อนุทิน แย้มอาจไม่จำเป็นต้องออกประกาศคุมช่อดอกกัญชา เหตุ กม.หลักใกล้คลอดแล้ว!!

อนุทิน แย้มอาจไม่จำเป็นต้องออกประกาศคุมช่อดอกกัญชา เหตุ กม.หลักใกล้คลอดแล้ว!!

 

จากกรณีที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 โดยเป็นการควบคุมป้องกันการเข้าถึงพืชกัญชา 3 กรณี คือ 1.ผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี 2.หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร และ 3.การใช้ในพื้นที่สาธารณะโดยการสูบ แต่ต่อมาประกาศดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงประโยชน์ส่วนอื่นๆ ของกัญชา ที่ไม่ใช่ช่อดอก จึงมีการประกาศแก้ไขปรับปรุงเฉพาะช่อดอก ซึ่งมีการนำเสนอเข้าคณะกรรมการคุ้มครองส่งเสริมภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา นั้น

วันนี้ (17 สิงหาคม 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ถึงความคืบหน้าการออกประกาศสมุนไพรควบคุมเฉพาะช่อดอกกัญชา ว่า เรื่องช่อดอกต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ถึงเอาไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้ การใช้ช่อดอกปรุงอาหาร ขายอาหาร ใช้ในพื้นที่สาธารณะ ทำไม่ได้ และทำไม่ได้แต่ไหนแต่ไร ส่วนใช้ใบ ราก ลำต้น ได้ ทางกรมอนามัยได้ออกประกาศเป็นแนวทางให้ประชาชนผู้ประกอบการรับทราบว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องออกประกาศให้ช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุมเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ต้องออกประกาศเพิ่มเติม เพราะร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … วันศุกร์นี้ (19 สิงหาคม 2565) ก็เสร็จแล้ว เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา สิ่งที่ประกาศถึงทุกวันนี้ โดย 2 กรม มีความสอดคล้องกับสารัตถะต่างๆ ในกฎหมาย ไม่มีอะไรที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ บังคับใช้ได้ แต่ไม่มีอะไรดีกว่าถ้าได้รับความร่วมมือจากประชาชน

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่จำเป็นต้องออกประกาศแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่บอกว่าไม่จำเป็น ตรงนี้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการ สธ. ซึ่งตนต้องประเมินว่า ถ้าประกาศออกมาแล้ว เกิดการตีความให้วุ่นวาย

“ตอนไม่มี บอกทำไม่มี พอออกมาแล้ว บอกทำไมเพิ่งออก พอออกมาแล้ว ออกเพิ่มอีก ก็บอกทำไมไม่รอบคอบ เราก็ต้องดูว่า เอาที่ใช้ได้ ควบคุมได้ ก็บอกแล้วว่า ตั้งแต่ปลดล็อก 2 เดือนกว่า ไม่มีเหตุบ่งชี้ว่าใช้ในทางที่ผิดมากขึ้น แต่แนวโน้มลดลงด้วย เพราะประชาชนเข้าใจ เข้าถึงข่าวมากขึ้น แต่ตรงนี้เราต้องดูภาพรวมระยะเวลาในการติดตามข้อมูลด้วย” นายอนุทิน กล่าว