อนุทิน โวกระแส ‘ลุงหนู’ ไม่แพ้ ‘ลุงตู่’ มั่นใจปักธงกทม. ! กั๊กจับขั้ว ชี้รอผลเลือกตั้งก่อน

อนุทิน โวกระแส ‘ลุงหนู’ ไม่แพ้ ‘ลุงตู่’ มั่นใจปักธงกทม. ลั่นภท.พร้อมเสนอตัวแก้ปัญหาคนกรุง แทงกั๊ก จับขั้วการเมือง ชี้ให้รอผลเลือกตั้งก่อน

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 23 ม.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเริ่มลงพื้นที่ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ในการลงพื้นที่ดังกล่าว เราได้ปราศรัยนโยบายที่พรรคจัดทำ เวลาพูดอะไรไป ประชาชนก็ชอบใจ เพราะสิ่งที่พูดไปนั้นถูกใจเขา และจะลงไปพื้นที่อื่นด้วย เพราะเราตั้งใจส่งผู้สมัครส.ส.กทม.ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

ถ้าถามว่าคาดหวังเขตไหน ต้องบอกว่าคาดหวังทุกเขต แต่ขึ้นอยู่กับหลายอย่าง ทั้งนโยบายพรรค ความแข็งแรง ความขยัน และความเป็นที่นิยมของผู้สมัครในแต่ละเขต เราจะทำให้ดีที่สุด ซึ่งมั่นใจว่าจะปักธงในกทม.ได้ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคยังไม่มีส.ส.กทม. จึงอยากเสนอตัวเข้ามา เพราะถ้าเรามีส.ส. ก็จะแก้ปัญหาหลายอย่างได้ ในรูปแบบการร่วมมือทำงานให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ไม่ใช่ไปแข่งหรือแย่งกันทำงาน เพราะกทม.มี ผู้ว่าฯกทม.อยู่แล้ว เราแค่มาเสริม แบ่งเบาภาระ ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด

เมื่อถามว่าพรรคมีนโยบายอะไรที่โดนใจคนกรุงเทพฯ นายอนุทิน กล่าวว่า จะใช้ผลงานในช่วงที่เราเป็นรัฐบาล และได้ทำนโยบายที่หาเสียงไว้ครั้งที่แล้วออกมาเป็นรูปธรรมได้แทบทุกนโยบาย และเราไม่ขัดแย้งกับใคร ไม่ชอบและไม่เชื่อว่าความขัดแย้งจะทำให้ประเทศก้าวหน้าได้

แนวทางของพรรค เวลาหาเสียง เราจะไม่พูดถึงพรรคอื่น ไม่ได้ด้อยค่านโยบายของใคร และถ้านโยบายของพรรคอื่นเป็นประโยชน์ ก็ควรสนับสนุนด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าทุกคนปรารถนาดีที่จะทำงานให้กับบ้านเมือง และอุปสรรคใหญ่คือความขัดแย้ง การด้อยค่าและการพูดจาเสียดสีกัน เป็นสิ่งที่คนที่อาสามาเป็นตัวแทนประชาชนไม่ควรทำ และถ้ามัวแต่ทะเลาะกัน จะหาความร่วมมือกันได้อย่างไร

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่านโยบายเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่พรรคภูมิใจไทยได้นำเสนอแล้ว จะซื้อใจคนกรุงเทพฯได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มั่นใจ เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม เวลาที่พูดว่าค่าโดยสารจะไม่เกิน 40 บาท เราได้ศึกษาเรื่องการคุ้มค่าของการลงทุน และประโยชน์ของประชาชน อีกทั้งมีต้นแบบ มีข้อมูล ไม่ใช่มาพูดเพื่อให้ประชาชนรู้สึกดีแล้วมาเลือก

คนที่บริหารบ้านเมืองมา 4 ปี ไปพูดชุ่ยๆ ไม่ได้ แต่พูดโดยใช้ข้อมูลเป็นตัวประกอบ อาทิ มีการศึกษาราคาไม่เกิน 42-43 บาท เราก็หาวิธีทำให้ราคาไม่เกิน 40 บาท เพื่อให้วิน-วินสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ การทำระบบขนส่งสาธารณะให้ประชาชน จะคิดแต่ได้กำไรมากไม่ได้ ถ้าขาดทุนเล็กน้อยหรืออยู่ตัว แต่เป็นประโยชน์กับประชาชน ต้องทำให้ เพื่อลดต้นทุนการดำรงชีวิต

ส่วนความพร้อมหากนายกฯประกาศยุบสภา นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้ถึงอย่างไรก็ต้องพร้อม ต่อให้นายกฯไม่ยุบสภา ก็เหลือเวลาอีก 2 เดือน แต่เมื่อนายกฯ มาเป็นสมาชิกพรรคการเมือง คาดเดาว่าการยุบสภาน่าจะเกิดขึ้น และเวลาอาจจะเหลือน้อยกว่า 2 เดือน โดยพรรคพร้อมตั้งแต่ปี 2565 พร้อมมาก

เมื่อถามว่ามองอย่างไรต่อกระแสที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เริ่มลงพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่นายกฯลงคนเดียว ใครๆก็ลงพื้นที่ ตนก็ลง มีทั้งนายกฯ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ลงพื้นที่เยาวราช สลับกันไปมา ตอนนี้การลงพื้นที่เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะเมื่อลงพื้นที่ จะทำให้ได้เห็นปัญหา

เมื่อถามว่าประเมินกระแสการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ ว่าน่ากลัวหรือน่ากังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้กำลังใจนายกฯและทุกพรรค ตรุษจีนก็ต้องซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้หัวหน้าพรรคทุกพรรค ให้กำลังใจทุกคน เพราะเชื่อว่าทุกคนปรารถนารับใช้ประชาชน คนตัดสินใจคือประชาชน

ส่วนที่คนบอกว่ามีกระแสของนายกฯนั้น กระแสของลุงหนูก็มี เดี๋ยวนี้เวลาไปไหนมาไหน ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน เมื่อตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมืองในกทม. เพราะเห็นว่าคนกทม.เริ่มมีคนรู้จักพรรคภูมิใจไทย เริ่มให้ความเชื่อมั่นในการทำงาน เราจึงพร้อมเสนอตัว ส่วนจะประสบความสำเร็จแค่ไหนนั้น อยู่ที่ประชาชน ได้ส.ส.ก็ทำงาน ต่อให้ไม่ได้ส.ส. เราก็ทำงาน ถ้าได้ส.ส.ในกทม.ถือว่าเสริมความแข็งแกร่ง ส่วนจังหวัดอื่นเราแข็งแกร่งอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเวลานี้แข่งขันกัน แต่หลังจากเลือกตั้งจะจับมือกันได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง วันนี้เลิกพูดได้แล้วว่าใครพรรคนี้แล้วเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่ถ้าใครอยู่ไม่อยู่ ไม่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย หรือพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคดูด เพราะเราก็ถูกดูด