หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๔๙) | ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๔๙)

 

โลกเราทุกวันนี้มีปัญหามากมาย หากสรุปเอาปัญหาที่ใหญ่สุด ก็มีสองปัญหาคือ

สงครามโลกครั้งที่สาม

ปัญหาโลกร้อน

สองปัญหานี้คือสองอาชาผยอง ที่ควบกระหน่ำวิ่งมา ไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้ ไม่มีใครห้ามได้ มันเป็นอาชาผยองที่ล้างโลก น่ามหัศจรรย์เหลือเกิน

ปัญหาโลกร้อน ไม่มีใครห้ามได้อยู่แล้ว มีทางเดียวคือชาวโลกต้องร่วมมือร่วมใจกัน นั่นคือไม่มีตัวกู ของกู มีความเสียสละ ยังอาจพอมีทางรับมือได้ ไม่มากก็น้อย ทุกวันนี้ปัญหาเริ่มขึ้นแล้ว มันเป็นปัญหาที่ลงตรงไหนก็ได้ในโลกใบนี้ มันอาจลงที่ปากีสถาน ที่บราซิล ที่เอลซัลวาดอร์ ที่อังกฤษ ที่บังกลาเทศ ที่จีน ที่อินเดีย ที่ไหนก็ได้ มันมาได้ทุกที่ รับมือไม่ทัน รับมือไม่ไหว

แต่น่าประหลาด สงครามโลกครั้งที่สาม ซึ่งคล้ายจะป้องกันได้ รับมือได้ มันก็เหมือนสภาวะโลกร้อน ที่ห้ามไม่ได้เช่นกัน ด้วยเพราะเกิดมวลมหาศาล มันผลักดัน มันเหนี่ยวนำ เป็นมวลเหมือนแรงโน้มถ่วง ที่เราเห็นอย่าง

ปูติน

สี จิ้นผิง

คนเหล่านี้เป็นปลายพายุ เป็นปลายของมวลมหาศาลเหล่านั้น หากขาดไร้แรงมหาศาลเหล่านั้น พวกเขาไม่มีอะไรเลย ทำอะไรไม่ได้เลย แต่บัดนี้ มันตรงกันข้าม ไม่มีใครไปห้ามพวกเขาได้ ไม่มีสิ่งใดขวางกั้น

อาชาผยองสองตัวนี้ ทำลายโลก มันเอาแน่

สิ่งที่จะพลอยมาร่วมผสมโรง คือโรคระบาด และความอดอยาก

 

คุณจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม แต่วันนี้ 2022 โลกของเรารวมเป็นหนึ่ง เราเข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่า เรามีโลกเดียว และอยู่ร่วมกัน ดังนั้น สงครามโลกครั้งที่สาม จึงเป็น Civil War เรารบกันเอง เราที่จริงเป็นพี่น้องกัน ต่างมารบกันเอง

สมัยก่อน เรายังแบ่งแยกเป็นประเทศ เป็นชนชาติ ด้วยความรู้สึกว่าเราอยู่ห่างไกลกัน แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว เราสื่อสารกันได้ด้วยดาวเทียม เราแทบจะหายใจรดต้นคอกัน

สงครามกลางเมืองในอเมริกา (1861-1865) สร้างความเสียหายใหญ่หลวง มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นล้าน แต่มันไม่ได้อยู่ๆ ก็เกิดขึ้น มาเริ่มจากทางใต้ ค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พรรค The American Party ค่อยๆ ชนะ ทีละรัฐ ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงกฎหมาย จนในที่สุดความอยุติธรรมก็เพิ่มมากขึ้น เสรีภาพของมนุษย์ยิ่งถูกลิดรอน เหนือใต้แตกต่างกันมาก จนในที่สุดก็อยู่ร่วมกันไม่ได้

ฝ่ายเหนือสู้เพื่ออุดมการณ์ ในขณะที่ฝ่ายใต้สู้เพื่อตัวเอง

คนที่สู้เพื่อตัวเอง จะรู้สึกมั่นใจ ทระนง

ร่างของเขาย้อนยุค กลับสู่ความดึกดำบรรพ์ ไปสู่ความเป็นชีวิต ที่ต่อสู้เพื่อบ้าน เพื่อครอบครัว เพื่อวิถีชีวิตที่ตัวเองเลือก ฝ่ายใต้จึงกล้าหาญ รบเก่งกว่า ดิบกว่า

แต่ฝ่ายเหนือต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ บางสิ่งที่ฝ่ายใต้ไม่ยอมรับ ไม่รู้จัก ไม่คิดว่ามีอยู่ เป็นเพียงของโกหก พวกเขาอาจอาจหาญ ดุดันน้อยกว่า แต่ในระยะยาว พวกเขาก็เหนียวแน่น และพวกเขาเป็นอนาคต จึงมีกำลังผลิตมากกว่า

มันเป็นสงครามกลางเมืองจริงๆ ทุกคนรบในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ มีบางคนบ้านอยู่ฝ่ายเหนือ แต่เชื่อในหลักการของฝ่ายใต้ เขาหนีลงใต้ ไปสมัครเป็นทหารของฝ่ายใต้ ในทำนองเดียวกัน มีบางคนบ้านอยู่ทางใต้ แต่หนีไปสมัครเป็นทหารของฝ่ายเหนือ บางบ้าน พ่อแม่พี่น้องแยกข้าง

ฝ่ายใต้ก็มีอุดมการณ์เหมือนกัน แต่แปลก มันจับต้องไม่ได้ มันพูดไม่ได้ มันคล้ายจะมี แต่ก็ไม่มี เป็นเหมือนผี คล้ายเปรต มันเป็นเงาตะคุ่มๆ ของวันวาน

ฝ่ายที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ ต้องยอมเสียสละ แต่แปลก เมื่อถึงเวลา พวกเขาก็ยอม

ฝ่ายที่ต่อสู้เพื่อตัวเอง คล้ายจะสู้ตาย แต่ทว่า ถึงวันหนึ่ง พวกเขาก็ต้องหยุด เพราะรู้ตัวว่าสู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ใด จะไม่ได้อะไรเลย วันนั้นพวกเขาจึงยอมหยุด มันเป็นบทเรียนราคาแพง

กลุ่มเผด็จการต้องรอวันหนึ่ง พบว่าสู้ต่อไปไม่ได้อะไรเลย แย่กว่าการไม่สู้ เมื่อนั้นพวกเขาจึงยอมหยุด จึงมีคนบอกว่า พวกเผด็จการฟังรู้เรื่องเฉพาะภาษาของสงคราม หากเป็นภาษาอื่นจะฟังไม่รู้เรื่องเลย

แต่นั่นต่อเมื่อสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นแล้ว และใกล้จะจบ

 

สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ต้นตอเกิดจากมหาอำนาจเก่า ต่อสู้กับมหาอำนาจที่เกิดใหม่

แกนหลักคือ กลุ่มอังกฤษ ฝรั่งเศส ที่เป็นมหาอำนาจเก่า ต้องการสกัดดาวรุ่งที่เกิดใหม่อย่างเยอรมนี

สงครามโลกครั้งที่สอง คือกลุ่มเสรีประชาธิปไตย ที่ต้องการต่อต้านกลุ่มเผด็จการฟาสซิสต์

สงครามโลกครั้งที่สาม คือสงครามของกลุ่มเสรีประชาธิปไตย กับกลุ่มรากเหง้าเผด็จการคอมมิวนิสต์

มันเรียบง่ายแค่นี้เอง

แต่ภายในซ่อนความโหดเหี้ยมอย่างมหาศาล สุดจะพรรณนาได้

ที่จริงโลกของเสรีประชาธิปไตย ก็รบกับค่ายคอมมิวนิสต์มาช้านานแล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นที่มีระบอบการปกครองนี้ ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด แต่เมื่อโลกนี้แคบลง มันก็ยิ่งทนกันไม่ได้ เหมือนอเมริกาที่ต้องเกิดสงครามกลางเมือง เพราะชาวอเมริกันทนไม่ได้ ที่หนึ่งประเทศจะมีสองการปกครอง ทางเหนือเลิกทาส แต่ทางใต้ยังมีทาสอยู่ หนึ่งประเทศจะแบ่งออกเป็นสองระบอบการปกครองได้อย่างไร มันต้องจบลงที่ระบอบใดระบอบหนึ่ง

อย่าลืม โลกกำลังแคบลงไปเรื่อยๆ กำลังหดตัวลงทีละน้อย

โลกกำลังทนไม่ได้ ที่หนึ่งดาวเคราะห์โลกจะมีสองระบอบการปกครอง

แต่ทนไม่ได้ก็ต้องทน ด้วยเพราะสงครามราคาแพงเหลือจะประมาณ แต่แล้ว

รัสเซียบุกบูเครน

จีนอาจบุกไต้หวัน

ความยั้งคิดก็ขาดผึง มันทนกันไม่ได้อีกแล้ว จากสิ่งที่แต่เดิมก็ไม่อยากทน

ชาติที่ปกครองโดยระบอบเผด็จการทหารอย่างเมียนมา มันอยู่ได้จริง แต่ก็แค่รอเวลา วันหนึ่งชาวโลกเสรีก็ทนไม่ได้ เพียงเพราะสงครามราคาแพงเหลือเกิน มันจึงยังอยู่ แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้น

พริบตาเดียวมันจะถูกกวาดล้างออกไปด้วย

 

จะสกัดดาวรุ่งอย่างจีน ฝ่ายเสรีประชาธิปไตยภาวนา ขอให้จีนเหิมเกริม ยั่วยุ และเป็นฝ่ายเริ่มสงคราม น่าประหลาด จีนก็ทำตัวเช่นนั้นจริงๆ เข้าแผนของฝ่ายเสรีประชาธิปไตยทุกประการ ราวกับพล็อตนิยายคลาสสิค ทุกบททุกตอน เป็นไปตามท่วงทำนองที่แต่งไว้

จีนกำลังเดินหาที่ตายทีละก้าว เข้าไปในกับดักทีละนิด ท่ามกลางเสียงเชียร์ของพวกที่อวยจีน พร้อมกับลากพันธมิตร เช่น รัสเซีย อิหร่าน ซีเรีย ซาอุดีอาระเบีย เกาหลีเหนือ หรือใครก็ตามที่อยากเดินตาม ไปสู่จุดจบของนิยายเรื่องนี้

แม้แต่พล็อตอย่างชาวจีนกำลังส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ กำลังปลูกต้นไม้บนดวงอังคาร กำลังสร้างสะพานข้ามมหาสมุทร

หรืออื่นใด มันล้วนเป็นเสียงเรียกร้องความตาย เพราะมันผิดโดยสิ้นเชิง

ผิดที่ผิดทาง

เก่งในสิ่งไม่ควรเก่ง แต่ดันไม่เก่งในสิ่งที่ควรเก่ง

นี้คือการเร่งความตายให้เร็วขึ้น

 

แปลกที่ว่า

ฉันกลับมานอนพื้นไม้แข็งๆ ซึ่งไม่ได้นอนมานานมากแล้ว

ฉันกลับมาร้องเพลงได้อีก หลังจากที่เสียงเพลงนี้ได้หายจากใจของฉันนานนับสิบปี

เท่ากับว่า สภาวะกวีของฉันกลับคืนมา

ฉันรู้ตัวว่าเป็นผู้แพ้

เป็นผู้ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มอง

แต่ในการมองของฉัน มีรายละเอียดมากมาย มีแสง สี เสียง มีกลิ่น

ฉันได้กลิ่นเล็กๆ ลอยมาในอากาศ