น.1เรียกประชุมชุดสืบ 2 ทุ่มคืนนี้ คลายคดีปล้น 60 ล. เชื่อฝีมือคนกันเอง สั่งสกัดชายแดนติดบ่อนเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการ ตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีปล้นทรัพย์เงินสกุลเยน คิดเป็นเงินไทยมูลราคากว่า 60 ล้านบาท เหตุเกิดท้องที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เมื่อกลางดึกวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่า เวลา 20.00 น. วันนี้จะไปประชุมติดตามความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนที่ สน.พหลโยธิน ขณะนี้ชัดเจนว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุประสงค์ต่อทรัพย์ โดยคดีลักษณะแบบนี้ปล้นทรัพย์จำนวนมากเคยเกิดขึ้นในท้องที่ สน.บางรัก เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มูลค่าความเสียหายประมาณ 50,000,000 บาท จับกุมผู้ก่อเหตุได้ ในส่วนคดีนี้ได้เร่งรัดให้สืบสวนสอบสวนจับกุมคนร้ายให้ได้ คดีนี้ไม่ยาก เชื่อว่าจะได้ตัวคนร้ายในเร็วๆ  นี้ เร่งรัดจับกุมให้ได้

รรท.ผบช.น.กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนร้ายยังอยู่ในประเทศหรือไม่ แต่ได้สั่งการประสานงานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศให้สกัดจับกุมโดยเฉพาะด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีชายแดนติดกับบ่อนการพนัน

“จากการสืบสวนก็น่าเชื่อว่าคนในคนใกล้ชิดมีส่วนรู้เห็นเพราะผู้เสียหายทำธุรกิจนี้และมีพฤติการณ์แบบนี้มา 5 ปีแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าผู้เสียหายกับผู้ต้องหารู้จักกัน แต่ยังไม่ฟันธงลงไป อย่างไรก็ตาม กำลังสืบสวนตรวจสอบอยู่ว่าคนร้ายเข้าไปก่อเหตุในลานจอดรถของคอนโดมิเนียมได้อย่างไร มีการจำลองเหตุการณ์ไล่ตรวจสอบแล้ว ส่วนบุคคลอื่นๆในคอนโดมิเนียมจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ผมไม่ขอตอบ ตอนนี้การสืบสวนสอบสวนสอบคนในคนใกล้ชิดทั้งหมดทั้งหุ้นส่วนคนที่เคยทำงานด้วย คนที่ยังทำงานด้วยไปสอบหลายปากแล้ว ทยอยสอบยังสอบไม่หมด วันนี้จะเรียกสอบเพิ่มเติม ก็มีกลุ่มที่จับตามอยู่” รรท.ผบช.น.กล่าว และว่า คดีนี้ไม่ถือเป็นการท้าทายการเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลของตนเพราะคดีใหญ่กว่านี้ก็ทำสำเร็จมาแล้ว เชื่อว่าคดีนี้จะจับกุมคนร้ายได้