ศึกเคลมบัตรคนจน : หัวหน้า รทสช.ลั่น ประยุทธ์ เป็นคนคิด ยันใจกว้างพรรคร่วมไปใช้ได้ เมิน พปชร.ปาดหน้าลงพื้นที่

พีระพันธุ์ ลั่น บัตรคนจน บิ๊กตู่ เป็นคนคิด ยันใจกว้าง พรรคร่วมรัฐบาลหยิบไปใช้ได้ เมินพลังประชารัฐ ปาดหน้าลงพื้นที่ เป็นนักการเมืองต้องหัดใจกว้าง

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปาดหน้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงพื้นที่ในหลายจังหวัดว่า เรื่องนี้ไม่ได้มองว่าปาดหน้า ตนไม่สนใจ ไม่ได้ติดใจหรือมีปัญหาใดๆ การเมืองใหญ่ไม่ควรคิดเล็กคิดน้อย ต่างคนต่างต้องทำงาน เข้าใจดีว่าทุกพรรคต้องลงพื้นที่ เพียงแต่ใครจะลงแบบไหน เป็นนักการเมืองต้องหัดใจกว้าง ไม่ใช่มาคิดอะไรจุกจิก

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ คิดเรื่องนี้อย่างไร นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า นายกฯไม่ได้คิด ซึ่งนายกฯเข้าใจว่าทุกคนก็ต้องทำงาน เข้าใจดีถึงภาระหน้าที่ของพรรค และนักการเมืองก็ต้องแบบนี้ ทุกคนต้องหาเสียง ใกล้ชิดประชาชน ทุกพรรคมีสิทธิที่จะทำแบบนี้เหมือนกัน

เมื่อถามถึงการแย่งโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ได้แย่ง โครงการนี้อันที่จริงมาจากนายกฯ และถือเป็นของรัฐบาล ฉะนั้น ทุกพรรคร่วมรัฐบาลใช้ได้หมด แต่ที่สำคัญคือ มันเริ่มต้นมาจากนายกฯ แต่มันจะเป็นอย่างไร สุดท้ายขอให้ประชาชนได้ประโยชน์ก็พอแล้ว

เมื่อถามว่าแสดงว่าทุกพรรคนำนโยบายดังกล่าวไปใช้เสนอต่อประชาชนได้ใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เป็นนโยบายของนายกฯ แต่ทำในนามของรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลหากจะนำไปพูด เราจะไปห้ามได้อย่างไร เพราะเขาก็มีส่วนร่วมทำโครงการนี้มา เรื่องแบบนี้มันต้องใจกว้างกันบ้าง เพียงแต่ข้อเท็จจริงคือมาจากไหน ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯไม่ซีเรียสใช่หรือไม่ หากพรรคพลังประชารัฐจะนำไปใช้ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เราใช้ได้ เขาก็ใช้ได้ เพราะมาจากรัฐบาลเหมือนกัน

เมื่อถามว่าหากพรรคจะใช้ ต้องเปลี่ยนชื่อก่อนหรือไม่ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ก็ต้องมาดูกันอีกทีก่อน แต่บัตรอันนี้ เริ่มต้นมาจากนายกฯซึ่งเห็นว่ามันช่วยประชาชนได้อยู่ และคงจะเดินหน้าต่อ เพียงแต่ในรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ค่อยว่ากัน

เมื่อถามว่าหากเดินหน้าต่อแล้วจำนวนเงินจะบลัฟพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า อย่าไปคิดว่าจะบลัฟอะไรเลย แต่ละคนก็มีสิทธิคิด ที่สำคัญอย่าไปพูดจนกระทบงบประมาณแผ่นดิน การหาเสียงต้องมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่พูดจนสุดท้าย จำนวนตัวเลขฐานะการเงินของประเทศไปไม่ได้ อย่างนั้นมันไม่ถูกต้อง จะเอางบส่วนไหนมา ต้องดูด้วย

ดังนั้น หลักการคือ การจะเอาเงินใส่ไปในบัตร จะต้องไม่กระทบต่องบประมาณ ต้องอยู่ในกรอบวงเงินเดิมให้มากที่สุด ไม่ใช่มาใช้วิธีเกทับบลัฟกัน มันไม่ได้อะไรขึ้นมา ใครๆก็เบิ้ลกันได้ทั้งนั้น ที่สำคัญทำได้หรือไม่ได้ และกระทบงบหรือไม่