อาจินต์รำลึก : แปดปีที่แก่งเสี้ยน (จบ)/บทความพิเศษ แน่งน้อย ปัญจพรรค์

บทความพิเศษ

แน่งน้อย ปัญจพรรค์

 

อาจินต์รำลึก

: แปดปีที่แก่งเสี้ยน (จบ)

 

ความรักของอาจินต์

 

บนวิมานที่แก่งเสี้ยน

อาจินต์เพียรเขียนหนังสือ

เมื่อสมุดปากกาอยู่ในมือ

โลกก็คือวิมานสถานเดียว

สองตามองจ้องตรงหน้า

ลากปากกาดูลดเลี้ยว

เส้นอักษรก็คดเคี้ยว

แต่เด็ดเดี่ยวเหลือประมาณ

ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้

น่ายินดีเท่าเขียนอ่าน

มุ่งมั่นจะสร้างงาน

จะสืบสานอักษรไทย

ไม่เพียงแต่ชาตินี้

ชาติหน้ามีจะเกิดใหม่

จะมาเขียนอีกร่ำไป

ไม่สงสัยในเจตนา

รักเอยรักอักษร

รักกาพย์กลอนถึงชาติหน้า

อื่นใดใหญ่น้อยไม่นำพา

นี่คืออาจินต์ ปัญจพรรค์

Good Morning

 

ข่มตาหลับเพียงไรก็ไม่หลับ

หูสดับสำเนียงเสียงสดใส

“Good Morning” ยามเช้าออกจากใจ

“ขอให้มีความสุขทุกทุกคน”

มือหนึ่งกอด Ipad ของหวง

ไม่ให้ร่วงไม่ให้หล่น

อีกมือลาก Walker เดินวกวน

ดูชอบกลแต่แน่วแน่และยิ้มพราย

สองขาก้าวย่างอย่างช้าช้า

สองตาจับจ้องมองเป้าหมาย

เก้าอี้ขาวริมหน้าต่างนั่งสบาย

แดดเช้า-สายสวยสว่างกระจ่างตา

มันคือการเดินทางอย่างหอยทาก

ดูแล้วแสนลำบากยากหนักหนา

กว่าจะก้าวทีละคืบสืบถึงวา

ใช้เวลานานเนิ่นเกินประมาณ

แต่อาจินต์ไม่ย่อท้อ

ในลำคอยังสลับเสียงขับขาน

เป็นลำนำทำนองเพลงโบราณ

ทุกวันวารร้องเล่นเย็นใจ

นี่คือภาพทรงจำอันล้ำลึก

ยากลบเลือนที่สำนึกรู้สึกได้

จะกี่เดือนกี่ปีที่ผ่านไป

ยังไม่มีภาพไหนที่จืดจาง

ร่วมโลก

 

บนไหล่เขารูปเดือนเสี้ยว

มีบ้านไม้หลังเดียวอยู่ชายป่า

มีหนึ่งหญิงหนึ่งชายวัยชรา

ร่วมชายคากับสาวหนุ่มช่วยคุ้มครอง

อีกทั้งยังมีสรรพชีวิต

อยู่ใกล้ชิดร่วมสุขทุกข์ทั้งผอง

ทั้งแมวหมากาไก่ได้จับจอง

ให้เฝ้ามองเห็นชีวิตติดดิน

ในดินมีรูหนู

มีงูเงี้ยวเขี้ยวขอตามซอกหิน

มีตะขาบแมงป่องออกหากิน

มีนกบินว่อนฟ้าจับตาคน

ในพุ่มไม้ทั้งเล็กใหญ่

มีรังนกทั่วไปแทบทุกต้น

มีรังแตนรังต่อห้อยปะปน

มีรังผึ้งน่าฉงนคนชอบตี

สะเดาป่าพุ่มเขียวสด

มีรังมดมากมายเกือบทุกที่

ไข่มดเป็นอาหารชั้นดี

ผู้คนที่นี่จับจองกัน

ทุกเวลานาทีมีชีวิต

ยามเย็นมีดวงอาทิตย์เปล่งสีสัน

ยามค่ำสว่างนวลด้วยแสงจันทร์

ชีวิตอันสุขกายสบายใจ

บนระเบียงมุมหนึ่งซึ่งเราสอง

เคยเฝ้ามองแสงไฟในเมืองใหญ่

เห็นแสงดาวพราวพร่างบนฟ้าไกล

บัดนี้เธออยู่ไหน…นายอาจินต์

เก้าอี้

 

บนระเบียงหน้าบ้านไม้

เก้าอี้ไม้ไผ่รอใครอยู่

แมวหมาหายไปก็ด้วยรู้

ไม่มีผู้ใช้งานนานนับปี

เก้าอี้หวายอยู่ในบ้าน

เอนกายอ่านเขียนเพียรเต็มที่

หลับไปตื่นไปในสมปฤดี

นั่งดูทีวีก็เพลิดเพลิน

ม้านั่งริมทางฝังเสาไว้

นั่งได้ทันทีที่ฉุกเฉิน

เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าระหว่างเดิน

ออกกำลังมากเกินจนอ่อนแรง

เก้าอี้ขาวเบาสบายย้ายที่บ่อย

ย้ายไปคอยรับคนทุกหนแห่ง

อาจินต์ตอนใกล้ค่ำยามร้อนแล้ง

ประแป้งขาวดูดาวศุกร์ทุกค่ำคืน

วันวานสุขสันต์

 

กลับมาอยู่บ้านไม้บนไหล่เขา

บ้านในป่าที่เราเฝ้าแต้มสี

บ้านที่เธอพักฟื้นจนคืนดี

แปดปีก่อนที่เธอจะจากไป

ป่าที่เคยร้อนแล้งดินแห้งผาก

เมื่อปลูกไม้หายาก…ลำบากไหม?

เฝ้าลองผิดลองถูกปลูกด้วยใจ

จากไม่รู้อะไร…ก็ทำเป็น

จะเหน็ดเหนื่อยเพียงไรไม่ย่อท้อ

ทั้งขุดบ่อรอฝนจนได้เห็น

เขียวทุกเขียวแต่งแต้มให้ร่มเย็น

ถึงยากเข็ญเพียงไรได้ชื่นชม

ฤดูกาลที่นี่มีความหมาย

ยามฝนหยาดเป็นสายแสนสุขสม

เมื่อลมหนาวกรายมาชื่นอารมณ์

ร้อนก็ข่มใจทนรอฝนมา

ที่นี่ ฉันมีเพื่อน

มีดวงเดือนดวงดาวและราวป่า

มีเมฆหมอกสายฝนบนฟากฟ้า

บนพื้นดินมีแผ่นหญ้านานาพันธุ์

มีต้นไม้ใบไม้หลายหลากสี

มีดนตรีธรรมชาติเกินคาดฝัน

มีส่ำสัตว์แปลกตาเกาะติดกัน

ธรรมชาติสร้างสรรค์มาเนิ่นนาน

มีดาวศุกร์สดในยามใกล้ค่ำ

เธอชี้บอกซ้ำซ้ำไม่เคยผ่าน

เหมือนย้ำว่าที่นี่มีฤดูกาล

มีวันวานสุขสันต์ฉันกับเธอ