‘สกลธี’ ถือฤกษ์ยาม ควงพ่อแม่ พร้อมพกเครื่องราง เข้าคูหา “อุ๊งอิ๊ง” พร้อมคุณหญิงอ้อ-พี่เอม ใช้สิทธิเลือกตั้ง “สุดารัตน์” ชวนคน กทม.ใช้สิทธิ ‘อ๋อม สกาวใจ’ ตื่นเต้นใช้สิทธิในรอบหลายปี ลั่นอยากเห็นคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ ดีขึ้นไม่ต้องใช้เวลา 8 ปี

 

วันที่ 22 พ.ค.2565 เมื่อเวลา 09.03 น.หน่วยเลือกตั้งที่ 5 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร เต็นท์บริเวณการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซ.พหลโยธิน 42 โดยอยู่ลำดับที่ 329 ซึ่งหน่วยเลือกตั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์ 560 คน นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร พร้อม พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) คณะก่อการรัฐประหาร 2549 ผู้เป็นบิดา และมารดา เดินทางมาลงคะแนนเสียง โดยนายสกลธี สวมเสื้อ ยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ มีหน้าตาสดชื่นยิ้มแย้มแจ่มใส่ เมื่อเดินทางมาถึง ได้ตรวจรายชื่อและเดินเข้าคูหา

นายสกลธี กล่าวว่า ตนรอเวลา 09.03 น. ลงจากรถ ซึ่งเป็นฤกษ์ที่ดีและเหมาะกับตัวเอง โดยพล.อ.วินัย และนางศศิณี (ชลออยู่) ภัททิยกุล บิดามารดา ได้ให้กำลังใจตนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว หลังร่วมรับประทานอาหารด้วยกันในรอบหลายเดือน โดยเช้าวันนี้ตื่นตั้งแต่ตี 5 เพราะเคยชินกับการออกไปหาเสียงเลือกตั้ง

นายสกลธี กล่าวต่อว่า จากนั้นก็ไปสวดมนต์ไหว้พระ ดูข่าวติดตามสถานการณ์ แล้วออกมาใช้สิทธิ รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเป็นสนามเลือกตั้งที่ใหญ่ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับคน กทม. พร้อมเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิด้วย ซึ่งจากการพยากรณ์อากาศในครึ่งวันเช้า อากาศยังดีอยู่ ส่วนช่วงที่บีบหัวใจก็คงเป็นวันนี้ แต่หลัง 6 โมงเย็นไปแล้วน่าจะดีขึ้น โดยจะไปลุ้นผลคะแนนร่วมกับทีทงาน ที่ตึก R56 ถ.รัชดา

ทั้งนี้ นายสกลธี ได้โชว์เครื่องรางของขลังที่เป็นเบี้ยแก้ของหลวงปู่เกษม เขมโก และเหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นเลื่อนสมณะศักดิ์ ที่เชื่อว่าจะทำให้หน้าที่การงานก้าวหน้าไปกว่าเดิม เพราะตนเคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ก็อาจจะได้เป็นผู้ว่าฯ

สำหรับบรรยากาศก่อนเปิดหีบลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 5 คึกคักเป็นอย่างยิ่ง มีประชาชนให้ความสนใจและตื่นตัว และเดินทางมารอการใช้สทธิตั้งแต่เวลา 07.30 น. จากกนั้น เวลา 08.00 น.เปิดหีบเลือกตั้ง ประชาชนเข้าไปตรวจรายชื่อ และประธานกรรมการประจำหน่วย หน่วยเลือกตั้ว อธิบายขั้นตอนการลงคะแนน และเปิดลงคะแนนเสียง

ทั้งนี้ ก่อนเข้าหน่วยเลือกตั้ง ได้จัดเตรียมที่วัดอุณหภูมิและเจลแอลกอฮอล์ไว้สำหรับประชาชนผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งหากใครที่มีอุณหภูมิร่างกายสูง ไม่ผ่านการตรวจวัด หรือสุ่มเสียงที่จะเป็นโรคโควิด19 ทางหน่วยเลือกตั้งได้จัดช่องทางพิเศษ 1 ช่องทาง สำหรับประชาชนที่มาใช้สิทธิ

หญิงหน่อย ชวนคนกรุงร่วมใช้สิทธิ ยันพร้อมร่วมงานทุกฝ่ายเต็มที่

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 33 ณ เต็นท์บริเวณที่จอดรถ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาลาดพร้าว

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ มีความสำคัญ เพราะชาว กทม.จะได้ใช้สิทธิเลือกผู้ว่าฯ กทม. และส.ก.ที่ต้องการไปบริหารกรุงเทพมหานคร และรับใช้พี่น้องชาว กทม.ได้อย่างแท้จริง หลังที่คน กทม.ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้งมานานหลายปี จากคณะยึดอำนาจรัฐประหาร

“พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งแม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่มีความตั้งใจจริงที่อยากจะเห็นกรุงเทพดีขึ้น ซึ่งทั้งทีมผู้ว่าฯ กทม. และส.ก.ไม่ว่าจะเป็นใครได้รับเลือกเข้ามา เราพร้อมให้ทั้งนโยบาย และ ส.ก.ของเรา เข้าไปทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อพัฒนากรุงเทพฯให้ดีขึ้น แต่หากพี่น้องไว้วางใจเรา เราก็จะทำหน้าที่ และทำงานอย่างเต็มที่ เพราะเราต้องการให้กรุงเทพเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เชิญชวนพี่น้องประชาชนออกมาใช้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. กันให้มากที่สุด เพราะจะได้คนที่ต้องการไปพัฒนากรุงเทพฯ แต่ก็กังวลว่าบรรยากาศฝนตก อาจจะทำให้เป็นอุปสรรค ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนวางแผนการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย

‘อ๋อม’  ลั่นอยากเห็นคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ ดีขึ้นไม่ต้องใช้เวลา 8 ปี 

เมื่อเวลา 08.10 น. นักแสดงสาว อ๋อม สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ได้เดินทางมาที่หน่วยเลือกตั้งที่ 13 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร สถานที่เลือกตั้ง เต็นท์ตลาดพอเพลิน โดยบรรยากาศคูหาเลือกตั้งค่อนข้างคึกคักมีประชาชนมานั่งรอใช้สิทธิ์ตั้งแต่ยังไม่เปิดคูหา และภายในคูหามีเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย ให้ประชาชนที่มาใช้สิทธิ์วัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้สิทธิ์

หลังจากได้ใช้สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว อ๋อม สกาวใจ ได้เปิดใจถึงการได้ออกมาใช้สิทธิ์ครั้งนี้ว่า “มาแต่เช้าเลยค่ะ ตื่นเต้น ดีใจ (ยิ้ม) ไม่ได้มีบรรยากาศแบบนี้มากี่ปีแล้ว (หัวเราะ) นานมากค่ะ”

ศึกษาผู้สมัครแต่ละคนมายังไงบ้าง? “เรียกได้ว่าศึกษามานานแล้ว เพราะว่าคนที่แล้วเราไม่ได้มีสิทธิเลือกเขาเข้ามา แต่ว่าครั้งนี้เราได้เลือกผู้ว่ากทม.ทั้งทีแล้วบ้านเราอยู่กรุงเทพฯ ก็ดูว่าแต่ละท่านที่เข้ามาสมัครเขามีนโยบายแล้วก็เราเห็นผลงานที่ผ่านๆ มาของเขายังไงบ้าง”

ตัวเราเองอยากเห็นกรุงเทพฯเปลี่ยนไปยังไงบ้าง? “ผู้ว่ากรุงเทพมหานครที่เข้ามาตรงนี้ได้รับตำแหน่งนี้ อยากเห็นกรุงเทพฯ ปรับและเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในระยะเวลารวดเร็วโดยที่ไม่ต้องใช้เวลา 8 ปี (หัวเราะ) 5 ปี คือมันนานไปเพราะว่างบในการดูแล งบในการแก้ไขปัญหากรุงเทพฯ มันค่อนข้างมหาศาล เท่าที่เรารู้มานะ ก็คือมันเป็นหลักหมื่นๆ ล้าน เราก็รู้สึกว่า เฮ้ย งบอันนี้มันที่จะสามารถดูแล สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขปัญหาได้เยอะเลย แต่ที่ผ่านมาเราไม่เห็นผลงานชัดเจน เราเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดมาที่นี่ แม่อ๋อมอยู่มา 45 ปี เรารู้สึกว่ามันได้มากกว่านี้”

ปัญหาแรกที่อยากให้แก้ไขคืออะไร? “ปัญหาคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ตื่นมาทุกวันเราเห็นคุณภาพชีวิตเราเป็นยังไงบ้าง เราต้องถามตัวเองก่อน คืออ๋อมตื่นมาทุกวันอ๋อมรู้สึกว่า เอ๊ะ คุณภาพชีวิตเราดีขึ้นหรือยัง อย่างเช่น ป้ายรถเมล์ ถนนหนทาง สายไฟระโยงระยางที่เห็นได้ชัด แล้วก็ค่าครองชีพคือทุกสิ่งทุกอย่าง น้ำท่วม ล่าสุดเห็นชัดเจนอยู่แล้ว ฝนตกรถติด มันใช่ แต่มันสามารถแก้ได้ในระยะอันรวดเร็วได้ไง ไม่ต้องมาบอกว่าก็เห็นปัญหาแบบนี้ก็เกิดขึ้นมาทุกทีอยู่แล้ว แล้วเราสามารถทำให้ปัญหานี้หมดไปได้ไหม ในความหมายถ้าเกิดทำไม่ได้ก็ไม่ต้องเข้ามา แค่นั้นเอง เราก็อยากจะเห็นคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ยิ้มได้ ไม่ใช่เฉพาะแค่คนกรุงเทพฯ นะ ไม่ใช่แค่คนกรุงเทพฯ นะ ที่ได้เลือกผู้ว่ากรุงเทพฯ แต่ในต่างจังหวัด ทุกจังหวัดอ๋อมรู้สึกว่ามันยังไม่เห็นทุกๆ จังหวัดเขาจะมีสิทธิ์เลือกผู้ว่าของแต่ละจังหวัด โดยคนจังหวัดนั้นๆ มาบริหารหรือมาจัดการได้เลย นอกจากจิ้มๆ เอาแล้วให้คนนั้นไปดูแลในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งอยากจะเห็นทุกจังหวัดได้เลือกผู้ว่าเหมือนกัน”

ให้ระยะเวลาผู้ว่าฯ ที่จะเข้ามาใหม่ในการแก้ปัญหาต่างๆ แค่ไหน? “อ๋อมเชื่อว่าปัญหามันไม่สามารถแก้กันได้ในระยะเวลาวันนี้พรุ่งนี้ มันต้องใช้ระยะเวลาแต่ไม่ใช่ระยะเวลา 5 ปีและแก้ไม่ได้มันต้องเป็นระยะเวลา 3-6 เดือนมันต้องเห็นแนวทาง เห็นทิศทางแล้วว่ากรุงเทพฯ จะไปอย่างไรต่อ กรุงเทพต้องไปต่อค่ะ ต้องไปต่อกับคนที่เขาเข้ามาแก้ไขปัญหาได้จริงๆ”

อยากบอกอะไรผู้ว่าคนใหม่ที่จะเข้ามารับหน้าที่? “ถ้าเป็นคนที่อ๋อมเลือกไป อ๋อมมั่นใจว่าเขาทำได้ อยากให้นโยบายของว่าที่ผู้ว่าคนต่อไป พูดไว้ขอให้ทำได้ในทุกๆ ข้อ อย่าให้คนกรุงเทพฯ ผิดหวังเพราะอันนี้มันคือการเลือกตั้งในรอบหลายๆ ปีที่เราใช้สิทธิ์ใช้เสียงของประชาชนที่เป็นหลักประชาธิปไตยจริงๆ และอยากจะฝากว่ามาแบบนี้ขอให้ใครได้ก็แล้วแต่ เราขอให้เคารพในกติกานี้ ขอให้ทำให้กรุงเทพฯ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้จริงๆ ค่ะ”

เชิญชวนคนกรุงเทพฯ ให้ออกมาเลือกตั้งกัน? “สำหรับวันนี้ก็อยากจะเชิญชวนพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทุกคนเข้ามาใช้สิทธิ์ใช้เสียงเพื่อคุณภาพชีวิตของพวกเราให้มันดียิ่งยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะชอบใครเลือกใคร เป็นสิทธิ์ของคุณเลยแต่ขอให้ดูนโยบาย และขอให้ดูความตั้งใจของแต่ละท่านที่จะเข้ามาสมัคร ให้ออกมาใช้สิทธิ์กันจริงๆ เพราะมันเป็นในรอบหลายปีที่เราไม่ได้ออกมาแบบนี้ ขอให้ผู้สมัครทุกคนโชคดี”

ครอบครัวชินวัตรร่วมเลือกตั้ง “อุ๊งอิ๊ง” ตื่นเต้น มือสั่น ได้ใช้สิทธิตามระบบประชาธิปไตย

ขณะที่ เมื่อเวลา 10.00 น.ที่เต็นท์ลานกีฬา 1 เคหะธานี 3 หน่วยเลือกตั้งที่ 15 เขตคันนายาว ครอบครัวชินวัตร ประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และ ส.ก.เขตคันนายาว โดยน.ส.แพทองธาร อยู่ลำดับที่ 453

น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ภายหลังใช้สิทธิ์ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้นานกว่า 9 ปี ส่วน ส.ก.นานกว่า 12 ปี ยอมรับว่าตนเองเตรียมตัวมาเลือกตั้งและศึกษาข้อมูลมาแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงก็ตื่นเต้นมาก มือสั่น แต่ก็ผ่านไปด้วยดี และขอเชิญชวนคนกรุงเทพฯ ให้ออกมาใช้สิทธิ เราก็เป็นส่วนเล็กๆ ในการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น เพื่อให้เราภูมิใจที่ได้ผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ที่เราภูมิใจ เพื่อให้กรุงเทพฯ ดีขึ้น มีโอกาสมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ครอบครัวชินวัตรมาถึง มีประชาชนที่มาใช้สิทธิ์ ในหน่วยเลือกตั้งเดียวกัน ได้เข้ามาพูดคุยทักทาย และขอถ่ายภาพเซลฟี่ ร่วมกับทั้งครอบครัวอย่างเป็นกันเอง สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้งในบริเวณดังกล่าว มีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในช่วงเย็น น.ส.แพทองธาร จะเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อไปร่วมลุ้นผลการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ด้วย