‘เท่าพิภพ’ จี้ยุบ กอ.รมน. ฉะใช้งบ 20 ล้าน จัดงานแสดงเพลง อ้างความมั่นคง

‘เท่าพิภพ’ จี้ยุบ กอ.รมน. ฉะใช้งบ 20 ล้าน จัดงานแสดงเพลง ในห้างใหญ่ใจกลางกรุง อ้างความมั่นคง คนที่สะอื้นคือประชาชน

 

วันที่ 17 ส.ค. 2565 เมื่อเวลา 18.30 น.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 เข้าสู่มาตรา 7 งบประมาณสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานในกำกับ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ขอตัดงบสำนักนายกรัฐมนตรี 40% หรือ 13,500 ล้านบาท เพราะเป็นงบที่มีความซ้ำซ้อนในเรื่องความมั่นคง เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)กับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของทางชาติทางทะเล(ศร.ชล.) และยังมีงบที่ไม่ควรอยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรี อาทิ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ที่ควรไปอยู่ที่กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เพราะเป็นหน่วยงานที่มีงานวิจัย และผลงานวิชาการ

นายพิธา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังใช้งบไม่มีประสิทธิภาพ เช่น กรมประชาสัมพันธ์ ได้งบประมาณไป 1,454 ล้านบาท แต่การเข้าถึงเพจมีความใกล้เคียงกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ได้งบประมาณ 14.7 ล้านบาท หรือกอ.รมน.ได้งบไป 5,435 บาท แต่ส่วนใหญ่เป็นงบค่าตอบแทนกำลังคนถึง 3,713 ล้านบาท ขณะที่ศร.ชล.ก็มีแต่งบประมาณทำออฟฟิศ บ้านพักที่เพิ่มขึ้น แต่กำลังพลไม่เพิ่มขึ้น

ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ขอตัดลดงบประมาณในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรี ลง 5% หรือประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท โดยเฉพาะ กอ.รมน. ที่วันนี้มีการจัดงานแสดงดนตรี “บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์” ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยนายกฯ บอกว่าซาบซึ้งสะอื้นมาก ตนก็ไม่แน่ใจว่าสะอื้นอะไร หรือเป็นเพราะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีลาออกจะมาเป็นส.ส. และในงานตำรวจเยอะมาก หรือว่าโดนแก๊สน้ำตาหรือเปล่า

นายเท่าพิภพ กล่าวต่อว่า คนที่สะอื้นและควรน้ำตาตกคือประชาชนชาวไทย เพราะกอ.รมน.ได้งบประมาณไปเยอะมาก ประมาณ 5,400 กว่าล้านบาท และใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาทในการจัดงานวันนี้ แล้วเรายังจะให้เงินเขาเยอะขนาดนี้โดยอ้างงานด้านความมั่นคงอีกหรือ เอาไปจัดงานที่ห้างใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ และจัดแสดงเพลงแบบนี้หรือ

“ผมถามว่านี่คือความมั่นคงของใครกันแน่ มันคือการตั้งหน่วยงานมาในสำนักนายกฯ เพื่อเป็นโบนัสให้ข้าราชการทหารบางกลุ่มหรือไม่ โดยอ้างความมั่นคง ซึ่งงบประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท ผมคิดว่าควรยุบ กอ.รมน.ได้แล้ว และควรโอนงบนี้ให้กับทหารและตำรวจปกติที่เขาไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงอันตรายได้สวัสดิการที่ดี และอุปกรณ์ป้องกันที่ดี มีสวัสดิภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่”

นายเท่าพิภพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อาจนำเงินไปพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โลกใบนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยการใช้ปืน และความรุนแรง และหลายอย่างในกอ.รมน.บังคับให้คนในภาคใต้เป็นคนไทยแบบภาคกลาง ตนไม่เข้าใจว่าทำไมจะเป็นตัวของตัวเองไม่ได้

นายเท่าพิภพ กล่าวอีกว่า หน่วยงานหลายหน่วยงานในสำนักนายกฯ เช่น สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ควรได้รับงบเพิ่ม แต่กลับถูกตัดงบไป1.5 ล้านบาท ทั้งที่ได้งบมาน้อย เพราะเป็นการเริ่มต้นสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือซอฟพาวเวอร์ ตนจึงไม่เห็นด้วยกับกมธ.ฯ ที่ตัดงบส่วนนี้

สำหรับวันนี้ (18 ส.ค.65) จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้วต่อเนื่อง ในวาระ 2 และวาระ 3 เป็นวันที่สองในเวลา 09.30 น.

โดยเมื่อวานนี้ วันที่ 17 สิงหาคม ที่ประชุมสภาฯ พิจารณาเสร็จแล้ว 7 มาตรา อาทิ มาตราว่าด้วยงบกลาง, งบสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานในกำกับ จนถึงมาตรา 8 ซึ่งเป็นงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่มีการแก้ไขและมีกรรมาธิการขอสงวนความเห็น และมีผู้แปรญัตติขอสงวนคำแปรญัตติหลายคน โดยในมาตรานี้มาตราเดียวมีผู้อภิปรายทั้งหมด 22 คน โดยกมธ.ส่วนใหญ่อภิปรายขอให้ปรับลดงบประมาณในโครงการการจัดหารถประจำตำแหน่ง รวมวงเงิน 554.3 ล้านบาท และการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 A ที่พบว่ายังไม่มีความจำเป็น

อย่างไรก็ตามการอภิปรายในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหมนั้น ยังไม่แล้วเสร็จ โดยนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 00.28 น. และนัดประชุมต่อวันนี้เวลา 09.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในภาพรวมของการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวาระ 2 และวาระ 3 ในวันแรกนั้น ได้ใช้เวลาพิจารณารวม กว่า 14 ชั่วโมง ทั้งนี้ ยังเหลือมาตราที่ต้องพิจารณาอีก 33 มาตรา