หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๓๗)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๓๗)

 

มีนวนิยายขนาดสั้นสองเรื่อง ของนักเขียนดัง คือ

๑ House of Sleeping Beauties ของ Kawabata พิมพ์ในปี 1961

๒ Memories of My Melancholy Whores ของ Gabriel Garcia Marquez พิมพ์ในปี 2004

สองเล่มนี้มีอะไรบางอย่างน่าคิด เล่มสองได้อิทธิพลมาจากเล่มแรก แต่ก็แตกต่างกัน เพราะคนเขียน เป็นนักเขียนใหญ่ ย่อมไม่ถึงกับลอกเลียนแบบกัน

นี้เป็นงานที่เขียนในวัยชรา Kawabata เขียนหนังสือเล่มนี้ในวัย ๖๑ ปี

ส่วน Gabriel Garcia Marquez เขียนในวัย ๗๗ ปี

และนวนิยายขนาดสั้นเรื่องนี้คืองานเขียนชิ้นสุดท้ายของเขา

 

เรื่องแรก เป็นเรื่องของชายชราคนหนึ่ง ที่หมดสมรรถภาพทางเพศ ที่ไปเที่ยวผู้หญิงในซ่องแห่งหนึ่ง ที่เปิดบริการสำหรับคนชรา ให้นอนกับสาวบริสุทธิ์ทุกคืน ด้วยผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า โดยไม่มีอะไรกันเลย เพียงแค่นอนด้วยกัน อาจลูบๆ คลำๆ ในระหว่างนอนด้วยกัน

ชายชราคนนี้ก็รำลึกถึงความหลัง ฉันจำได้ว่าชายชราคนนี้อายุหกสิบกว่า ผู้หญิงเหล่านี้ ล้วนกินยานอนหลับ

เรื่องที่สอง เป็นเรื่องของชายชราอายุ ๙๐ ปีที่ไปเที่ยวผู้หญิง ด้วยการนอนกับเด็กสาวอายุ ๑๔ คนหนึ่ง โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ต่อกัน จนกลายเป็นความรัก เพราะชายคนนี้เที่ยวผู้หญิงมาทั้งชีวิต ด้วยไม่รู้ว่าความรักคืออะไร

ในความเห็นส่วนตัวของฉัน งานชิ้นนี้ของคนแรก ดีกว่าของคนที่สอง มันสดกว่า มีพลังกว่า หลอนกว่า แต่มีคนเอามาทำหนัง กลับทำได้แย่กว่า เหมือนกับว่ามันเป็นบทกวีที่ลึกเกิน แปลไม่ออก กลายเป็นหนังลามกไปเลย ทั้งที่ในทางวรรณกรรม มันลึกกว่านั้น

แต่ทว่า เวลานึกเป็นภาพ มันก็เฉียดใกล้ความลามกอยู่ดี นอกจากว่าคนทำจะมีเทคนิคที่ไม่ธรรมดา

เรื่องที่สอง เวลาทำเป็นหนังกลับดีกว่า เหมือนแปลเป็นภาพได้กว้างกว่า แต่ทว่า หากมาคิดถึงความเป็นจริง ชายชราอายุ ๙๐ นอนลูบๆ คลำๆ โสเภณีเด็กอายุ ๑๔ มันเป็นภาพลามกอยู่ดี มันน่าสะพรึงกลัว ในชีวิตจริง เขาน่าจะถูกจับเข้าคุก แต่เพราะนี่เป็นงานวรรณกรรม ไม่มีเจ้าทุกข์ เขาจึงรอด

แต่ก็สร้างความพิศวงแก่ฉัน

 

วรรณกรรมเป็นจินตนาการ ไม่ใช่เรื่องจริง นี้เป็นปริศนา ยอกย้อนในใจฉัน มันจึงคล้ายมีอิสระไม่สิ้นสุด แต่ก็คล้ายจะหนีไม่พ้นความรับผิดชอบอยู่ดี คล้ายใช่คล้ายไม่ใช่ คล้ายเป็นคล้ายไม่เป็น เหมือนนี่คือแก่นของชีวิต หรืออีกรูปหนึ่งของความเหลวไหล หรือพัฒนาการขึ้นสูงของความเหลวไหล

เรื่องแรก ความเป็นจริงที่เสียดแทงคือ การนอนกับคนหมดสติ มันรับไม่ได้เลย ไม่ผิดกับการนอนกับศพ นี้เฉียดใกล้กับการชำเราศพ

เรื่องที่สอง คนที่เที่ยวผู้หญิงมาทั้งชีวิตคนนี้ แม้จะกลบเกลื่อนด้วยความรู้สูงส่งเพียงไร ก็ปิดไม่มิดยังเห็นถึงความเห็นแก่ตัวระดับสูงสุด เขาไม่รู้จักความรัก เพราะเขารักตัวเอง และรักจนอายุเก้าสิบ พร้อมจะรักตัวเองต่อไป จนถึงร้อยปี คนสารเลวดั่งปีศาจ รักคนอื่นไม่ได้ยากเย็นขนาดนั้น

ความเหลวไหลแบ่งออกเป็นระดับต่ำกับระดับสูง

ระดับต่ำคือ

๑ ไม่เคยมีในโลกและไม่อาจมี

๒ ถึงมี ก็สุดจะเหลวไหล

ระดับสูงคือ

๑ มีได้ และอาจจะมี

๒ ถึงมี ก็หนีไม่พ้นความเหลวไหล

ระดับต่ำจึงเป็นนิยายอ่านเล่น หนังสือการ์ตูนสำหรับเด็ก แต่ระดับสูง สามารถกลายเป็นวรรณกรรมได้ ขึ้นกับความสามารถของผู้เขียน

แต่มันจะดีไหม ฉันก็ยังตัดสินใจไม่ได้

 

พ่อของฉัน ในวันที่เขาอายุ ๙๑ ปี เหลืออีกหนึ่งปีก็ตาย เขายังอยากมีเมียคนใหม่ ยังอยากลูบๆ คลำๆ ด้วยเพราะเขาเหงา

ความเหงานี้เป็นจริง น่ารันทด น่าเห็นใจ เพราะเวลาเกิดกับเขา ยากจะหาสิ่งใดมาทดแทนได้ เราไม่อาจบอกให้เขาไปหางานอดิเรกสักสิ่ง ไปปลูกต้นไม้ หรือฟังเทศน์ มันเกิดจากความเหงาลึก ที่สะท้อนอดีตของตัวเขาเอง พ่อของฉันเป็นคนมีพลัง แต่ก็เห็นแก่ตัวอย่างลึกล้ำ

แต่ใครก็มองออกได้ ว่านี้คือความเหลวไหล หากทำ จะก่อผลร้ายกว้างใหญ่ สะเทือนทั้งครอบครัว ที่เป็นครอบครัวใหญ่ มีหลายสิบชีวิต มีผลต่อมรดก ต่อความสัมพันธ์ของลูกๆ ทั้งเจ็ดคน

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า เขาชราภาพมากแล้ว ใกล้จะถึงจุดสุดท้ายของชีวิต คนวัยนี้ผู้หญิงที่ไหนจะมาจริงใจด้วย ความอยากบดบังทุกสิ่ง และข้ออ้างคือ ฉันเหงา

ลูกๆ เจ็ดคน หากรวมพลังกัน ก็สามารถบล็อกเขาได้ หากแต่ก็เหมือนไปฝืนใจเขา ไปสร้างความทรมาน ด้วยเพราะยากจะหาสิ่งใดมาทดแทนได้

หากตามใจเขา มันก็เหมือนจิบพิษร้ายทีละนิด

เราประเมินไม่ได้ ว่าแล้วจะเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าไม่ใช่สิ่งดี

 

คิดถึงเกอเต้ นักเขียนใหญ่ชาวเยอรมัน เขาเสียชีวิตในปี 1832 ตอนอายุ ๘๒ ปี ในยุคนั้นเรียกได้ว่าเขาอายุยืน เขาเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เรียกได้ว่า ชายแก่ลามก เพราะในบั้นปลายของชีวิต เขาหลงรักเด็กสาวคนหนึ่ง ที่เป็นหลานของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่นับถือเขามาก เขาจึงกล้าขอกับเพื่อน ขอแต่งงานกับเด็กสาวคนนั้น

เพื่อนของเขาโกรธมาก เลิกคบกับเขาไปเลย

เกอเต้ใช้ชีวิตในบั้นปลาย อย่างโศกเศร้า และเสียเพื่อน

นี้เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันอึ้ง อุทานว่า You Old Fool ฉันมีความเห็นใจเขา เข้าใจเขา แต่ก็รู้สึกสิ่งที่เขาทำ คือความเหลวไหล

มันเกิดจากความหลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นกวีใหญ่ เป็นนักเขียนระดับโลก บางคนยกให้เขาเป็นหนึ่งในสี่ห้าคน ที่ยิ่งใหญ่สุดของโลก ความหลงตัวเองของเขาใหญ่หลวงยิ่งนัก จุดนี้เองที่เขาพลาด เขาคิดว่าคนอื่นในโลกคงมองเขาแบบนี้หมด

เขาจึงอาจทำอะไรบางอย่าง ที่ไม่ควรทำ

 

๑๐

Artaxerxes II จักรพรรดิแห่งเปอร์เซีย ที่เสียชีวิตในปี 358 BC ด้วยอายุ ๙๔ ปี เขาหลงรักลูกสาวตัวเองคนหนึ่ง จึงเอามาเป็นเมีย แต่ไหนๆ จะเอาลูกสาวตัวเองเป็นเมียแล้ว จะเอาหนึ่งคนหรือสองคนก็ไม่ต่าง เขาจึงทำแบบเป็นกิจจะลักษณะ คือเอาลูกสาวตัวเองมากมายมาเป็นเมีย เป็นหนึ่งฮาเร็ม ทั้งที่แม้แต่ในยุคโบราณ การเอาลูกสาวเป็นเมีย เป็นข้อห้าม แต่เขาก็สร้างข้อยกเว้นให้ตัวเอง ด้วยอำนาจอันเกือบไร้ที่สิ้นสุด เขาจึงทำได้ ด้วยจักรพรรดิเปอร์เซียนั้น เกือบเป็นพระเจ้า

มนุษย์ไม่ควรเป็นทาส ด้วยเพราะจะไร้ศักดิ์ศรี มนุษย์ที่ไร้ศักดิ์ศรีจะไม่ใช่มนุษย์ แต่มนุษย์ก็ไม่ควรเป็นพระเจ้า ด้วยมนุษย์ที่ใกล้กับการเป็นพระเจ้า จะไร้ศีลธรรม ไม่มีความละอาย และจะอำมหิตอย่างไร้เทียมทาน และจะหลงตัวเองอย่างหาขอบเขตมิได้

จะเห็นได้ชัด ในวันที่เขาแก่ชรา แม้ ๙๔ ปีจะนานพอควร แต่ที่จริงก็พริบตาเดียว บั้นปลายแห่งชีวิต เขาเดินเหินไม่ได้ ขยับตัวยังยากลำบาก ตัวสั่นงันงก

 

๑๑

Vladimir Nabokov เขาโด่งดังมากทีเดียว ตายในปี 1977 ตอนอายุ ๗๘ เขาโด่งดังจาก Lolita หนังสือที่เกี่ยวกับชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ที่หลงใหลลูกเลี้ยงของตัวเอง เด็กหญิงอายุ ๑๒ ปี

การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุเท่านี้ หากเป็นจริง ในวันนี้ เป็นอาชญากรรมใหญ่หลวง หมดอนาคต

แต่ในโลกของวรรณกรรม นี้เป็นเรื่องดัง เห็นตีพิมพ์อยู่เสมอ อ่านกันอย่างสนุกสนาน มันถูกสร้างเป็นหนัง เป็นละคร เป็นอุปรากร บางคนยกให้เป็นงานที่ดีที่สุดในศตวรรษที่ ๒๐

ที่สำคัญคือเวลาฉันอ่าน ฉันอยากอ้วก นี้เป็นงานที่ฉันเกลียดมาก ด้วยเพราะเขาแสดงอาการเริงร่า กับการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหญิงอายุ ๑๒

แต่ที่ฉันแปลกใจคือทำไมมันจึงประสบความสำเร็จ โด่งดังยิ่งนัก เกิดอะไรขึ้นหรือ

๑๒

ฉันไม่ใช่พระเจ้า จึงตัดสินไม่ได้ ยิ่งกับงานสร้างสรรค์ ยิ่งประเมินไม่ถูก

แต่ทว่า ในโลกนี้มีมลภาวะแอบแฝง มันซ่อนอยู่ในทุกที่

ยิ่งในวันนี้ เรามีอินเตอร์เน็ต มลภาวะใหญ่หลวงซ่อนอยู่ในนั้น มันมาเป็นระลอกๆ