ทหารยูเครนเริ่มอพยพออกจากโรงงานเหล็กในมาริอูโปล ยุติภารกิจปักหลักสู้ตาย

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า กองบัญชาการกองทัพยูเครนเปิดเผยว่า ภารกิจปกป้องโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลของกองทัพยูเครนที่ใช้เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายในการยันกองทัพรัสเซียที่บุกล้อมยึดเมืองมาริอูโปลนั้นได้สิ้นสุดลงแล้วและกำลังเข้าช่วยเหลือทหารที่ติดอยู่ข้างในออกมา

หัวหน้าเสนาธิการกองทัพยูเครนกล่าวแถลงว่า ฐานที่มั่นในมาริอูโปลได้เติมเต็มภารกิจสู้รบแล้ว ผู้บัญชาการสูงสุดได้สั่งให้หน่วยรบในโรงงานเหล็กอาซอฟสตัลไปช่วยชีวิตเหล่าทหารในนั้น ผู้ปกป้องมาริอูโปลคือวีรบุรุษแห่งยุคสมัยของเรา

รมช.กลาโหมยูเครนกล่าวว่า ได้ทำการอพยพทหารยูเครนที่บาดเจ็บ 53 นายไปยังโรงพยาบาลโนวาซอฟค์แล้วเมื่อวานนี้ ส่วนอีก 211 นายจะถูกอพยพไปยังจุดอื่น โดยรถบัส 5 คันพร้อมด้วยยานยนต์หุ้มเกราะลำเลียงพลที่บรรทุกกำลังรบได้เดินทางถึงเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา ผู้อพยพบางคนถูกหามเปลไปยังโรงพยาบาล

ด้านทหารยูเครนกล่าวว่า ความพยายามช่วยเหลือทหารที่ยังอยู่ในอาซอฟสตัลต้องดำเนินต่อ
ขณะที่โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครนกล่าวผ่านวิดีโอว่า เป็นวันอันยากลำบาก ยูเครนต้องการให้วีรบุรุษชาวยูเครนมีชีวิตอยู่ต่อ นี่ถือเป็นหลักการของเรา ฉันคิดว่าผู้มีเหตุผลทุกคนจะเข้าใจคำพูดเหล่านี้ งานยังคงพาทุกคน กลับบ้าน และงานนี้ต้องการความละเอียดอ่อน และเวลา
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ การปิดล้อมมาริอูโปลอันดุเดือด ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทั้งความสามารถของยูเครนในการยันทัพรัสเซียและการโจมตีแบบทำลายล้างของรัสเซียกับเมืองที่เข้าปิดล้อม โรงงานเหล็กอาซอฟสตัล กลายเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายที่ทหารยูเครนปักหลักสู้นานถึง 82 วัน ด้วยโครงข่ายอุโมงค์ใต้ดินและหลุมหลบภัยที่ถูกสร้างเพื่อรับมือสงครามนิวเคลียร์

เปลี่ยนตัวผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันดินแดน

รอยเตอร์สรายงานด้วยว่า เซเลนสกี้ ได้ทำการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันดินแดนของยูเครน โดยไม่มีคำอธิบาย ท่ามกลางการสู้รบกับกองทัพรัสเซียมาเกือบ 3 เดือน โดยกระทรวงกลาโหมยูเครนกล่าวว่า เซเลนสกี้ ได้แต่งตั้งให้พลตรี อิฮอร์ แทนซ์ยูราห์ เป็นผู้บัญชาการกองกำลังนี้แทนยูริ ฮาลุชคิน ซึ่งกลาโหมยูเครนกล่าวว่า แทนซ์ยูราห์ เป็นนายทหารมากประสบการณ์ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าเสนาธิการกองทัพยูเครน
กลาโหมยูเครนกล่าวอีกว่า กองกำลังป้องกันดินแดนเติบโตเร็วขึ้นมาก ทั้งที่ก่อตั้งไม่นานก่อนการรุกรานจากกองทัพรัสเซีย
“การเติบโตอย่างรวดเร็วของโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพการต่อสู้ที่รุนแรง เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ (พร้อม) ข้อผิดพลาดและความสำเร็จ มีความสำเร็จและน่าเสียดายที่การสูญเสีย” กลาโหมระบุในคำแถลง

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมกล่าวว่า กำลังรบของกองกำลังป้องกันดินแดนสามารถรุกคืบไปถึงพรมแดนเดิมและนำหมุดปักเขตแดนกลับไปปัก หลังสามารถขับไล่กองทัพรัสเซียที่กำลังโจมตีเมืองคาร์คีฟไปได้แล้ว

ขนปืนใหญ่สหรัฐฯไปแนวหน้า

มีรายงานจากสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเคียฟด้วยว่า ยูเครนได้ส่งปืนใหญ่ M-777 รุ่นใหม่ของสหรัฐฯจำนวนมากไปยังแนวหน้า หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯส่งมอบปืนใหญ่ทั้งหมด 90 กระบอก ยกเว้น อีก 1 กระบอกอยู่ระหว่างการส่ง

สำหรับปืนใหญ่ M-777 เป็นปืนใหญ่ขนาด 155 มม.แบบลากจูง ที่เป็นขุมกำลังสนับสนุนของกองทัพสหรัฐฯ ถูกกล่าวขานในประสิทธิภาพทั้งการยิงด้วยพิสัยการยิงสูงถึง 200 กม. และสามารถยิงด้วยกระสุนหลายชนิดรวมถึงกระสุนอัจฉริยะที่สามารถพุ่งเป้าหมายที่แม่นยำ และความคล่องตัวด้วยวัสดุที่เบาและติดตั้งง่าย ทำให้ง่ายต่อการย้ายตำแหน่งจุดยิงได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ การซุ่มโจมตีกำลังรบรัสเซียที่กำลังข้ามแม่น้ำโดเนสต์เมื่อ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กล่าวกันว่า มาจากความสามารถของปืนใหญ่รุ่นนี้ บวกกับสมรรถนะของโดรนฝ่ายกองทัพยูเครนในการบอกตำแหน่งเป้าหมายอย่างแม่นยำ ทำให้กองทัพรัสเซียสูญเสียทหารและยานยนต์ไปเป็นจำนวนมาก

ลาก่อน! แมคโดนัลด์ขายกิจการ ถอนธุรกิจจากรัสเซีย

เอเอฟพีรายงานว่า แมคโดนัลด์ แฟรนไชส์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากสหรัฐ จะถอนธุรกิจ และขายกิจการทั้งหมดในประเทศรัสเซีย

โดยบริษัทแมคโดนัลด์ได้ระบุในแถลงการณ์ว่า “หลังจากที่เปิดให้บริการในรัสเซียมากกว่า 30 ปี บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์เปอเรชัน ขอประกาศถอนธุรกิจจากตลาดรัสเซีย และได้เริ่มกระบวนการขายกิจการในรัสเซียแล้ว วิกฤตด้านมนุษยธรรมซึ่งเกิดขึ้นจากสงครามในยูเครน และสภาพแวดล้อมในการให้บริการที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้แมคโดนัลด์สรุปว่า ความเป็นเจ้าของธุรกิจในรัสเซียนั้นไม่สามารถคงอยู่ต่อไปได้ และไม่สอดคล้องกับค่านิยมของแมคโดนัลด์”

ทางบริษัทได้ระบุว่า กำลังจะขายกิจการทั้งหมดของร้านแมคโดนัลด์ในรัสเซียให้กับผู้ซื้อในท้องถิ่น และหลังจากขายแล้ว ร้านอาหารเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้ชื่อแมคโดนัลด์ โลโก้ ตรา หรือเมนูได้อีก

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แมคโดนัลด์ได้ปิดร้านทั้งหมด 850 สาขาในรัสเซีย ซึ่งมีการจ้างพนักงานมากถึง 62,000 คน และรัสเซียเป็นแหล่งที่มาของรายได้ 9% และกำไรอีก 3% ของแมคโดนัลด์ทั่วโลก