หอการค้า หนุนรัฐออกมาตรการเยียวยาท่วม กระตุ้นศก. เชื่อจีดีพีไทยปี 65 โตเกิน 3%

หอการค้า หนุนรัฐออกมาตรการเยียวยาท่วม กระตุ้นศก. แนะควรให้งบเพิ่มเพราะไม่เพียงพอต่อความเสียหายจริง เชื่อจีดีพีไทยปี 65 โตเกิน 3%

 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกแพคเกจมาตรการเศรษฐกิจปลายปี 2565 ว่า ขณะนี้บรรยากาศเศรษฐกิจดีมาก โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ที่กลับมาแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องยนตาที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และด้านส่งออก ก็ดีอยู่แล้ว ปี 2565 นี้ก็คาดว่าโตได้ 7-8% ต่อปี และภาคการเกษตร ก็ดี พี่น้องเกษตรเก็บเกี่ยวได้ดี และรายได้ก็ดีขึ้นมาก สะท้อนจากการซื้อรถยนต์ รถปิ๊กอัพ รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ยังมีอุปสรรคเรื่อง อุทกภัย ที่สร้างความเสียหายแล้ว กว่า 53 จังหวัด โดยทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และหอการค้าไทย ประเมินว่า ผลเสียหายที่เกิดจากอุทกภัย น้ำท่วมในรอบปี 2565 นี้อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 1 หมื่นล้านเสียในส่วนภาคการเกษตร และอีก 1.2 หมื่นล้านบาทก็เป็นส่วนอื่นๆ เช่น บ้านเรื่อนประชาชน การขนส่ง เป็นต้น ซึ่งภาครัฐ ก็ได้ประกาศจะนำเงินออกมาเยียวยา ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท

นายสนั่น กล่าวว่า หากดูในรายละเอียดนั่น รัฐบาลได้แบ่งงบมา 6 พันล้านบาทจาก 2.3 หมื่นล้านบาท มาใช้เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งหอการค้า คิดว่าไม่เพียงพอ เพราะประเมินความเสียหายก็กว่า 1 หมื่นล่านบาทแล้ว ดังนั้น หอการค้า ในฐานะภาคเอกชน จึงจะขอเข้าไปหารือ กับภาครัฐ เรื่องขอให้จัดสรร งบประมาณ เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

“ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลมาตรการเยียวยาน้ำท่วม โดยเฉพาะภาคการเกษตรเพิ่มอีก ทั้ง มาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม มาตรการสินเชื่อซ่อมแซมบ้านและที่อยู่อาศัย ด้วย ส่วนมาตรการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และช้อปดีมีคืนนั้น เป็นมาตรการที่ภาครัฐเคยใช้ และเห็นผลดี ก็สนับสนุนให้ใช้ต่อไป เพียงแต่อยากให้มีการเพิ่มวงเงิน ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้เห็นผลการกระตุ้นมากขึ้น” นายสนั่น กล่าว

นายสนั่น กล่าวว่า ในภาพรวมเศรษฐกิจนั่น หอการค้ายังเชื่อมั่นว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในไตรมาสสุดท้ายของ ปี 2565 ยังดีอยู่และ คาดว่าทั้งปี 2565 ยังจีดีพี ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี ส่วนปี 2566 นั่น หากปัญหาน้ำท่วมลดลง การจับจ่ายในภาคส่วนเกินขึ้นแน่นอน เช่น การซ่อมแซมบ้าน การซ่อมแซมถนน ทำให้มีเม็ดเงินลงไปสู่ภูมิภาคเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน จากการที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค 2022 ก็จะทำให้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ มาได้มากขึ้น และถ้าผลักดันให้มาเร็ว เม็ดเงินก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเร็ว และถ้าปี 2566 ก็ยังเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสสำหรับประเทศไทย ดังนั้น คาดว่า จีดีพี ปี 2566 มีโอกาสโตได้ถึง 4% ต่อปี