ภูมิใจไทย แนะ’ชัชชาติ’ วิ่งไปได้กลิ่นกัญชา ควรแจ้งเอาผิดตาม กม. ไม่ใช่ฟ้องคนดูในไลฟ์

ศุภชัยแนะ ผู้ว่าฯ ชัชชาติวิ่งไปเจอกลิ่นกัญชาถนนข้าวสาร ขอให้ดำเนินการเอาผิดจตามกฎหมาย ไม่ใช่ฟ้องคนดูในไลฟ์สด

จากกรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยในระหว่างการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก หลังวิ่งออกกำลังกายมาจากเสาชิงช้า ผ่านช่วงถนนข้าวสารและมาถึงสะพานพระราม 8 โดยระบุว่า ระหว่างเดินผ่านถนนข้าวสาร เห็นคนที่ยังไม่กลับบ้าน เพราะอาจเพิ่งเที่ยวเสร็จ รวมถึงได้กลิ่นของการสูบกัญชา โดยได้แสดงความห่วงใยว่าอาจส่งผลกระทบระยะยาว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาดูแล (อ่านข่าว ชัชชาติ วิ่งผ่านถนนข้าวสาร)

ล่าสุด เวลา 16.30 น. วันที่ 12 สิงหาคม นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชากัญชง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงประเด็นดังกล่าว ว่า เรื่องของการปลดล็อกกัญชาทางการแพทย์ ที่เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ที่ตอบสนองต่อนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และต่อยอดนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มีมาตั้งแต่ 3 ปีก่อน ขณะนี้ ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. … ที่ออกตามอำนาจในประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 อยู่ระหว่างการขัดเกลาเนื้อหา เพื่อเสนอต่อสภาเห็นชอบออกเป็นกฎหมาย แต่ตอนนี้ทาง สธ.ก็ได้ออกประกาศกรมอนามัย เรื่อง “กลิ่น ควันกัญชา กัญชงหรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565” มีผลบังคับใช้เริ่ม 15 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา โดยให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าพนักงานท้องถิ่น สามารถกำกับด้วยโทษตามกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ประเด็นแรกของเรื่องนี้ ต้องย้ำว่าการสูบกัญชาในที่สาธารณะ เป็นความผิดแน่นอน ไม่ต้องไปตีความใดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดำเนินการได้ตามกฎหมาย กรณีนี้ที่ท่านผู้ว่าฯวิ่งไปดมเอากลิ่นเข้า ถือว่าได้รับความเดือดร้อน รำคาญแล้ว สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย และหากผู้รับแจ้ง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เข้าข่ายละเว้น ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเช่นกัน ประเด็นต่อมาคือ การดูแลสถานบันเทิงถนนข้าวสาร เป็นอำนาจตามชอบของผู้อำนวยการเขต ดังนั้น การที่มีคนสูบกัญชาในที่สาธารณะก็ต้องไปดูว่าเจ้าพนักงานของเขต ดูแลรับผิดชอบกำกับกฎหมายเต็มที่แล้วหรือไม่ ทำไมจึงปล่อยให้คนท้าทายกฎหมาย จนกระทั่งว่า ท่านผู้ว่าฯวิ่งผ่านไปเจอด้วยตัวเอง” นายศุภชัยกล่าว

นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ส่วนอีกประเด็นที่อยากให้ฝาก เป็นอีกข้อกังวลที่เราอาจจะรู้ๆ กันมานานแล้วว่า สถานบริการ สถานบันเทิงใน กทม.บางแห่งลักลอบเปิดยันเช้า เลยเวลาที่กฎหมายกำหนด ขนาดท่านผู้ว่าฯวิ่งตอนเช้า ท่านก็บอกเองว่าบางคนอาจจะเพิ่งเที่ยวเสร็จ ท่านผู้ว่าฯอาจจะนึกไม่ถึงว่า เวลาที่ท่านวิ่งนั้น ประชาชนควรจะกลับถึงบ้านนอนได้แล้ว เพราะสถานบันเทิงควรปิดตั้งแต่ช่วงกลางคืนแล้ว ไม่ใช่เวลาเกือบเช้าแต่ยังมีคนเพิ่งเที่ยวเสร็จ ตนจึงขอฝากความห่วงใยนี้ถึงเจ้าหน้าที่เขต ต้องดำเนินการกำกับดูแล

“ท่านผู้ว่าฯเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่น มีหน้าที่ดำเนินการ พบการกระทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่พูดแล้ว ไม่ทำอะไร เพราะท่านผู้ว่าฯมีอำนาจถึงผู้อำนวยการเขตโดยตรง อย่างน้อยวิ่งไปถึงจุดเกิดเหตุแล้วเห็นปัญหา ก็ควรให้เจ้าพนักงานตามอำนาจใช้กฎหมายมากำกับ ไม่ใช่ฟ้องคนดูในไลฟ์สด” นายศุภชัยกล่าว