ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 - 19 มกราคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
THE MENU | ‘วัฒนธรรมฟู้ดดี้’
โลกโซเชียลทำให้วัฒนธรรมการกินอาหารเปลี่ยนโฉมหน้าไป…ไม่มากก็น้อย…
แต่เห็นจะเป็นไปในทาง “มาก” เสียยิ่งกว่า “น้อย” ก็ว่าได้
ใครกินอะไร ทำอะไรกิน หรือไปกินที่ไหน…มื้อต่อมื้อ…ในหมู่เพื่อนฝูง หรือในอีกแวดวง อีกสังคม อีกประเทศ อีกทวีป อีกมุมโลก กลายเป็นภาพหรือเนื้อหา “คอนเทนต์” ที่สังคมโซเชียลเสพอาหารทางตาและ “สตอรี่” เอาไว้ให้เมาธ์กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
บ้างก็ด้วยความสนอกสนใจนึกอยากจะไปกินไปเสพตามเทรนด์บ้าง เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นคนตกยุคหรือหลุดโลก
บ้างก็ด้วยความตื่นตาหรือช็อคกับสนนราคาที่ต้องจ่ายไปกับการกินแบบผลาญเงินผลาญทองในมื้อเดียว จานเดียว หรือคำเดียว
The Menu เป็นหนังตลกร้ายแบบเขย่าขวัญ ที่มาพร้อมด้วยเนื้อหากระทบกระแทกเสียดสีสังคม วัฒนธรรมการกิน และศิลปะการสร้างสรรค์อาหาร ซึ่งถูกกำหนดโดยกระแสสังคม เกินเลยไปจากการกินด้วยความเอร็ดอร่อยของรสชาติอาหารธรรมดาสามัญแบบดั้งเดิม
และมาพร้อมด้วยนักแสดงชั้นนำยอดฝีมือคับคั่งมากหน้าหลายตา รวมทั้งงานออกแบบโปรดักชั่นที่ชวนมอง น่าจับตาและน่าประทับใจ
หนังเปิดเรื่องที่หนุ่มสาวคู่หนึ่ง ไทเลอร์ (นิโคลัส โฮลต์) และมาร์โกต์ (อันยา เทเลอร์-จอย) กำลังรอเรือที่จะพาเดินทางระยะสั้นๆ ไปยังเกาะซึ่งเป็นที่ตั้งของภัตตาคารสุดหรูชื่อ ฮอว์ธอร์น
ไทเลอร์ห้ามปรามมาร์โกต์ไม่ให้สูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่จะไปทำลายต่อมรับรู้รสชาติอาหารที่พวกเขากำลังจะไปเสพสำราญกันในครั้งนี้
ไทเลอร์เป็น “ฟู้ดดี้” ผู้คลั่งไคล้ใหลหลงในอาหารเลิศรสของเชฟชั้นนำ แทบจะกล่าวได้ว่าเขา “รู้” ทุกเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมการกินของคนสมัยใหม่ รู้รสของเครื่องปรุงอันหาได้ยาก
เขาตัดบทเรื่องการสูบบุหรี่ของมาร์โกต์ก่อนจะขึ้นเรือไปว่า เขาควักกระเป๋าจ่ายค่าอาหารไปหัวละเฉียดห้าหมื่นบาท (ค่าอาหารรวมทิปคือ 1,250 ดอลลาร์) ไปสำหรับการดั้นด้นไปกินอาหารอันสุดยอดอลังการด้วยฝีมือเชฟชื่อดังมื้อเดียวมื้อนี้…และจ่ายให้เธอไปเป็นนั่งกินดินเนอร์เป็นเพื่อนเขาด้วย
ซึ่งมาร์โกต์สวนคำทันทีโดยวิจารณ์ว่าอาหารอะไรแพงเทียบเท่านาฬิกาโรเล็กซ์หนึ่งเรือนเลยทีเดียว…
นี่คือโลกของคนรวยแบบซูเปอร์ริชเท่านั้นที่จะเข้าถึงได้
นอกจากไทเลอร์กับมาร์โกต์แล้ว ลูกค้าระดับเอ็กซ์คลูซีฟของฮอว์ธอร์นในค่ำคืนนี้ ประกอบด้วย
ลิเลียน (แจเน็ต แมคเทียร์) นักวิจารณ์อาหารชื่อดัง พร้อมด้วยบรรณาธิการของเธอ
มหาเศรษฐีชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้เป็นแขกประจำของที่นี่และเคยมากินอาหารแพงหูฉี่ของที่นี่มาแล้วกว่าสิบครั้ง
สามหนุ่มผู้กอบโกยกำไรมหาศาลจากกิจการเทคโนโลยีโดยมีประวัติการยักย้ายถ่ายเทเงินทองแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ดาราหนังชื่อดังในอดีต (จอห์น เลกวิซาโม ซึ่งบอกว่ามีสตีเวน ซีกัล เป็นต้นแบบในการเล่นบทนี้) กับเลขานุการส่วนตัวสาวสวย ซึ่งพร้อมจะชิ่งตีจากเขาไปทำงานที่อื่นในอนาคตอันใกล้
เมื่อเรือเข้าเทียบท่าที่เกาะเล็กๆ โดดเดี่ยวในยามเย็น พนักงานต้อนรับชื่อเอลซ่า (หง เชา นักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม ซึ่งได้รับคำชื่นชมอย่างมากในปีนี้สำหรับบทบาทของเธอในหนังเรื่องนี้และในอีกเรื่องคือ The Whale) มาต้อนรับที่ท่าและลงทะเบียนแขกสำหรับอาหารมื้อสุดพิเศษ
ปรากฏว่ามาร์โกต์ไม่ได้มีชื่ออยู่ในลิสต์รายชื่อแขก สร้างความแปลกใจและสับสนเล็กน้อยแก่เอลซ่า
เอลซ่าพาแขกเดินชมสถานที่บนเกาะน้อย เป็นการปฐมนิเทศสำหรับลูกค้าผู้มั่งคั่ง และเปิดให้ชมที่พักเหมือนโรงทหารของสตาฟฟ์ลูกมือเชฟคนดัง
แต่กระท่อมที่พักของเชฟนั้นเป็นบริวเณต้องห้าม ซึ่งไม่เปิดให้ใครเข้าชม
และแล้วก็ได้เวลาเดินเข้าห้องอาหารกรุกระจก แต่บานประตูทึบหมุนหับปิดอย่างแน่นหนา
ครัวเป็นครัวของร้านอาหารหรูสมัยใหม่แบบเปิดให้ลูกค้ามองเห็นการตระเตรียมอาหารอย่างพรักพร้อมของกองทัพเชฟผู้ทำงานอย่างประณีต ภายใต้คำสั่งและการควบคุมของเชฟใหญ่ คือ เชฟสโลวิก (เรฟ ไฟน์ส)
เชฟสโลวิกปรบมือดังๆ หนึ่งครั้ง เพื่อเรียกความสนใจ ขณะที่เหล่าลูกมือผู้ช่วยเชฟขานรับคำสั่งอย่างพร้อมเพรียงแข็งขันว่า “ครับ เชฟ”
ก่อนเสิร์ฟอาหารแต่ละคอร์ส ซึ่งตกแต่งอย่างอลังการงานสร้าง มีการเล่า “สตอรี่” ที่มาที่ไปอย่างชวนให้คิดตาม และเรียกน้ำย่อย
แน่นอนว่า อาหารฝรั่งแบบหรูเริ่ดแต่ละคอร์สในภัตตาคารแพงระยับน่ะเสิร์ฟมาเป็นคำเล็กคำสองคำ โดยไม่ให้กินจนอิ่ม เพราะเชฟบอกว่าเขาออกแบบคำนวณมาให้อิ่มท้องกำลังดี และมีที่เหลือสำหรับอาหารคอร์สต่อๆ ไปจนครบตามเมนู
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของค่ำคืนอันน่าสยองขวัญในการกินอาหาร ซึ่งเชฟสั่งห้ามว่า ห้าม “กิน” แต่ให้ “เสพรสชาติ” และไม่ยอมเสิร์ฟอาหารพื้นอย่างขนมปังซึ่งเป็นอาหารของสามัญชนด้วยซ้ำ ได้แต่เสิร์ฟเครื่องจิ้มต่างๆ ของขนมปังมาให้ลิ้มรส
ท่ามกลางความงุนงงและทักท้วงของลูกค้าจอมอหังการบางคนที่ต้องการกินขนมปัง
นี่เป็นตลกร้ายนะคะ เพราะงั้นอาหารแต่ละคอร์สจึงเป็นพัฒนาการไปสู่ความสยองขวัญอย่างที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะมีอะไรร้ายกาจเกิดขึ้น และทวีความน่าหวาดเสียวขึ้นไปเรื่อยๆ
เชฟสโลวิกมีเหตุผลสำหรับการเชิญแขกแต่ละคนมาลิ้มรสอาหารมื้อหรูของเขา แต่เขาไม่มีเหตุผลสำหรับแขกที่เป็นตัวแทนเข้ามาในนาทีสุดท้ายอย่างมาร์โกต์
และมาร์โกต์ก็เป็นคนที่ได้รับยกเว้นจากแผนการของเขาในค่ำคืนนี้
หนังมีสมมุติฐานและการพัฒนาเรื่องอย่างน่าสนใจมาก เสียแต่ว่าความสมเหตุสมผลของการพัฒนาเรื่องและตัวละครยังแปร่งปร่า และไม่ลงตัวดี จึงยากจะทำใจให้เชื่อตามได้
และการวิพากษ์สังคมและวัฒนธรรมการกินก็ขาดมิติของความแหลมคม ความพอเหมาะพอควร และการทำใจให้ยับยั้งความไม่เชื่อ (suspension of disbelief) ได้
แต่กระนั้น โปรดักชั่นดีไซน์และนักแสดงฝีมือดีทั้งหลายก็ช่วยกันแต่งแต้มสีสันให้แก่หนังได้ไม่น้อยเลย •
THE MENU
กำกับการแสดง
Mark Mylod
นำแสดง
Ralph Fiennes
Anya Taylor-Joy
Nicholas Hoult
Hong Chau
John Leguizamo
Janet McTeer
ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022