กองทุนน้ำมัน ใกล้ถังแตก! เหลือแค่ 1.2 หมื่นล้าน ตรึงราคาได้อีกเดือนเดียว

ใกล้ถังแตก! กองทุนน้ำมัน เหลือแค่ 1.2 หมื่นล้าน ตรึงราคาได้อีกเดือนเดียว เตรียมขอเงินหลวงช่วยด่วน ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงิน หรือขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล

 

วันที่ 27 พ.ค. 2565 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผอ.สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กล่าวว่า ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องเหลืออยู่ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้ในการพยุงราคาน้ำมันได้อีกประมาณเดือนกว่า จากนั้นต้องหาสภาพคล่องเพิ่มเติมให้ได้ ซึ่งมี 2 ทางที่ดำเนินการได้

1. การกู้เงินตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กองทุนน้ำมันฯ กู้เงินได้ 3 หมื่นล้านบาท 2. การขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งแล้วแต่นโยบายว่ารัฐบาลจะนำเงินส่วนไหนมาให้

ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีสถานะติดลบอยู่ 7.6 หมื่นล้านบาท โดยตอนนี้เงินไหลเข้า-ออกของกองทุนในแต่ละวันติดลบอยู่ประมาณ 4-5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสภาพคล่องที่มีอยู่ กับสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันที่มีความผันผวนอย่างมาก จึงต้องเร่งหาสภาพคล่องมาเพิ่มเติม

ในส่วนเงินกู้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคาร เพราะกองทุนน้ำมันไม่สามารถกู้เงินโดยตรงได้ เนื่องจากไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคล ทว่าสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเป็นผู้ดำเนินการแทน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกันกับธนาคาร โดยธนาคารต้องพิจารณาถึงสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย

แม้ว่าการกู้เงินจะไม่ทันภายในเดือน พ.ค. 2565 และสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ หมดไป ก็ยังไม่ส่งผลกระทบของกองทุน เพราะกองทุนน้ำมันยังมีช่องทาง คือ การขอเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ส่วนรัฐบาลจะเอาเงินส่วนไหนมาอุดหนุนก็เป็นเรื่องของฝ่ายนโยบาย ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ากองทุนน้ำมันฯ ยังสามารถดูแลราคาน้ำมันได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดการสะดุด

นอกจากนี้ มติคณะรัฐมนตรี ที่ให้มีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร จนถึงสิ้นเดือน เม.ย. และในเดือน พ.ค.-มิ.ย. รัฐบาลจะช่วยอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลครึ่งหนึ่ง โดยกำหนดอัตราเพดานไว้ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร แม้ตอนนี้รัฐบาลยังอุดหนุนไม่ถึงครึ่งของราคาเพดาน ถือว่าไม่ผิดมติครม. เพราะกำหนดไว้ชัดเจนว่ามีเวลาดำเนินการจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. ที่จะปรับราคาดีเซลไปที่ 35 บาทต่อลิตร