ระเบียบรัตน์ กับหัวอกความเป็นหญิงและแม่ เปิดมุมมองคดีทางเพศ เหตุเกิดตรงไหนต้องเฉือนตรงนั้น?/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

พิชญ์เดช แสงแก่นเพ็ชร์

 

ระเบียบรัตน์

กับหัวอกความเป็นหญิงและแม่

เปิดมุมมองคดีทางเพศ

เหตุเกิดตรงไหนต้องเฉือนตรงนั้น?

แม่แดง ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช เปิดเผยความรู้สึกว่า ทันทีที่ได้ยินข่าว “คดีอดีตรองหัวหน้าพรรคคนดัง” ที่มีเหยื่อแสดงตัวว่าถูกกระทำเรื่อยๆ ในฐานะเป็นผู้หญิง และมีหัวอกของความเป็นแม่ เป็นเมีย และในฐานะที่ตัวเองเป็นนายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ก็รู้สึกทันทีว่าครอบครัวนี้จะอยู่อย่างไร

ชื่อเสียงเกียรติยศของคุณพ่อที่สร้างเอาไว้ มันกระทบไปหมด จะบอกว่าไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องส่วนตัวส่วนบุคคล มันพูดได้ยากสำหรับสังคมไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นบุคคลสาธารณะ และเข้ามารับผิดชอบงานการเมืองระดับประเทศที่สามารถจะเป็นผู้บริหารประเทศได้เลยในอนาคต และไหนจะมีกรณีที่สังคมเราเป็นระบบอุปถัมภ์ คนก็กังวลเรื่องพรรคเรื่องพวก

ระเบียบรัตน์บอกว่ากรณีนี้ทำให้คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะแก้ปัญหานี้จริงจัง เพราะปัญหาเกี่ยวกับการกระทำความรุนแรงทางเพศกับผู้หญิง และการที่ผู้หญิงไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้ มันเป็นประเด็นปัญหาที่ถูกซ่อนเอาไว้ในพรมมาช้านาน ซึ่งถ้าใครมีเส้นมีสายมันก็จบ ถ้าใครมีสตางค์มันก็จบ

สิ่งที่มองเห็นในสังคมตอนนี้ถ้ามองเปรียบเทียบปัญหาเป็นภาพของยอดภูเขาน้ำแข็ง มันเห็นแค่นิดเดียว แต่ข้างล่างปัญหานี้มันมีอีกมหึมาเลย

ประเด็นของปัญหาเรื่องเพศ ความรุนแรงการข่มขืน ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่เรื่องการร่วมเพศอย่างเดียว การใช้ความรุนแรงทางวาจา การเหยียดหยามก็ใช่ หรือแม้แต่กระทั่งการดูถูกคนอีสาน มันเป็นความรุนแรง ในฐานะที่เราทำงานให้สังคม เรารู้สึกว่ามันไม่น่าสบายใจ เป็นความเจ็บปวด

ผู้หญิงเราก็ยอมรับวาทกรรมที่กดทับเหล่านั้น เช่น เวลาด่าผู้ชายที่ทำตัวไม่ดีว่า “หน้าตัวเมีย” หรือ “เอาผ้าถุงไปใส่ซะ” มันเจ็บปวดนะคะ คำพวกนี้ระดับรัฐมนตรี คนเป็นผู้นำประเทศยังเคยพูด ซึ่งตัวเราเคยบันทึกเอาไว้หมด เราเจ็บปวดในฐานะที่เราทำงานด้านสตรี เราอยากเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้น

นี่คือความรู้สึกที่มีทั้งความสงสาร ในหัวอกคนเป็นแม่ ที่ลูกได้มีส่วนที่ทำให้เป็นผลกระทบที่รุนแรงมากๆ

สงสารภรรยาจะอยู่อย่างไร ถ้ามีทายาทด้วยจะพูดอย่างไรกับสังคม หรือจะอยู่อย่างไร

สงสารคุณพ่อเขาซึ่งสร้างชื่อเสียงเกียรติยศมาโดยตลอด กลายเป็นว่าต้องมาพังเรื่องกิเลสและตัณหาของคน

 

ในอดีต ถ้าผู้ชายกระทำความผิดมักจะอ้างว่าเพราะเมา เพราะผู้หญิงแต่งตัวยั่ว เพราะผู้หญิงอยากออกไปเที่ยวเอง ผู้หญิงอยากไปง่ายกับเขาเอง หรือสุดท้ายมาลงที่ว่าเป็นโรคจิต อันนี้เป็นเรื่องที่แม่แดงรับไม่ได้ แต่อาจจะเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่น้องผู้หญิงอายุ 18 กล้าออกมาพูดเพราะเคยถูกกระทำความรุนแรง ต้องชื่นชมคุณแม่ ชื่นชมครอบครัวที่บอกให้น้องลุกขึ้นมาสู้แจ้งความ

ถ้าน้องไม่มีความกล้าหาญ เราจะไม่เห็นข่าวพวกนี้ แล้วคนที่ก่อเหตุก็จะอยู่ในสังคมการเมืองของพรรคที่บอกว่าตัวเองเป็นสถาบันการเมือง มันเจ็บปวดด้วยกันทั้งหมดทั้งพรรคทั้งคน

จริงๆ ก็รู้สึกเป็นห่วงเขา (ผู้ก่อเหตุ) เหมือนกัน กลัวเหลือเกินว่าหากผิดจริงเขาจะเหลือที่ยืนในสังคมหรือไม่ ไม่อยากให้สังคมไปกระหน่ำซ้ำเติม กลัวว่าจะฆ่าตัวตายเสียด้วยซ้ำ อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวจริงๆ ของเรานะคะ อยากจะให้สังคมมองว่า จากกรณีนี้จะทำให้สังคมได้หันมามองประเด็นเรื่องผู้หญิง เรื่องความรุนแรง ประเด็นเรื่องครอบครัว และหันมาสู่การปรับปรุงกฎหมายที่มีเรื่องอยู่ในสภา อย่างเช่น เรื่องที่วุฒิสมาชิกกำลังพิจารณาอยู่ คือ มาตรการควบคุมทางกฎหมายกรณีข่มขืน

“แม่แดงเองเคยคิดแบบแรงๆ เลยว่าคนที่ทำความรุนแรงทางเพศ เหตุมันเกิดที่ตรงนั้น ก็อยากให้เฉือนอวัยวะตรงนั้นออกด้วยซ้ำไป ไม่ต้องตายแต่เฉือนทีละหน่อย อันนี้อาจจะรุนแรงไป เป็นความรู้สึกเฉยๆ คือจริงๆ ก็ทำไม่ได้หรอก เดี๋ยวนี้แค่โบยตี กฎหมายก็ห้าม สังคมมีอารยะ เราเปลี่ยนกันไปหมดแล้ว ซึ่งในยุคปัจจุบันมีเรื่องของเทคนิคทางการแพทย์ที่จะฉีดฮอร์โมนให้สมรรถภาพทางเพศลดลง ให้ฝ่อทางเพศ ก็อยากจะให้กฎหมายลงโทษอย่างรุนแรง เพราะถ้าถามว่าการประหารชีวิตมันแก้ปัญหาได้หรือไม่ มันอาจจะสะใจสำหรับบางคน แต่มันไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาสังคมได้ถ้าตราบใดที่เราไม่มาดูเรื่องกฎหมายให้เหมาะสมและให้มีความขยาดหวาดกลัว ให้เกิดความรู้สึกว่าถ้าจะทำความรุนแรงทางเพศแบบนี้ ควรจะคิดให้มากกว่านั้น นี่คือความรู้สึกจริงๆ จากใจ”

ต้องขอบคุณน้องๆ ผู้หญิง 10 กว่าคนที่กล้าออกมา ต้องถือว่าเป็นแนวหน้าของผู้หญิง กลุ่มสตรี กลุ่มเยาวชนที่กล้าเผชิญความเป็นจริงอันแสนจะเจ็บปวดอันนี้

ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร มันมีหลายอย่างรวมกัน ทั้งดีใจที่ปัญหานี้จะได้รับการดูแลแก้ไขอย่างใกล้ชิด เป็นรูปธรรม และทั้งสังคมใส่ใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวบทกฎหมาย

แต่ถ้าคนจะอ้างเรื่องศีลธรรมคุณธรรม บอกว่าเราเป็นเมืองพุทธ เราก็ไม่สามารถจะอ้างตรงนี้ได้เท่าไหร่ เพราะว่าคนที่อยู่ในวงการศาสนาก็มีข่าวเสียหายที่ทำให้เกิดแง่ลบกันมากมายทั้งเรื่องพระเสพยา พระมั่วเพศกับสีกา พระมีเงินมากมาย

เราเลยรู้สึกไม่ค่อยดี

 

ระเบียบรัตน์บอกว่า หากสังคมไทยเป็นสังคมที่ครอบครัวอบอุ่นเลี้ยงดูกันด้วยการปลูกฝังต้นกล้าเล็กๆ ให้เป็นต้นกล้าที่มีคุณธรรม ละอายชั่วกลัวบาป ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว ไม่มีใครที่จะบอกได้ว่าคุณเป็นลูกคนรวย ลูกคนมีชื่อเสียงคุณจะไม่ประพฤติในทางที่เป็นลบ ไม่มีใครสามารถการันตีคุณได้ นอกจากความสำนึกและสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาตอนที่เป็นต้นกล้าเล็กๆ ตั้งแต่เด็ก

สังคมไทยเวลานี้ เราอาจจะเห็นว่าเด็กมีความก้าวร้าว มีความรุนแรง สองมือแม่สร้างลูก ลูกก็มาทำลายแม่ อย่างข่าวที่ทำร้ายแม่จนเสียชีวิต กลายเป็นการนำเอาความอ่อนแอของผู้หญิงมาเป็นข้อที่ทำให้เราด้อยทางการดำรงชีวิตอยู่ บอกว่าผู้หญิงเป็นเพศแม่ แต่ผู้หญิงกับถูกกระทำย่ำยี มันไม่เหมือนกับความเป็นเพศแม่อย่างที่ใช้คำเรียกที่ควรจะต้องมีความเคารพบูชาหรือให้เกียรติ อันนี้เป็นจากหัวใจแม่แดงเลย

วันนี้สังคมไทยคงจะลืมระเบียบรัตน์ไปแล้ว (เสียงสั่น) ก็อยากจะบอกว่ารู้สึกแบบที่พูดมาจริงๆ กรณีรองหัวหน้าพรรคคนนี้หากผิดจริง กี่ปีแล้วที่คุณทำมาอย่างต่อเนื่องและยังมีที่ไม่ปรากฏออกมาอีกเท่าไหร่ นี่เป็นประโยชน์ที่จะเอาวิกฤตนี้มาเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนสังคม และอย่าไปกระหน่ำซ้ำเติมและอยากจะฝากบอกคนที่ก่อเหตุว่ามันไม่ได้มีแค่วันนี้วันเดียว วันข้างหน้ายังมีอยู่

ไม่อยากให้คิดสั้น

 

ส่วนระบบของการวิ่งเต้น มีข่าวปรากฏออกมาช่วงหนึ่งนั้น ระเบียบรัตน์บอกว่า อยากบอกอย่าไปทำเลย ปล่อยให้กฎแห่งกรรมมันทำงานของมันไปเถิด ผู้รักษากฎหมายกรุณาเป็นกลาง อย่าใช้อำนาจหน้าที่ในส่วนที่ท่านรับผิดชอบอยู่ทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นได้อย่างไม่เต็ม 100%

แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในสังคมไทย ได้ทั้งสิ้น ถ้าคุณเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ในเมื่อคุณเป็นเจ้าของเรื่องเป็นผู้เกี่ยวข้องในการต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ความจริง ถ้าคุณเบี่ยงเบนหรือทำให้ประเด็นนี้มันอ่อนด้อยลงหรือขาดน้ำหนักระวังว่าวันหนึ่งลูกคุณจะโดน ลูกคุณไม่โดน หลานคุณจะโดน กรรมเวรมันมีจริง

เพราะฉะนั้น อะไรคือความถูกต้อง ความยุติธรรม คุณมีหน้าที่ต้องกระชากหน้ากากนั้นออกมาเถิด อย่าไปคิดว่าพ่อใหญ่โต อำนาจเงินมีเยอะแยะ แม่แดงคิดว่าตรงนี้ไม่ใช่ อย่างกรณีเช่นการขับรถชนตำรวจชั้นผู้น้อยและหลบหนีไปอยู่เมืองนอกลอยนวล ตำรวจชั้นผู้น้อยก็เสียชีวิตไป มีใครไปดูเขาหรือไม่หลังจากนั้น เพราะฉะนั้น ความยุติธรรมมันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้ที่มีความรับผิดชอบ อย่างลูกนัทได้พูดไว้ว่าถ้าคุณไม่ยุติธรรม ระวัง 157 ตามเล่นงานคุณ

ส่วนตัวแล้วแม่แดงก็อยากเห็นความถูกต้องในการทำงาน ไม่อยากเห็นการวิ่งเต้นเล่นพรรคเล่นพวก เพราะว่ามันเป็นเรื่องของบุคคล ถ้านิ้วไหนควรจะต้องถูกผ่าตัดก็ต้องทำ

ซึ่งหัวอกพ่อแม่เจ็บปวดที่สุดอยู่แล้ว ยิ่งครอบครัวยิ่งมีชื่อเสียงยิ่งเจ็บปวด ยิ่งดังยิ่งหนัก ยิ่งหนักกว่าชาวบ้านธรรมดา

ชมคลิป