ผ่าทางตัน ผ่านด่านอันตราย/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

ผ่าทางตัน ผ่านด่านอันตราย

 

จบไปแล้ว ง่าย สบายๆ กว่าที่คิด การพิจารณาร่าง “พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566” วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ผ่าน “วาระแรก” ไปเรียบร้อย หมูสามชั้นมันอร่อยเอามากๆ

ก่อนนำเข้าถกในสภา “ฝ่ายค้าน” คำราม พวกเขาทำทีเหมือน “เสือ” ออกล่าเหยื่อ จะคว่ำกระดาน “พ.ร.บ.งบประมาณ” ให้ม่อยกระรอก ดับคาเขียง เอาเข้าจริงแค่สมันตัวน้อยๆ

ผลโหวตแพ้ป่าราบ รับหลักการ 278 ต่อ 194 คะแนน แถมน่าเก๊กซิมมากเป็นไหนๆ อีกต่างหาก เมื่อมีการเช็กเสียงซีกรัฐบาลเดิมปริ่มน้ำ อยู่ระดับ 250 เสียง พรรคเศรษฐกิจไทยของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” จำนวน 16 คน และกลุ่มพรรคขนาดเล็ก 10 กว่าเสียง ที่ตีกรรเชียงไปกวนปีกร่วมกับฝ่ายค้านก่อนหน้า ปรากฏว่า พี่น้องจบลงด้วยการหักเหลี่ยม แหกด่านมะขามเตี้ยมา ยกมือผ่านกันหน้าสลอน

ที่เจ็บปวดรีดสีดวงสุด-สุด สัดส่วน ส.ส.ฝ่ายค้านร่วมจำนวน 8 พรรค มีตัวเลขหน้าตักอยู่ที่ 208 ที่นั่ง โดนมือดีต้นตำรับ “งูเห่า” แอบมาฉกปลาในอ่าง ตุหรัดตุเหร่ไปอีก 14 พระหน่อ เสียงเลยหดเหลือ 194 เสียง ไม่รับหลักการ

เสียงสนันสนุนรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” คิดสะระตะกันว่า 250 โดยประมาณ ยอดพุ่งกระฉูดมากถึง 278 เสียง มากกว่าฝ่ายค้านถึง 84 ที่นั่ง และเมื่อมีการเช็กยอดผู้ทรงเกียรติที่พลิกข้ามสาย บรรดาตีนตุ๊กแกทั้งหลายแล้ว ปรากฏว่า “เพื่อไทย” โดนร้อยเหงือกมากที่สุด 7 คนทั้งเก่าและใหม่ “ก้าวไกล” 4 คน “ประชาชาติ” 1 ราย

และเมื่อเช็กสต๊อกไอดอลตัวเอ้ ที่ทัพงูเห่าไปสิงสถิตกันมากที่สุด ปรากฏว่าแหล่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่า “คอบร้า” เห่าสายพันธุ์ไทยไปเจริญศีลภาวนากันมากที่สุด คือ “ภูมิใจไทยพาร์ก”

เลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 ได้ ส.ส.มาเพียง 51 คน เป็นพรรคร่วมลำดับที่ 3 ตอนนี้ยอดพุ่งปรี๊ด มี ส.ส.ในสังกัดเป็น 77 คน หายใจรดต้นคอพรรคพลังประชารัฐ แม้จำนวนผู้แทนฯ ในสังกัดจะน้อยกว่า แต่ความเป็น “เอกภาพ” เหนือกว่าหลายขุม

กลับไปที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผ่าทางตัน ผ่านด่านอันตราย “พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย” ไปง่ายดาย ไม่ยากลำบาก ลำดับถัดไปอยู่ในขั้นตอนตั้งกรรมาธิการร่วม 72 คนไปพิจารณาแปรญัตติกันตามอัธยาศัย เมื่อแบ่งเค้ก-เศษเนื้อข้างเคียงกันลงตัว นำมาเกี้ยเซียะกันใหม่ใน “วาระที่ 2” และ “วาระที่ 3” คาดว่า อ้อยเข้าปากช้างเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างคงลื่นไหล ไม่สะดุดเหลี่ยมอะไรแล้ว

 

แต่ “บิ๊กตู่” ยังลัลล้า แอ๊กอาร์ตอะไรมากไม่ได้ เพราะยังติดเก้ง ว่าด้วย “ศึกซักฟอก” ที่ฝ่ายค้านส่งเสียงเข้มเสียงเขียว จะล่อเป้าโดยไม่รอช้า เห็นว่าจะชิงลงมือในเดือนสิงหาคม ตามช่องทางแห่งมาตรา 151 “เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หรือทั้งคณะ”

ยื่นปุ๊บ มัดตราสังปั๊บตามไฟต์บังคับ “เมื่อเสนอญัตติแล้ว จะยุบสภา หรือลาออกมิได้” เว้นเสียแต่ผู้ยื่นจะถอนญัตติเองเท่านั้น

การอภิปรายไม่ไว้วางใจในคาบนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน แล้วแต่บุญแต่กรรรม แต่ต้องเกกันหมดหน้าตัก หนักเป็นพิเศษ เพราะเดิมพันราคาแพง “บิ๊กตู่” จะทำลายสถิติยืนหยัดได้ครบเทอมหรือไม่ ก็ฝากไว้กับ “ศึกซักฟอก” คราวนี้

เหมือนเคย “ฝ่ายค้าน” ขู่ฟอด จะนำประเด็นความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดิน ทุจริตต่อหน้าที่ เอื้อประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง การทำลายประชาธิปไตย เศรษฐกิจย่ำแย่ น้ำมันแพง สินค้าอุปโภคบริโภคพุ่ง ความอดอยากยากจนแผ่กระจาย สิทธิเสรีภาพถูกจำกัด และกำจัด

อย่างไรก็ตาม หากนำผลโหวต “พ.ร.บ.งบประมาณ 2566” มาเป็นธง ก่อนลงมติรับหลักการด้วยเสียงท่วมท้น มาจูนโมเมนตัม เทียบกับศึกซักฟอกที่กำลังจะระเบิดเถิดเทิงขึ้นในเดือนสิงหาคม

ก่อนลงมือ ภาพดูครือๆ กัน “บิ๊กตู่” ตกที่นั่งอันตราย ผีก็ร้าย ความไข้ก็มาก น่าจะ “รอดยาก” แต่สุดท้ายก็สอบผ่าน ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอันใด “บิ๊กตู่เก่ง” หรือ “ฝ่ายค้านห่วยแตก”

จับอาการ “พล.อ.ประยุทธ์” หลัง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านฉลุย เหมือนกับได้โด๊ปดีหมี เติมพลัง มีความมั่นอกมั่นใจซ่อนอยู่ ไม่สะทกสะท้านกับศึกซักฟอก “ได้ไปต่อแน่นอน”

แสดงออกทั้งเนื้อหาท่าที ไม่มีอาการจิตตก พฤติกรรมสะท้อนผ่าน การเดินทางไปจับเข่าคุยกับ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ฮึกเหิมขนาดเตรียมจะยกระดับตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แทน “พี่ป้อม” ที่จะหลีกทางไปนั่งแป้นประธานที่ปรึกษา

ส่งซิกให้เด็กในคาถา ที่คิดจะแยกวงไปก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ หอบเสื่อหอบหมอนพาเหรดกลับมาซบบ้านเก่าที่ พปชร.กันเป็นแถว

ขณะเดียวกัน ขยันขันแข็งลงพื้นที่มากขึ้น ก่อนหน้านี้ไปเยือนพี่น้องชาวภูเก็ต ภาษาออดอ้อน ฟังดู ขยายไปมันการเมืองชัดๆ ปกติ “บิ๊กตู่” ไม่ค่อยเป็นคนยังงี้

ไม่กี่เพลาต่อมา ตะลุยสนามเมืองหลวง “กรุงเทพมหานคร” ซึ่งนานมาแล้ว “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ค่อยตีนติดดิน แต่หลัง “เลือกตั้งจังหวัดเดียว” ได้ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ขึ้นทำเนียบนามผู้ว่าฯ แลนด์สไลด์ กลายเป็นขวัญใจคนกรุง “เชิงสัญลักษณ์” ไปโดยพลัน

นักรบเก่าที่ชื่อ “ประยุทธ์” เท้าไม่แตะเลยย่อมไม่ได้ เมื่อวันวาน จึงทอดน่องเยี่ยมพื้นที่สาทร โชว์นั่งเรือ เปิดท่าน้ำท่าช้าง-สาทร เพื่อพัฒนาการขนส่งทางน้ำที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นๆ โดยขนรัฐมนตรีร่วมคณะไปเพียบ

พอเปิดตัวก็โดนเลย…โดนด่า

แรกๆ ถือว่าดวงไม่ดี เหมือนคนไปหาหมอตามนัด แต่หมอกลับไม่มาซะนี่ เลยนั่งหาว