เพนต์เฮาส์คอนโดฯ มาแรง / ก่อสร้างและที่ดิน : นาย ต.

ก่อสร้างและที่ดิน

นาย ต.

 

เพนต์เฮาส์คอนโดฯ มาแรง

 

ตลาดห้องชุดคอนโดมิเนียมที่ทรุดลงไปพร้อมกับวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563-2564

เพราะการหายไปอย่างสิ้นเชิงของลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะจากจีน เพราะความกลัวไวรัสโควิดที่เกิดจากการอยู่กันอย่างหนาแน่นและการสัมผัส ผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยหันไปสนใจซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว แทนห้องชุด

“เพนต์เฮาส์” ห้องชุดหรูราคาแพงลิ่วบนยอดตึกคอนโดมิเนียมต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน ระหว่างที่มีการ “ล็อกดาวน์” ก็มีรายงานข่าวว่า มีการขายเพนต์เฮาส์ราคาแพงย่านศูนย์กลางธุรกิจ กทม.มาซื้อบ้านหรูราคาแพงแทน ตัวอย่างเช่น ซื้อบ้านเดี่ยวหรูราคาร้อยล้านบาทย่านถนนเลียบด่วน

ปี 2565 ความกลัว ความวิตกกังวลไวรัสโควิดลดน้อยลง ความสนใจซื้อห้องชุดคอนโดฯ ค่อยๆ ฟื้นตัวกลับ ดูได้จากตัวเลขสถิติบนโลกออนไลน์การค้นหาห้องชุดมีมากขึ้น ตามสำนักงานขายโครงการหรืออีเวนต์โปรโมชั่นต่างๆ ห้องชุดก็มีจำนวนการจองมากขึ้น

นอกจากนี้ ราคาที่อยู่อาศัยมีราคาสูงขึ้นตามราคาที่ดินและค่าก่อสร้าง ปัจจุบันที่อยู่อาศัยแนวราบราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท/ยูนิตประเภททาวน์เฮาส์ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลชานเมืองไม่มีหรือหายากแล้ว

ทางเลือกของผู้มีรายได้ 2-3 หมื่นบาท/เดือนจึงมีเพียงห้องชุดคอนโดฯ เท่านั้น

 

“เพนต์เฮาส์” ก็กลับมาเป็นข่าวบอกเล่ากันปากต่อปากในระยะนี้ แต่ยังไม่มีตัวเลขสถิติยืนยันว่ามีความสนใจซื้อมากจากนักลงทุน

มีคำอธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า เป็นผลจากความผันแปรในตลาดเงินตลาดทุนโลก ซึ่งที่ผ่านมามีการออก QE (Quantotative Easing) หรือ “ปั๊ม” เงินออกมาปริมาณมหาศาลจากประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก ขณะนี้มาถึงจุดเปลี่ยน

ไม่มีสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกจากจีน ไม่มีน้ำมันจากรัสเซียมาดึงราคาน้ำมันโลก มาช่วยกันฉุดไม่ให้เงินเฟ้ออีกต่อไป ตรงข้ามราคาน้ำมันพุ่งสูง สินค้าอาหาร สินค้าโภคภัณฑ์ราคาขึ้นสูง ดันให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งเดียวมากถึง 0.75% เพื่อสกัด พร้อมกับใช้มาตรการ QT (Quantitative tightening) เป็นการลดปริมาณเงินในระบบ ตรงกันข้ามกับ QE

จึงมีความวิตกว่า อาจเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่เรียกว่า Great Depression และเกิดการเสื่อมค่าของเงินและตราสารการเงิน ทำให้เกิดการเปลี่ยนเงินเป็น Real Asset ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงมีปริมาณจำกัด

และเพนต์เฮาส์ ก็คือส่วนหนี่ง

 

ในเวลานี้ คงต้องใช้ท่าทีการ “ฟังหู ไว้หู” กับแนวการวิเคราะห์ดังกล่าว

เพราะมีความเป็นไปได้ตามแนวการวิเคราะห์นี้ หรือเป็นเพียงกระแสชั่วระยะเวลาสั้นๆ หรือไม่ใช่เลย

แต่ที่แน่ๆ เลยคือ มันไม่เหมือนเดิมแน่นอน •