E-DUANG : รากฐาน สายสัมพันธ์ การเมือง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ

การดำรงอยู่ทางการเมืองของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กำลังกลายเป็น”กรณีศึกษา”

ยิ่ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกโรง ยิ่งมีความแหลมคม

เป็นความแหลมคมเมื่อมองไปยังรากฐานความเป็นมาและการดำรงอยู่ของ”แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” หรือ”นปช.”

เป็นความแหลมคมเมื่อมองไปยังแต่ละบทบาท ไม่ว่าจะเป็น ของ นายวีระกานต์ มุกสิกพงศ์ ไม่ว่าจะเป็นของ นางธิดา ถาวร เศรษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นของ นายจตุพร พรหมพันธุ์

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การดำรงอยู่ของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ในฐานะเลขาธิการนปช. ตั้งแต่เริ่มต้นกระทั่งค่อยๆหมด บทบาทและกลายเป็นอดีต

จึงถูกต้องแล้วที่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จะออกมาแจกแจงแต่ละก้าวย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มูลเชื้ออันทำให้สถานะของนปช.ได้เปลี่ยนแปลงกระทั่งมีสภาพอย่างเห็นและเป็นอยู่

ความเป็นจริงก็คือ ลักษณะจัดตั้งของนปช.สัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยอย่างแนบแน่นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

สัมพันธ์กับ ส.ส.แต่ละจังหวัดในสังกัดของพรรคเพื่อไทย

 

จุดเริ่มต้นอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่เพียงแต่สถานการณ์ใน ทางการเมืองที่บรรดาแกนนำนปช.ต้องประสบกับคดีความอย่างต่อเนื่องและยืดเยื้อ

หากอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ การแยกตัวออกจากพรรคเพื่อไทยไปสัมพันธ์กับบางพรรคการเมือง

ดังในกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เข้าไปมีบทบาทอยู่กับการจัดตั้งพรรคเพื่อชาติ ดังในกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เข้าไปมีบทบาทอยู่กับการีจัดตั้งพรรคไทยรักษาชาติ

การแยกตัวในลักษณะเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ต้องห่างออกไป จากพรรคเพื่อไทยตามเหตุและปัจจัยเท่านั้น หากแต่ยังทำให้ภายในของแกนนำนปช.กลายเป็นแม่น้ำแยกสาย ไผ่แยกกอ

ภายในการแยกสายของแม่น้ำและไผ่แต่ละต้น แต่ละคนก็ไปประสบ”สภาพการณ์”อันเป็นลักษณะเฉพาะพิเศษของตน

 

นับแต่สถานการณ์ในปี 2561 ที่ปรากฏพรรคเพื่อชาติ ที่ปรากฏ พรรคไทยรักษาชาติ ขึ้น การดำรงอยู่ของ”นปช.”จึงมิได้เป็นการ ดำรงอยู่อย่างเป็นรูปการณ์เหมือนในอดีต

ไม่เคยมีการประชุม ไม่เคยมีการตัดสินใจอย่างเป็น”มติ”

การแยกทางกันในการเคลื่อนไหวจึงเป็นปรากฏการณ์ปรกติ ไม่ว่าจะมองไปยัง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ว่าจะมองไปยัง นาย ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ไม่ว่าจะมองไปยัง นางธิดา ถาวรเศรษฐ์