สงครามยูเครน ยาวตลอดปี 2566 คงไม่มีนรกนิวเคลียร์

มุกดา สุวรรณชาติ
(Photo by Yasuyoshi CHIBA / AFP)

สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะเห็นว่าผลกระทบไม่เพียงพื้นที่ที่มีการรบ

แต่ผลสะเทือนของสงครามกระทบเศรษฐกิจไปทั่วโลก

ยังต่อเนื่องไปตลอดปี 2566 แต่ก็ยังมีคนกังวลว่าอาจมีสงครามนิวเคลียร์

อย่างที่เคยบอกไว้เมื่อตอนสงครามเริ่มต้น ว่านี่จะเป็นสงครามที่ยาวนานเป็นปีๆ (ขอย้ำว่าเป็นปีๆ ไม่ใช่เป็นเดือนๆ หรือปีเดียว)

 

เหตุผลก็คือ

1.เพราะความอยากขยายอำนาจของผู้นำอย่างปูติน

การปฏิวัติในยุโรปตะวันออก และการสลายตัวของสหภาพโซเวียต (1989-1991) และการปฏิรูปในสมัยกอร์บาชอฟ ประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต ส่งผลให้เกิดรัฐเอกราชใหม่ 15 รัฐอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการสิ้นสุดของสหภาพโซเวียต

แต่สิงหาคม 1999 ปูตินได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซิน ให้รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรัสเซีย และสนับสนุนจนเขาชนะเลือกตั้งในเดือนมีนาคมปี 2000 จากนั้นก็ครองอำนาจถึงปัจจุบัน พร้อมกับการขยายอำนาจให้มากกว่าเดิม

สิงหาคม 2008 ปูตินส่งรถถังบุกเข้าไปในจอร์เจียและโจมตีทางอากาศต่อเนื่อง 4 วัน โดยอ้างว่าเป็นกองกำลังสันติภาพรัสเซียเข้าไปปกป้องประชาชนชาวรัสเซีย ใช้เวลาเพียง 5 วัน และจบลงด้วยชนะ มีการลงนามข้อตกลงหยุดยิง

ปี 2014 ปูตินก็สามารถเข้ายึดครองและผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนได้อย่างง่ายดายโดยใช้เวลาเพียง 1 เดือน

24 กุมภาพันธ์ 2022 ปูตินจึงสั่งบุกยูเครน แต่ยูเครนระแวงรัสเซีย นับตั้งแต่ถูกยึดครองไครเมีย ในปี ค.ศ.2014 เพราะไม่มีใครคิดจะย้อนกลับไปสู่การปกครองแบบจักรวรรดิ ผู้นำและชาวยูเครนจึงจับอาวุธขึ้นสู้ ทำให้แผนการของรัสเซียไม่สำเร็จ

ถ้าคิดว่าชัยชนะคือการควบคุมประเทศหรือควบคุมพื้นที่และควบคุมประชาชน เกือบ 1 ปีที่เริ่มสงคราม รัสเซียทำได้บางเขต ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเขตดอนบาสและแหลมไครเมีย ซึ่งแน่นอนว่าสงครามก็จะย้ายไปอยู่ส่วนนั้น

ลักษณะของสงครามการรุกรานยิ่งขยาย ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งเสียหาย และมีค่าใช้จ่ายมหาศาล

 

2.ยูเครนมีความได้เปรียบทางพื้นที่ กำลังพลและยุทธวิธี

ถ้าดูจากแผนการเดิมปูตินต้องการรุกรานแบบรวดเร็ว ทำสงครามระยะสั้นๆ แล้วก็ตั้งรัฐบาลหุ่นที่เป็นพวกตัวเองขึ้นมาในประเทศนั้นๆ แต่ครั้งนี้ทำไม่ได้ ยูเครนเป็นประเทศใหญ่ มีประชากร 40 กว่าล้าน พื้นที่กว่า 6 แสนตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าประเทศไทยอีก ขนาดพอๆ กับอัฟกานิสถานที่รัสเซียเคยไปบุกและแพ้มาแล้ว ไม่เหมือนการบุกจอร์เจียที่ผ่านมา ที่มีพื้นที่เป็นหลักหมื่นตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 3.8 ล้าน

ที่สำคัญที่สุดคือคนยูเครนสู้เพื่อรักษาบ้านเกิด ไม่มีใครใน 15 ประเทศเอกราชใหม่จะยอมไปอยู่ใต้อำนาจจักรวรรดิเผด็จการให้อดๆ อยากๆ อีก

กองกำลังพิทักษ์ชาติของรัสเซียที่ว่าเก่งนักหนาและกองพลรถถังต่างๆ เมื่อเข้าไปในยูเครนก็ถูกละลายหายไปทั้งคนทั้งรถ

เหตุที่รัสเซียขู่เรื่องนิวเคลียร์บ่อยๆ เพราะตอนนี้รัสเซียไม่มีอาวุธไฮเทคอย่างที่คุยไว้ และเมื่อปูตินประกาศระดมพลเพิ่มกำลังทหารอีก 300,000 นาย พวกผู้ชายก็หนีกระเจิงเดินทางออกต่างประเทศ ทั่วทุกทิศ เพราะคิดว่าที่ส่งไปรบตายมากมาย รัสเซียปกปิดการสูญเสีย แต่ข่าวลือยิ่งแย่กว่าของจริง

 

3.นานาประเทศต่อต้านและแซงก์ชั่นการรุกรานยูเครน

ถ้ารัสเซียบุกยูเครนครั้งนี้และไม่มีใครต่อต้าน ต่อไปรัสเซียจะบุกยึดประเทศใดก็ได้เหมือนตอนฮิตเลอร์นำนาซีบุกโปแลนด์ครั้งแรก ดังนั้น ประเทศที่อยู่รอบรัสเซียจึงเกิดความหวาดระแวงว่าจะถูกรุกรานด้วยกำลังเมื่อใดก็ได้

NATO ไม่ขยายสงคราม พื้นที่การรบจึงจำกัดอยู่ในยูเครน แต่หนุนอาวุธให้เต็มที่ รัสเซียถูกแซงก์ชั่นทางเศรษฐกิจและการต่อต้านจากนานาชาติในรูปแบบต่างๆ

แต่รัสเซียมีก๊าซและน้ำมันเป็นอาวุธ ผลของการแซงก์ชั่นจะทำให้ทั้งรัสเซียและประเทศยุโรปเกิดความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเป็นระยะเวลาหลายปีด้วย และยังส่งผลกระทบไปทั่วโลก

ขณะนี้รัสเซียลดพื้นที่ยึดครองลง และอ้างประชามติท้องถิ่นเพื่อยึดครอง ซึ่งทั้งยูเครนและนานาชาติไม่ยอมรับ ปูตินและยูเครนจึงยังหาทางลงไม่เจอ ถ้าปูตินแพ้จะหมดทั้งอำนาจและชีวิต ถ้ายูเครนยอมทำสัญญายกพื้นที่ให้จะเสียส่วนนั้นไปตลอด

สงครามและการเจรจาจึงจะยืดเยื้อไปทั้งสองเวที อีกหลายปี

 

สงครามในยูเครน
จะทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์
ขึ้นได้หรือไม่

คนที่มีอำนาจจะสั่งใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็คือ ปูติน สิ่งที่น่ากลัวคือ นิวเคลียร์ยุทธวิธีขนาดเล็ก (tactical nuclear weapon) ที่จะใช้ทำลายเป้าหมายทางทหารขนาดใหญ่ ถ้าเริ่มจากตรงนี้สงครามอาจจะขยายตัวได้

สหรัฐ และสหพันธรัฐรัสเซีย มีสนธิสัญญาในการลดอาวุธนิวเคลียร์มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 ที่เรียกว่า START I (Strategic Arms Reduction Treaty) และสัญญาใหม่จะหมดอายุ 5 กุมภาพันธ์ 2026 ที่วิตกกังวลว่าเกิดขึ้นเพราะรัสเซียชอบประกาศเสมอว่าถ้าจำเป็นและใช้อาวุธทุกชนิดแม้แต่อาวุธนิวเคลียร์

ส่วนอเมริกานั้นไม่เคยพูดเลยว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่มีผู้วิเคราะห์ว่าถ้าอเมริการู้สึกว่า จะมีประเทศใดก็ตามที่มุ่งร้ายต่ออเมริกาด้วยอาวุธนิวเคลียร์หรือมีการยิงขีปนาวุธยุทธวิธีออกมาใส่ประเทศในยุโรป นิวเคลียร์ยุทธวิธีของอเมริกาจะถูกยิงเข้าใส่ประเทศนั้นทันที

เชื่อว่าขณะนี้ฐานยิงขีปนาวุธเคลื่อนที่ทั้งใต้น้ำและบนดินได้ถูกเคลื่อนที่เข้าสู่ที่ลับและพร้อมยิงได้

(ปัจจุบันมี 9 ประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ คือ สหรัฐ รัสเซีย จีน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อินเดีย ปากีสถาน อิสราเอล และเกาหลีเหนือ)

อเมริกาจะไม่เป็นประเทศที่บอกก่อนว่าจะยิง หรือข่มขู่ก่อน แต่ถ้ารู้สึกอันตราย ก็จะถล่มใส่ก่อน ดังนั้น เกมนี้ถ้าเกาหลีเหนือลองของรับรองว่าโดนแน่ ในขณะเดียวกันอเมริกาก็จะส่งสัญญาณเตือนจีนว่าให้วางตัวเป็นกลางในสงครามนิวเคลียร์แล้วจะปลอดภัย

จีนเองไม่มีอะไรที่เสียเปรียบถ้าจีนวางตัวเป็นกลาง ในขณะที่ประเทศอื่นถล่มนิวเคลียร์ใส่กันซึ่งบางทีอาจจะไม่มากมายแบบที่ทุกคนกังวล แต่จะไม่มีความเสียหายที่เกิดขึ้นในจีน ดังนั้น ถ้าอ่านเกมนี้รัสเซียกับอเมริกาจะต้องเสียหายทั้งคู่แม้จะยิงใส่กันไม่กี่ลูกแล้วหยุดก็ตาม

อเมริกาเองอยู่ไกลจากสมรภูมิและเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก สงครามนิวเคลียร์ขนาดเล็กไม่สามารถทำลายประเทศอเมริกาได้ และความมั่นคงทางการเมืองของอเมริกาขึ้นอยู่กับระบบไม่ได้ขึ้นกับตัวบุคคล

ในขณะที่ถ้ามีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น รัสเซียมีโอกาสจะเปลี่ยนผู้นำ การโค่นล้มกันจะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า

 

สรุปโอกาสเกิดสงครามนิวเคลียร์
มีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

ด้วยเหตุผลทางจิตวิทยาที่ว่าผู้นำ และชนชั้นนำที่อยู่ในอำนาจทั้งหลายล้วนกลัวตายทั้งสิ้น แต่วันนี้ทุกคนจ้องมองไปที่ปูตินเพราะมีความรู้สึกว่าผู้นำคนนี้ไม่ปกติ

สงครามในยูเครนคงไม่จบด้วยนิวเคลียร์แต่น่าจะลากยาวไปจนหมดแรงหรือมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำของรัสเซีย ถ้ารัสเซียไม่ยอมถอย อเมริกาไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบยุติสงคราม

จีนเองก็เช่นกัน เพราะยังสามารถหาประโยชน์จากความขัดแย้งครั้งนี้ได้

มียูเครน รัสเซียและประเทศในยุโรปเท่านั้นแหละที่มีผลเสียมากระทบหนัก

ส่วนปัญหาเศรษฐกิจนั้นต่างก็ได้รับกันทั่วโลก ประวัติศาสตร์จะจารึกชื่อปูตินไว้ว่าได้สร้างความเสียหายแก่โลกนี้พอๆ กับโรคระบาดโควิดนั่นแหละ

คนไทยไม่ตายเพราะนิวเคลียร์แน่ แต่ชีวิตจะแย่เพราะลำบากยากจน ผู้นำเผด็จการไม่ว่าอยู่ที่ใดสามารถทำให้คนยากลำบากได้ทั้งสิ้น