จีนเร่งคุม “ธนาคารเงา” สกัดวิกฤตภาคธนาคาร

ความวุ่นวายในภาคการธนาคารของจีน ส่งสัญญาณวิกฤตมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งจากกรณีประชาชนพากันประท้วงธนาคารขนาดเล็กในมณฑลเหอหนานและอานฮุย รวมถึงกระแสที่ชาวจีนหยุดจ่ายเงินผ่อนบ้านที่ลุกลามไปทั่วประเทศ ทำให้ทางการจีนต้องเร่งจับตาทุกความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่วิกฤตในระบบการธนาคาร ซึ่งหนึ่งในนั้นคือปัญหา “ธนาคารเงา” (shadow banks)

 

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า “เหลียง เถา” รองประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและการประกันภัยของจีน (CBIRC) เปิดเผยเมื่อ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับปรุงกฎระเบียบและการตรวจสอบภาคการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากธุรกรรมธนาคารเงา ที่อาจกระทบต่อภาพรวมของระบบธนาคารจีน

ทั้งนี้ “ธนาคารเงา” คือผู้ให้บริการทางการเงินที่ทำหน้าที่คล้ายกับธนาคารพาณิชย์ ทั้งการระดมทุนและปล่อยสินเชื่อ แต่ไม่ได้มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม โดยที่ผ่านมาธนาคารเงาในจีนเป็นเสมือนทางเลือกในการจัดสรรทรัพยากรทางการเงิน เพื่อช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น

เครือข่ายธนาคารเงาจึงครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย อย่างกองทุนบริหารความมั่งคั่ง บริษัททรัสต์ สินเชื่อขนาดเล็ก และการกู้ยืมระหว่างบุคคลกับบุคคล (P2P)

การไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่รัดกุม ทำให้ธนาคารเงาเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายให้กับระบบธนาคาร ไปจนถึงเศรษฐกิจในภาพรวม สำหรับประเทศจีนเผชิญปัญหาธนาคารเงามาอย่างยาวนาน โดยมูลค่าธุรกรรมของธนาคารเงาจีนในปี 2019 สูงถึง 84.8 ล้านล้านหยวน คิดเป็น 29% ของสินทรัพย์ภาคการธนาคารทั้งหมดของจีน

เหลียง เถา ระบุว่าจากนโยบายกำกับดูแล “ธนาคารเงา” อย่างเข้มงวดของทางการ ทำให้มูลค่าธุรกรรมธนาคารเงาลดลงกว่า 29 ล้านล้านหยวน เมื่อสิ้นเดือนมิ.ย. 2022

ทั้งระบุถึงความเสี่ยงจากธนาคารเงาที่ยังคงซ่อนอยู่ เนื่องจากนวัตกรรมทางการเงินที่ได้รับการออกแบบมาอย่างซับซ้อน ทำให้เกิดธนาคารเงาในรูปแบบใหม่ ๆ ที่ต้องใช้การตรวจสอบและกฎระเบียบที่รัดกุมยิ่งขึ้นในการจัดการ

การออกมาระบุถึงการคุมเข้ม “ธนาคารเงา” ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากภาคธนาคารจีนส่งสัญญาณวิกฤตเป็นระยะ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดกับธนาคารขนาดเล็กในมณฑลเหอหนานและอานฮุย นำมาซึ่งการประท้วงครั้งใหญ่ของลูกค้าธนาคารที่ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีเงินฝากของตนเองได้ ซึ่งภายหลังพบว่าเกี่ยวพันกับการระดมทุนรับฝากเงินผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย ด้วยผลตอบแทนที่สูง ซึ่งเข้าข่ายลักษณะของธุรกรรมธนาคารเงาที่อยู่นอกกำกับดูแล

รวมถึงกระแสการหยุดจ่ายเงินผ่อนอสังหาริมทรัพย์ที่ลุกลามในหลายเมือง จากความไม่เชื่อมั่นในบริษัทอสังหาฯที่มีปัญหาการเงินจนไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ จนทางการจีนต้องให้ภาคธนาคารเข้ามา
ช่วยปล่อยสินเชื่อให้กับภาคอสังหาฯเพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งในทางกลับกันธนาคารก็ต้องเข้ามาแบกรับความเสี่ยงของภาคอสังหาฯ

ทางการจีนได้พยายามปราบปรามธนาคารเงาและควบคุมกิจกรรมทางการเงินมาอย่างต่อเนื่อง หลังพบว่าเงินจากการระดมทุนผ่านธนาคารเงาไหลเข้าสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงโครงการของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก จนก่อให้เกิดหนี้สินและความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น

แม้ว่าขณะนี้ปัญหาธนาคารในเหอหนานและอานฮุยจะคลี่คลายลง แต่ก็สั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารของจีนไม่น้อย และยังคงเป็นที่จับตาว่ายอดภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้จะลุกลามเป็นวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่หรือไม่ในอนาคต