ความเบาใจ ‘บิ๊กเด่น’ ปิดคดีตู้ห่าว ฉวยจังหวะกวาดบ้านครั้งใหญ่ ชูวิทย์จี้ถอนราก ‘จีนเทา’ กลุ่มใหม่

“รู้สึกเบาใจ” บิ๊กเด่น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ปรารภ 1 วัน หลังนำสำนวนคดีทลายสถานบันเทิง “จินหลิง” มีนายตู้ห่าว-ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญสั่งฟ้องให้อัยการสูงสุด

ฐานความผิดร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด, ร่วมกันฟอกเงิน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและอื่นๆ เป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องนอกราชอาณาจักร

“บิ๊กเด่น” ในฐานะพนักงานสอบสวน ได้นำทีมนำสำนวนการสอบสวนจากคณะพนักงานสอบสวนมาจาก 4 กองบัญชาการ ประกอบด้วย บช.น., บช.ก., บช.สอท. และ บช.ปส. พร้อมพยานเอกสาร พยานนิติวิทยาศาสตร์และอื่นๆ 13 ลัง ประกอบด้วย 67 แฟ้ม รวม 26,892 แผ่น ส่งให้ทีมอัยการ

โดยมีนายจรูญ อินทนานนท์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นผู้รับมอบ เมื่อ 13 มกราคมที่ผ่านมา

สำหรับเอกสาร 67 แฟ้มนั้น มีการสอบสวนพยานบุคคล 444 ปาก สืบพยานล่วงหน้า 20 ปาก ตรวจยึดทรัพย์สิน 5,345 ล้านบาท สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด 43 คน แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 38 คน นิติบุคคล 5 ราย ในส่วนของบุคคลธรรมดา 38 คน จับกุมดำเนินคดีแล้ว 20 คน หลบหนี 18 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม

ส่วนผู้ต้องหานิติบุคคลอีก 5 บริษัท ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีแล้ว

 

ผบ.ตร.มั่นใจว่าสำนวนแน่นหนาครบถ้วนเพียงพอในการสั่งฟ้องผู้ต้องหา สามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ตามข้อกล่าวหา ที่ผ่านมาได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ เพื่อเอาผิดผู้ต้องหาในทุกข้อกล่าวหา พยานหลักฐานที่พบมีความเกี่ยวพันกัน ในฐานะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน อยากให้สำนวนออกมาสมบูรณ์ที่สุด อาจเห็นว่าทำงานล่าช้า แต่มั่นใจว่าสำนวนทั้งหมดสมบูรณ์แล้ว

ทราบว่าทันทีที่สำนวนถึงมืออัยการ “อาจารย์เปี๊ยก” น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ได้พิจารณาทันที แม้เสาร์-อาทิตย์ เข้าสำนักงานตลอด ส่งฟ้องศาลให้ทันภายใน 20 มกราคม

ผบ.ตร.ระบุด้วยว่า สำหรับประเด็นรถทัวร์ที่เป็นของหลานนายกฯ สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ได้ข้อมูลจาก ป.ป.ส.มงว่า รถทัวร์ที่หลานนายกฯ ไปทำธุรกรรมเช่าซื้อ เพื่อทำธุรกิจท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2562 ประมาณ 33 คัน จากจำนวนหลายร้อยคันที่นายตู้ห่าวได้ทำธุรกิจ ส่วนคดีสถานบริการ “จินหลิง” เป็นคดีสมคบยาเสพติด คดีองค์กรอาชญากรรมข้ามชาตินั้น พบหลักฐานความเกี่ยวเนื่องย้อนไปถึงปี 2563

ดังนั้น เรื่องรถทัวร์เป็นการเช่าซื้อของหลานนายกฯ ก่อนกระทำความผิด จึงไม่เกี่ยวข้องคดีนี้โดยตรง

 

สําหรับตำรวจที่เข้าไปพัวพันกระทำผิด แบ่งเป็นคดีหลัก คือคดีฟอกเงิน มี พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ผกก.ฝ่ายความร่วมมือและกิจการระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ ภรรยานายตู้ห่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งให้ออกจากราชการแล้ว

ส่วนอีก 5 นาย ทั้ง พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผบก.น.6, พลขับ, รอง ผกก.จร.สน.ลาดพร้าว และพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 นาย มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและส่งสำนวนการดำเนินคดีไปที่ ป.ป.ช. เป็นคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เรียกรับสินบน ซึ่ง ผบช.น.สั่งให้ออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมแล้วเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ถ้าจำกันได้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ ‘บิ๊กโจ๊ก’ บอกว่าตำรวจที่รับสินบนคดีตู้ห่าว ต้องเอาความจริงขึ้นมาบนโต๊ะ เดินหน้าแก้ปัญหากัน เอาฝ่ามือปิดฟ้าไม่ได้ มีการดำเนินคดี พ.ต.ท.คมไพร ทองลาด รอง ผกก.จร.สน.ลาดพร้าว ในความผิดฐานขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด แก่เจ้าพนักงานฯ

อีก 2 นาย สน.ยานนาวา คือ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ พิมมา สว. (สอบสวน) และ ร.ต.อ.สมยศ บุญณะแก้ว รอง สว. (สอบสวน) ถูกดำเนินคดีฐานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นโดยมิชอบฯ และ พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผบก.น.6 รักษาราชการแทน ผกก.สน.ยานนาวา ที่มีคำสั่งเด้งมาประจำ ศปก.บก.น.6 กรณีปล่อยรถยนต์ของกลาง 4 คันให้ผู้ต้องหาไปโดยมิชอบ

ล่าสุดในส่วนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่อำนวยความสะดวกออกวีซ่าให้มูลนิธิต่างๆ เพื่อให้คนจีนมาอาศัยในไทยได้นานขึ้น มี 80 คน ในจำนวนนี้มีระดับ “นายพล” 3 คน เป็นเพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กโจ๊ก” ด้วย จะดำเนินคดีแจ้งข้อหา มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 149 เรียกรับผลประโยชน์

 

ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและเจ้าของบริการ คาดการณ์ว่าอีก 2 ปีศาลชั้นต้นจะตัดสินคดีตู้ห่าว กว่าจะถึงศาลฎีกา คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 7 ปี

พร้อมแฉว่า ข้อมูล “จีนเทา” ยังไม่หมด นายเหมา หยาเซียง คือตัวการสำคัญ ขณะนี้ถูกจับกุมตัว ขังอยู่ที่ ตม.

นายเหมาเป็นระดับหัวหน้า 1 ใน 6 เป็นผู้จัดการ “หยง หยวน กรุ๊ป” ที่ครอบคลุมกิจการกาสิโน คอลเซ็นเตอร์กว่า 70% ที่สีหนุวิลล์ กัมพูชา

มีนายทุนใหญ่คือคนจีน อายุ 75 ปี ชื่อ “หยง” เป็นเจ้าของ กิจการต่างๆ ของนายตู้ห่าวได้รับเงินทุนมาจากนายหยง ทำให้ได้ก่อร่างสร้างตัว ทั้งบ่อนการพนัน 4 แห่ง ในย่านยานาวา (ผับจินหลิง), ราษฎร์บูรณะ, เทพารักษ์ ซอยหมู่บ้านภัทรนิเวศน์ หลังโรงแรมเดอะ เอ็ม แกรนด์, ร้านอาหาร “ต้นตำรับไทย” แยกอรุณอมรินทร์ ปิ่นเกล้า และยังวางแผนจะทำพนันออนไลน์ ที่ขณะนี้ตกอยู่ในมือของกลุ่มคนไทย

ที่ใหญ่สุดเป็นตำรวจ ชื่อเล่นย่อ “ซ” คนรู้จักกันทั้งเมือง ลำดับสอง นาย “ทท” และลำดับสาม “ล” ลูกนายบ่อนแถวปิ่นเกล้า

ขณะนี้เส้นทางการเงินพันไปถึงผับใหญ่ย่านทองหล่อ และไปถึงเจ้าใหญ่ลอตเตอรี่

จอมแฉสำทับว่า ที่เล่าให้ฟัง เพื่อให้ทราบว่าเงินทุนนายตู้ห่าวมาจากกัมพูชา “สีหนุวิลล์” เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และการพนันออนไลน์

ในเร็วๆ นี้ จะถูก “จีนเทา” เข้ามาครอบครองตลาด ด้วยเทคโนโลยี และเงินทุนที่แข็งแกร่งกว่า รวมถึงแอพพ์เงินกู้จีน ไลฟ์สดชวนพนัน ที่ล้วนมีคนจีนอยู่เบื้องหลัง

หากในเร็ววันนี้ไม่จัดการถอนรากถอนโคน จีนเทาจะกลับมาใหม่ ใหญ่กว่านายตู้ห่าวแน่นอน