สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร0
———————————-
ประสบการณ์ไม่รู้ลืม
———————————–
มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 13 ตุลาคม 2560
มีรายงานพิเศษ “การเสด็จเยือนโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ รพช.อำเภอสันกำแพง ตามพระราชดำริ ปี 2522″
ของ”ไพโรจน์ สังขพิชัย”
ซึ่งเมื่อปี 2522 ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โครงการดังกล่าว
และได้รับเสด็จ ในหลวง รัชกาลที่ 9
นำมาสู่ประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม
…ในช่วงเวลาหนึ่ง พระองค์เสด็จพระราชดำเนิน ไปกลางแปลงถั่วลิสง
พระองค์ท่านทรงชี้ไปที่แนวต้นถั่วลิสง และทรงมีรับสั่งด้วยพระสุรเสียงค่อนข้างดังว่า
“นี่…ผักชี…ผักชีอีกแล้ว…”
ผมที่ตามเสด็จอยู่อย่างใกล้ชิดใจหายวูบ
รู้สึกตัวเหมือนตกลงไปในความมืดมิดของหุบเหว
..ทุกคนนิ่งเงียบงันกันหมด!
อีกอึดใจหนึ่งต่อมา ก็ได้ยินพระองค์ท่านทรงมีรับสั่งต่อไปอีกว่า
“แต่ผักชีนี้ใช้ได้… เป็นผักชีที่ดี ขายได้ ที่ว่าดี ขายได้ เพราะสังเกตเห็นตลอดแปลงมานี่…ต้นถั่วเขียวอุดมสมบูรณ์สวยงาม ไม่มีวัชพืช บำรุงดินดีแสดงว่าเอาใจใส่ดูแลบำรุงสม่ำเสมอคงจะได้ผลผลิตดี”
ผมรู้สึกหายใจโล่ง ปลอดโปร่ง เหมือนพระองค์ท่านฉุดดึงจากหุบเหว
…ในโรงผสมอาหารสัตว์
พระองค์ท่านทรงตรัสซักถามอยู่เป็นเวลานาน
ช่วงหนึ่งท่านตรัสถามว่า…
“ทำโรงผสมอาหารสัตว์ที่ว่าเอาไปเลี้ยงไก่ไข่หมู่บ้านหนึ่งนั้น รู้ไหมว่า…ไก่ตัวหนึ่งกินอาหารวันละกี่กรัม”
นี่เป็นอีกอึดใจหนึ่งที่ผมใจหายวูบ ใจสั่น ปากสั่น สมองมึนๆ ได้แต่ก้มหน้าสารภาพ
“ขอพระราชทานอภัย… ไม่ทราบพระพุทธเจ้าค่ะ”
พระองค์ท่านแย้มพระสรวลหันไปทางท่านผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกรมปศุสัตว์ก็ได้รับคำตอบที่พอพระทัย
แต่พระองค์ท่านยังทรงพระเมตตาไต่ถามผมอีกต่อไป(หลายเรื่อง)
…ผมต้องสารภาพ และขอพระราชทานอภัยอยู่หลายครั้งที่ไม่สามารถตอบได้
พระองค์ท่านก็จะทรงพระเมตตาสอนให้ตั้งใจ ต้องหาความรู้ต่อจากผู้ปฏิบัติงานในแต่ละเรื่องนั้นอย่างจริงจังให้ได้
เพราะเป็นคนที่ต้องประสานทุกอย่าง ต้องคอยแก้ปัญหา
ถ้าไม่รู้ ไม่ขวนขวายก็จะแก้ปัญหาอุปสรรคให้ราษฎรได้ไม่ถูกจุด เสียเวลา และเสียงานต่อไป
ซึ่ง “ไพโรจน์ สังขพิชัย” บอกว่า ผมน้อมรับใส่เกล้าฯ และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เต็มสติกำลังความสามารถในขณะนั้นตลอดมา
เพราะพระองค์ท่าน เอาใจใส่จริงๆกับเรื่องเกษตรกร รู้ก็ต้องรู้จริง
จบ จาก เรื่องนี้ ขอไปอีกเรื่องหนึ่ง
เรื่องเกษตกรผู้เลี้ยงหมู
ผู้เลี้ยงหมูที่ ตามตื้อ ตามไถ่ถามอย่างกัดไม่ปล่อย ว่ารัฐบาลไปตกลงอะไรกับสหรัฐหรือเปล่า เรื่องการนำเข้าเนื้อหมูเข้าประเทศ
ตอนแรกไม่มีคำตอบ
ต่อมา มีคำปฏิเสธว่า ในวงหารือระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายโดนัล ทรัมป์ ไม่มีการหารือเรื่องนี้
ผู้เลี้ยงหมูเกาะติดไม่เลิกพร้อมขู่จะฟ้องศาลปกครอง และจะขอใช้สิทธิตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไร
และที่สุด เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า คณะที่เดินทางไปสหรัฐ”ล่วงหน้า”ก่อนที่นายกฯจะไป ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ
สหรัฐได้หยิบเรื่องการนำเข้าเนื้อหมู ไก่งวงและเครื่องในวัว มาเจรจาจริง
และ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลโดยมีกระทรวงเกษตรฯเป็นเจ้าภาพ
จบ อย่างไม่อย่างจบ อีกเรื่อง
ไม่มีความเห็นอะไร
นอกจากรีบย้อนกลับไปอ่านสิ่ง “ไพโรจน์ สังขพิชัย”เอามาเล่าสู่ข้างต้นอีกรอบถึงสิ่งที่ควรทำ อย่างไรจึงจะแก้ปัญหาให้ราษฎรได้ถูกจุด
รู้จริง และ ไม่ปกปิด เป็นผักชีโรยหน้า–นั่นไง
—————