือกตั้งไปก็เท่านั้น ท้ายที่สุด “รัฐพันลึก” อยากได้อะไรก็จะบันดาลให้มันเป็นไปในทางที่เขาอยากได้เสมอ

คํา ผกา ชี้ว่าวิธีคิดแบบนี้มีส่วนถูกอยู่บ้าง

แต่เธอยืนยัน ผิดมากกว่า

กล่าวคือ ฟังเผินๆ เหมือนเป็นคนรู้เท่าทันการเมือง ตาสว่าง หลุดพ้นจากการถูกล้างสมองจากโฆษณาชวนเชื่อของรัฐไทยยุคหลังสงครามเย็น

แต่เป็นการ “รู้ทัน” ไปพร้อมๆ กับการ “จำนน” ไปในตัวด้วย

ซึ่งไม่น่าจะใช่ “ท่าที” ที่ถูกต้อง

และเราไม่ควรจะยอมจำนนเสียแต่แรก

คำ ผกา อยากให้เราเชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งมีจริง

และประชาธิปไตยก็กำลังจะได้โอกาสในการหยั่งรากผลิใบจริงๆ

ความสิ้นหวังไม่ช่วยอะไร

การตัดพ้อก็ไม่ช่วยอะไร

แต่การลุกไปรักษาสิทธิ แสดงสิทธิและยืนยันสิทธิของตนเอง

คือประชาธิปไตยที่มีอยู่จริง

จริงหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ คำ ผกา ท้าทายให้เจ้าของสิทธิเลือกตั้งคิด! •