วันฮัลโลวีน-วันผีประชาธิปไตย | วงค์ ตาวัน

วงค์ ตาวัน

ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวถึงเหตุการณ์สะเทือนขวัญไปทั้งโลก การเสียชีวิตหมู่เกือบ 160 ราย ที่ย่านอิแทวอน ใจกลางกรุงโซล เกาหลีใต้ โดยระบุว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิตของผู้คนในเหตุการณ์นี้คือ เกิดจากภาวะขาดอากาศหายใจ

เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากที่มาร่วมงานฉลองฮัลโลวีน แล้วเกิดเบียดเสียดกันจนบริเวณหน้าอกของคนในพื้นที่นั้นไม่สามารถขยายได้ เป็นการกดทับจนทำให้หมดสตินานเกิน 3-5 นาที จนหัวใจหยุดเต้น จากนั้นก็ล้มทับกันเหมือนโดมิโน ทำให้ฝูงชนแตกตื่นแล้ววิ่งหนีเหยียบกันซ้ำอีก

เป็นบทเรียนที่คนทั้งโลกคงจดจำ งานเฉลิมฉลองที่มีคนเข้าร่วมอย่างหนาแน่นจนล้นพื้นที่ และหากเป็นพื้นที่แคบ ไม่มีทางออก ต่อไปนี้ต้องหลีกเลี่ยง

จึงเป็นโศกนาฏกรรมส่งท้ายปี ที่น่าจะมีผลเตือนสติผู้คนได้ดี ในช่วงที่เทศกาลเฉลิมฉลองกำลังมาถึง

เฉพาะในบ้านเรา จากเหตุฮัลโลวีนสยองที่เกาหลีใต้ไม่กี่วัน ก็มาสู่เทศกาลลอยกระทง

จากนั้นก็จะเข้าสู่การเฉลิมฉลองปีใหม่ในช่วงปลายเดือนธันวาคม โดยเฉพาะคืนเคาต์ดาวน์ คืนวันที่ 31 ธันวาคม เข้าสู่ปีใหม่วันที่ 1 มกราคม

จะมีผู้คนจำนวนมหาศาล มาร่วมเฉลิมฉลองในพื้นที่จัดงานต่างๆ

ดังนั้น หน่วยงานรัฐและผู้จัดงานจะต้องเน้นการควบคุมคนมาร่วมงานอย่าให้มากเกินไป เทียบจำนวนคนกับสภาพพื้นที่จัดงานให้สัมพันธ์กัน

นอกจากนั้น โศกนาฏกรรมที่เกิดในบ้านเราบ่อยๆ ก็คือ การเข้าไปเฉลิมฉลองในผับ แล้วเล่นพลุทำให้ไฟไหม้ เพราะเต็มไปด้วยวัสดุเชื้อเพลิง จากนั้นก็วิ่งหนีกันเบียดเสียดแออัด เพราะประตูหนีไฟไม่เพียงพอ กระทั่งเกิดเหตุปิดล็อกประตูก็มี

นำมาสู่การตายหมู่อย่างน่าเศร้าสลด หลายต่อหลายครั้ง

หน่วยงานรัฐ เจ้าของสถานที่จัดงาน ผู้จัดงาน ควรตรวจสอบความปลอดภัยของประชาชนผู้มาร่วมงานอย่างดีที่สุด อย่ามักง่าย หรือไม่มีสำนึกรับผิดชอบ

เช่นเดียวกัน ผู้คนที่ไปท่องเที่ยวร่วมงานเฉลิมฉลองต่างๆ ควรใช้วิจารณญาณว่า อย่าเอาตัวเองเข้าไปในบริเวณที่ผู้คนรวมตัวกันมากเกินไป

จนอาจเกิดสภาพเบียดเสียดแออัดจนกลายเป็นเหตุสยดสยองได้!!

Photo by Jung Yeon-je / AFP

เหตุสลดอิแทวอนนั้น เป็นงานเฉลิมฉลองฮัลโลวีน ซึ่งเป็นเทศกาลที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการรื่นเริงสนุกสนานไปทั่วโลก ทั้งที่จุดเริ่มต้นเป็นเทศกาลของชาวคริสต์ เชื่อมโยงกับนักบุญนักบวช และภูตผีปีศาจต่างๆ

แต่กลายเป็นเหมือนงานแฟนซี แต่งผีกันสนุกสนาน เฉลิมฉลองเฮฮา ตามสถานบันเทิงแทบทุกประเทศ ในไทยเราเอง ก็จัดงานวันฮัลโลวีนกันไปทั่วตามที่เที่ยวต่างๆ เรียกแขกฝรั่งต่างชาติเป็นสำคัญ

ฮัลโลวีน ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม

วันเดียวกันนี้ ในแง่ของประชาชนคนไทยที่รักประชาธิปไตย เป็นวันที่มีการจัดงานรำลึกถึงลุงนวมทอง ไพรวัลย์ ที่เสียชีวิตในวันที่ 31 ตุลาคม 2549

31 ตุลาคม เป็นวันที่ลุงนวมทองแขวนคอตายกับราวสะพานลอย บนถนนวิภาวดีรังสิต พร้อมจดหมายลาตาย ต่อต้านการรัฐประหาร ต้านเผด็จการทหาร และต้องการพลีชีพให้ทหารที่กล่าวคำสบประมาทได้รู้ว่า การยอมพลีชีพเพื่ออุดมการณ์นั้นมีอยู่จริง

ทั้งนี้ ไม่กี่วันหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เพื่อล้มรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

ในวันที่ 30 กันยายน ได้เกิดเหตุที่ทำให้สังคมตกตะลึง เมื่อลุงนวมทองขับรถแท็กซี่คู่ใจซึ่งใช้สีสเปรย์พ่นข้อความต่อต้านการรัฐประหาร ขับพุ่งชนรถถังที่จอดอยู่บริเวณลานพระบรมรูป จนรถแท็กซี่พังยับ ลุงนวมทองได้รับบาดเจ็บสาหัส

ระหว่างที่รักษาตัวในโรงพยาบาล มีนายทหารระดับรองโฆษกของคณะรัฐประหาร ได้กล่าวถึงเหตุการณ์รถแท็กซี่ชนรถถังว่า คงทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้

นั่นจึงนำมาสู่เหตุการณ์ที่ต้องบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ประชาชน ในคืนวันที่ 31 ตุลาคม

ร่างของลุงนวมทอง แขวนห้อยกับราวสะพานบนถนนวิภาวดีรังสิต สวมเสื้อที่สกรีนข้อความบทกวีของกุหลาบ สายประดิษฐ์ ที่ว่า อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล ไม่อาจต้านแรงมหาประชาชน

ขณะเดียวกัน มีจดหมายลาตาย เขียนด้วยลายมือตัวเอง ลงวันที่ 29 ตุลาคม

อธิบายเหตุผลของการต่อต้านรัฐประหาร และการตัดสินใจแขวนคอตายชัดเจน

ระบุว่า อ่านพบข้อความการให้สัมภาษณ์ของรองโฆษก คปค. ในเชิงปรามาสดังกล่าวก็เลยต้องสนองตอบกันหน่อย เพราะนิสัยคนไทยฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ และเหตุผลที่ผมเลือกวันสุดท้ายของเดือนตุลาคมเป็นวันพลีชีพ เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่วิญญาณของวีรชนที่สถิตอยู่ที่อนุสรณ์สถานฯ ที่ผมทำการพลีชีพนี้ได้เรียกร้องกระทั่งได้มาซึ่งประชาธิปไตย และวิญญาณของผมก็จะสถิตอยู่กับเหล่าวีรชนแห่งนี้ตลอดไป

รวมทั้งข้อความสำคัญในจดหมายที่ว่า สุดท้ายขอให้ลูกๆ และภรรยาจงภูมิใจในตัวพ่อ ไม่ต้องเสียใจ ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก!

ในงานรำลึกวีรชนประชาธิปไตย ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ มีการพูดถึงบรรยากาศวันฮัลโลวีน ทำนองว่า ลุงนวมทองก็คือผีแห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย ที่เราควรจัดงานกล่าวถึง ยกย่องเชิดชูจิตใจในการต่อสู้ ต่อต้านการยึดอำนาจล้มประชาธิปไตยของทหาร

จะว่าไปแล้ว ลุงนวมทอง เป็นผีแห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย ที่คอยหลอกหลอนเหล่าเผด็จการ หลอกหลอนนักรัฐประหาร

เตือนให้รู้ว่า ถึงจุดหนึ่งก็มีคนที่พร้อมจะพลีชีพ เพื่อยืนยันในอุดมการณ์ความคิดเพื่อประชาธิปไตย

ลุงนวมทอง ทั้งขับรถแท็กซี่พุ่งชนรถถัง และทั้งพลีชีพ เพื่อยืนยันต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ในขณะนั้นประชาชนจำนวนไม่น้อย อาจจะยังไม่ซาบซึ้งถึงพิษภัยรัฐประหารได้ดีพอ

อีกทั้งคณะรัฐประหารที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็เข้ายึดอำนาจเพียงไม่นานนัก ก่อนรีบถอยกลับกรมกอง เปิดทางให้รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เข้ามาบริหารประเทศ แถมรัฐบาลสุรยุทธ์ก็ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลชั่วคราว เร่งร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกับจัดเลือกตั้งใหม่ในปลายปี 2550

ต่อจากนั้นก็มีรัฐประหาร ที่ถือว่าเป็นภาคต่อเนื่อง คือ การยึดอำนาจของคณะ คสช. นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ที่เปรียบกันว่าเป็นภาค 2 เพราะคณะรัฐประหารปี 2557 ได้กล่าวถึงการรัฐประหารหนก่อน ทำนองว่า เสียของ ไม่อาจจัดการฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ได้แบบถอนรากถอนโคน

ดังนั้น คณะประยุทธ์จึงยึดอำนาจเสร็จ เป็นรัฐบาลเอง เป็นนายกฯ เองอยู่ 5 ปี ก่อนจะเลือกตั้งด้วยรัฐธรรมนูญที่เขียนในยุครัฐบาลทหาร มีกติกาที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยมากมาย เอา 250 ส.ว. มาโหวตตั้งนายกฯ อยู่เหนือเสียง ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มาจน 8 ปีเข้าไปแล้ว

ฝีมือการบริหารประเทศโดยขุนทหาร เป็นที่ซาบซึ้งแก่ใจประชาชนไทยโดยถ้วนหน้า

ถ้าร่วมกันต่อต้านรัฐประหารแบบเด็ดเดี่ยวด้วยจิตวิญญาณของผีแห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย ประเทศชาติเราอาจจะก้าวหน้ากว่านี้มาก!