ก่อนจะเป็น ‘มิลลิ กินข้าวเหนียวมะม่วง’ / คนมองหนัง

คนมองหนัง

คนมองหนัง

 

ก่อนจะเป็น ‘มิลลิ กินข้าวเหนียวมะม่วง’

 

โดยส่วนตัวเริ่มรู้สึกประทับใจ “มิลลิ” หรือ “ดนุภา คณาธีรกุล” เป็นครั้งแรกๆ เมื่อได้ดูเธอให้สัมภาษณ์กับเพจเฟซบุ๊ก FEED ในเดือนมีนาคม 2563 หลังศิลปินหญิงดาวรุ่งเพิ่งโด่งดังด้วยผลงานเพลง “พักก่อน”

ความประทับใจเบื้องต้น คือ ที่มาของชื่อ “มิลลิ” ซึ่งเจ้าตัวอธิบายว่าได้มาจากคำสอนของพ่อ ที่แนะนำให้ลูกสาวทำตัวเหมือน “น้ำ” คืออยู่ในภาชนะอะไร แบบไหน ก็ได้

เมื่อน้ำมีหน่วยเป็น “มิลลิลิตร” ประกอบกับตัวเธอเองก็มีชื่อเล่นดั้งเดิมว่า “มินนี่” ศิลปินแร็ปรุ่นใหม่จึงเลือกใช้นามแฝงในวงการว่า “มิลลิ” ด้วยเหตุผลกวนๆ ต่อท้ายว่า

“มิลลิลิตรมันยาวพี่ มันไม่เท่ ก็เลยเหลือแค่มิลลิพอค่ะ”

“มิลลิ” หรือ “ดนุภา คณาธีรกุล” สัมภาษณ์กับเพจเฟซบุ๊ก FEED

ในคลิปสัมภาษณ์ดังกล่าว มิลลิเล่าว่าเธอเริ่มชื่นชอบดนตรีฮิปฮอปสมัยเรียน ม.2 โดยมีแรงบันดาลใจเป็นศิลปินอย่าง “Nicki Minaj” และ “Cardi B”

ก่อนจะเริ่มหัดแต่งเพลงเองในปี 2562 หลังนั่งดูรายการ “The Rapper” ซีซั่นแรก อีพีแรก หน้าจอโทรทัศน์

“ดูจบอีพีแรก แล้วก็หลังรายการ แต่งเองเลย”

ต่อมาเธอจึงเข้าประกวด “The Rapper” ซีซั่นสอง จนประสบความสำเร็จ กลายเป็นแร็ปเปอร์อาชีพ

มิลลิย้อนอดีตว่า ตัวเองเป็น “เด็กสายประกวด” มาตั้งแต่สมัยประถม โดยมีประสบการณ์ประกวดเล่านิทาน ประกวดการใช้ภาษาไทย ประกวดคุณธรรม ประกวดเล่าเรื่องเป็นภาษาอังกฤษ ประกวดการเล่นละครเวทีภาษาอังกฤษ มาอย่างโชกโชน

ยิ่งกว่านั้น เธอยังเคยออกไป “ล้มเหลว” ในโลกนอกสถาบันการศึกษา เช่น การเข้าร่วมคัดเลือกเป็นสมาชิก “BNK48” แต่ “ไม่ติด” เช่นเดียวกับการไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย “The Voice Thailand” หรือการตกรอบบนเวทีนางงามรุ่นเยาว์อย่าง “มิสทีนไทยแลนด์”

มิลลิถือเคล็ดว่าความผิดหวังไม่ใช่ความผิดพลาด และการไม่ประสบความสำเร็จในการประกวดต่างๆ ทำให้เธอได้เรียนรู้ว่ายังมีคนอื่นๆ ที่เก่งกว่า เราไม่ได้เก่งที่สุดในโลก และเราต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา

ในมุมกลับกัน มิลลิยอมรับว่าการชอบประกวดและกล้าแสดงออกมากเกินไปในวัยเด็ก ทำให้เธอประสบ “ปัญหาเรื่องของการใช้ชีวิตในสังคม” โดยถูกเพื่อนแอนตี้ ไม่คุยด้วย ไม่ทำงานด้วย ไม่ยอมกินข้าวด้วย

กระทั่งเธอต้องกินข้าวคนเดียว ด้วยอารมณ์ “เหงามาก”

นั่นคืออีกหนึ่งบทเรียน ที่ผลักดันให้แร็ปเปอร์หญิงต้องหาวิธีเข้าสังคมและปรับเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ “จนเป็นหนูถึงทุกวันนี้”

 

ตั้งแต่เข้าประกวดในรายการ “The Rapper” จนถึงการออกซิงเกิล “พักก่อน” ปัญหาใหญ่ของสังคมที่มิลลิได้พบเจอในชีวิตประจำวัน ก็คือปัญหา “คุณแม่วัยใส” (สตรีที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น)

บทเพลงชิ้นแรกๆ ของศิลปินหญิงรายนี้ จึงพยายามพูดถึงประเด็นดังกล่าว ในแบบเพื่อนให้กำลังใจเพื่อน ไม่ใช่การใช้ท่าทีแบบ “ผู้ใหญ่สอนเด็ก”

แม้บางคนอาจบอกว่าปัญหาตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ควรเป็นเรื่องที่อยู่ในการดูแลของผู้ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องของเด็ก แต่มิลลิมองว่าผู้ใหญ่อาจไม่เข้าใจปัญหานี้อย่างถ่องแท้ หากไม่มีเด็กออกมาพูดจาเปิดอกอย่างตรงไปตรงมา

“ก่อนหน้านี้ คำว่า ‘ผู้ใหญ่’ กับคำว่า ‘เด็ก’ สเปซ (ช่องว่าง) มันต่างกันมากเลย แทนที่พ่อแม่จะเข้าใจลูกในสิ่งที่ลูกเป็น กลายเป็นว่าพ่อแม่ยัดอะไรก็ไม่รู้ใส่ลูก ทำเหมือนลูกเป็นหุ่นยนต์ แล้วเอาสิ่งที่พ่อแม่อยากให้ทำ สิ่งที่พ่อแม่คิดว่าดี เอามาใส่

“คุณจะรู้ได้ยังไง? ว่าสิ่งที่คุณคิดมันดีแล้ว สังคมมันเปลี่ยนไปอยู่ตลอด สิ่งที่คุณมองว่าดีในยุคคุณ สมัยนี้มันอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ มันไม่ใช่หันหูหลับหูหลับตา แล้ว (สั่งสอนว่า) โอ๊ย! ไม่ดีๆๆ เป็นกุลสตรี ไม่ถูกกาลเทศะ

“บ้านเมือง สังคม มันเปลี่ยนไปแล้ว มันถึงเวลาที่เขา (ผู้ใหญ่) จะต้องเปิดใจรับอะไรใหม่ๆ ด้วย ไม่ใช่อยู่ในโลกที่เขาผ่านมาแค่นั้น”

สองปีก่อน มิลลิเคยย้ำชัดถึงจุดยืนส่วนบุคคล และคาดการณ์ถึงอนาคตของตัวเธอเอง เอาไว้ว่า

“ปัญหานี้ (คุณแม่วัยใส) มีอยู่จริง เราจะทำยังไงกันต่อไปดีจ๊ะ? หนูก็จะไม่ตัดสินเลยว่า ต้องทำแบบนี้ๆๆๆ เพราะหนูก็เป็นวัยรุ่นคนนึงเหมือนกัน แต่หนูแค่จะบอกสังคมเฉยๆ ว่า เฮ้ย! มันมีแบบนี้จริงๆ นะ มันกำลังเกิดขึ้น และมันยังเป็นปัญหาที่คงอยู่ในปัจจุบันนะ คุณจะทำยังไง? สังคมจะพัฒนาต่อไปยังไงกับปัญหานี้มากกว่า?

“เราก็พูดในมุมมองของหนู แล้วมุมมองของหนูก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เพราะว่าหนูก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่อายุเท่านี้”

เดือนกรกฎาคม 2564 ท่ามกลางกระแสคนบันเทิง “คอลเอาต์” และการแพร่ระบาดหนักของโควิด-19 มิลลิคือหนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีอย่างเผ็ดร้อน

จนเธอถูก “อภิวัฒน์ ขันทอง” กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เข้าแจ้งความในข้อหา “ดูหมิ่นโดยการโฆษณา”

ในวันที่มิลลิเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา “ไผ่ ดาวดิน” และผู้ชุมนุม “กลุ่มทะลุฟ้า” ได้มารวมตัวให้กำลังใจเธอหน้า สน.นางเลิ้ง พร้อมทั้งร่วมกันร้องเพลง “พักก่อน” เสียดสี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สุดท้าย แร็ปเปอร์ดาวรุ่งก็ถูกปรับเป็นเงิน 2,000 บาท แต่ยังยืนกรานว่าจะแสดงความเห็นทางการเมืองต่อไป

เดือนมีนาคม 2565 สังคมไทยวงกว้าง โดยเฉพาะคอการเมือง ได้รู้จักมิลลิอย่างเป็นทางการ หลังเธอมีโอกาสเข้าร่วมแสดงในเทศกาลดนตรี “โคเชลลา” อันมีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา

หลายคนในรัฐบาลจำใจต้องออกมาชื่นชมพฤติกรรม “กินข้าวเหนียวมะม่วง” บนเวทีคอนเสิร์ตระดับอินเตอร์ของศิลปินหญิงรายนี้

โดยแสร้งลืมเลือนหรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าในการแสดงเดียวกัน มิลลิได้เปิดเผย “ด้านลบ” หลายอย่างของประเทศไทย

รวมถึงการมี “รัฐบาลบูดๆ” ด้วย •