รายงานพิเศษ

แง้มกล่องดวงใจ “บิ๊กตู่”

พลพรรคน้องรักทหารเสือฯ

เจาะขุมกำลัง ตท.20-24 ยึด ทบ.

จับตา ศึกพยัคฆ์ สู้เสือ กับทายาทหมวกแดง “บิ๊กเจี๊ยบ”

กองทัพกำลังจะเข้าสู่ยุคของเตรียมทหารรุ่น 20 ที่จ่อคิวขึ้นมาคุมกำลังสำคัญ ทั้งในระดับ ผบ.เหล่าทัพ และแม่ทัพนายกอง ท่ามกลางการถูกจับตามองว่า จะเป็นจังหวะเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ขึ้นอีกครั้ง

ระดับแกนนำรุ่นที่ขึ้นมา ทั้ง บิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ขยับขึ้น พลเอก ตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ. 1 ตุลาคม 2560 นี้ เพื่อจ่อคิวเป็น ผบ.ทบ. ต่อ เมื่อ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เกษียณราชการกันยายน 2561 นี้

พล.ท.อภิรัชต์ หัวหอกวงศ์เทวัญ มีอายุราชการถึงปี 2563 นั่งเป็น ผบ.ทบ. 2 ปี กำลังสวย ตามแผนที่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วางหมากเอาไว้ ที่จะขึ้นมาเป็นหัว แต่ทว่า ตัว แขนขา ล้วนเป็นทหารเสือราชินี และบูรพาพยัคฆ์นั่นเอง

ส่วน บิ๊กณัฐ พล.ท.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่จะขึ้นมาเป็น พลเอก ตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ที่สามารถจ่อชิง ผบ.ทบ. กับ พล.ท.อภิรัชต์ หรือรอเป็น ผบ.ทบ. ต่อก็ได้ เพราะเกษียณกันยายน 2564

แต่เชื่อกันว่า พล.ท.ณัฐพล ถูกดันขึ้นมา เพื่อที่จะส่งไปเสียบยอดที่ บก.กองทัพไทย จ่อเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือแม้แต่ปลัดกลาโหมในอนาคตก็ได้

เช่นเดียวกับ บิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ น้องรักของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นมาเป็นรองปลัดกลาโหม จ่อยึดกลาโหมไว้ เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2564

แต่ก็พร้อมที่จะข้ามไปเสียบยอดได้ทั้งกองทัพบก และ บก.กองทัพไทย เพราะครองอัตราจอมพล สร้างอาวุโสไว้ก่อนแล้ว

โดยมีบิ๊กตู่ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา น้องรักสายบูรพาพยัคฆ์ของ พล.อ.ประวิตร ขยับจากแม่ทัพน้อยที่ 1 ขึ้นมาเป็นแม่ทัพใหญ่ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ก็พร้อมจ่อขึ้นมารองรับแผงอำนาจของ ตท.20 ในอนาคต

เพราะแม้เส้นทางเดินในสายบูรพาพยัคฆ์ของ พล.ท.กู้เกียรติ จะสวยงามไม่แพ้เส้นทางวงศ์เทวัญของ พล.ท.อภิรัชต์ ก็ตาม แต่ทว่า ก็ถือว่าช้ากว่าเพื่อนรักไปก้าวหนึ่งแล้ว แถมเกษียณราชการกันยายน 2563 พร้อมบิ๊กแดงด้วย

ขณะที่ในกองทัพเรือ ตท.18 ก็จ่อรอคิวอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็น ผบ.ทร.คนต่อไป ในปลายปี 2561 ระหว่าง บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ที่จะขึ้นมาเป็น รอง ผบ.ทร. จ่อคิวต่อ บิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร.คนใหม่ 1 ตุลาคม 2560 นี้ไว้แล้ว

หรือจะเป็น บิ๊กตุ๋ย พล.ร.ท.พิเชฐ ตานะเศรษฐ ที่ขึ้นมาเป็น เสธ.ทร. หรือแม้แต่ พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล ที่จะขึ้นครองอัตราจอมพล ประธานที่ปรึกษาพิเศษ ทร. แต่ทว่าเกษียณ 2562 ส่วนบิ๊กลือได้เปรียบเพราะเกษียณกันยายน 2563

โดยมี ตท.19 อย่าง บิ๊กป๋อง พล.ร.ท.พัชระ พุ่มพิเชฏฐ์ ที่ขึ้นมาเป็น พลเรือเอก ที่ปรึกษาพิเศษ ทร. พร้อมเป็นตัวสอดแทรก เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2563 เท่า พล.ร.อ.ลือชัย

แต่หาก พล.ร.อ.ลือชัย ไม่ได้เป็น ผบ.ทร. ต่อจากบิ๊กนุ้ยในปีหน้า ก็คาดว่าอาจเกิดสึนามิขึ้นได้ เพราะแค่นี้ร่องรอยบาดแผลจากศึกชิงเก้าอี้ ผบ.ทร. ระหว่าง พล.ร.อ.นริส กับ พล.ร.อ.ลือชัย ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่

แต่กระนั้น ตท.20 ก็ขึ้นแผงมาจ่อรอไว้อีกระลอก ทั้ง 3 เพื่อนรักที่ขึ้นมาเป็นรองเสนาธิการทหารเรือ เกือบยกแผง ทั้ง บิ๊กเฒ่า พล.ร.ท.สมประสงค์ นิลสมัย บิ๊กอุ้ย พล.ร.ท.ชาติชาย ศรีวรขาน บิ๊กแมว พล.ร.ท.สมชาย ณ บางช้าง

รวมทั้ง บิ๊กเป้ง พล.ร.ต.วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ที่จะขึ้นมาเป็น พลเรือโท ตำแหน่งเจ้ากรมข่าว ทร.

โดยส่วนใหญ่เกษียณกันยายน 2564 คงมี พล.ร.ท.สมประสงค์ ที่เกษียณกันยายน 2565 และถือเป็นตัวเต็ง ผบ.ทร. ในอนาคต แต่ไม่อาจมองข้าม บิ๊กโต้ง พล.ร.ต.ไกรศรี เกษร ที่ข้ามกลับมาเป็น พลเรือโท ตำแหน่งรองหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ที่อายุเท่ากัน

ขณะที่ทุ่งดอนเมือง ยังคงหวั่นไหว เพราะความไม่แน่นอนว่า บิ๊กต่าย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน จะได้เป็น ผบ.ทอ.คนต่อไปหรือไม่ หลังจากที่ในโผนี้ บิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. ไม่ดันขึ้น รอง ผบ.ทร. จ่อไว้ก่อน ให้นั่งที่เดิม

แถมดัน ตท.18 ทั้ง บิ๊กยาว พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม ขึ้นมาเป็น เสธ.ทอ. แถมมีอายุราชการกันยายน 2563 ส่วน พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ เกษียณกันยายน 2562 เช่นเดียวกับคู่แคนดิเดตอีกคนที่มาแรง บิ๊กโหน่ง พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ ที่ข้ามจาก รอง เสธ.ทหาร มาเป็น ผช.ผบ.ทอ. ที่รู้กันดีว่ามีพลังจากบิ๊กป้อมส่งข้ามมา

ไปๆ มาๆ สูตรอำนาจแม่ทัพฟ้า อาจจะกลับมาเป็นสูตรปีเดียว ขึ้นกันคนละปี คือ พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ แล้วต่อด้วย พล.อ.อ.วันชัย หรือ พล.อ.อ.วันชัย ขึ้นนั่ง 2 ปี ตามสไตล์ ผบ.ทอ. ที่มักจะไม่ค่อยมี 1 ปีเกษียณ

ที่กองทัพอากาศนั้น ตท.20 ไม่รุ่ง เพราะดาวเด่นอย่าง พล.อ.ท.มานัต วงษ์วาท รอง เสธ.ทอ. นั้นก็เกษียณกันยายน 2563 พร้อม ตท.18

จึงจะข้ามมาเป็นคิวของ ตท.21 เลย ทั้ง บิ๊กต่วย พล.อ.ท.สุทธิพันธุ์ ต่ายทอง เจ้ากรมกำลังพล ทอ. และโดยเฉพาะ บิ๊กป้อง พล.อ.ท.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ที่ขึ้นมาเป็น รอง ผบ.คปอ.

จากการวางหมากของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. รวมทั้งพี่ใหญ่อย่าง พล.อ.ประวิตร ในโผนี้ จะเห็นว่ามีการดัน ตท.22 อย่าง บิ๊กหนุ่ย พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองแม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นเป็น พลโท แม่ทัพน้อยที่ 1 ที่หากเป็นสูตรเรียบง่าย ก็จ่อขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ในตุลาคมปี 2561 ต่อจาก พล.ท.กู้เกียรติ ได้เลย

แต่ทว่า ก็ยังมี บิ๊กติ่ง พล.ต.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ ที่แม้จะนั่งเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อ แต่ก็สามารถขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ตัดหน้า พล.ต.ธรรมนูญ ได้เช่นกัน เพราะเป็นน้องรักสายทหารเสือราชินี ที่เติบโตมากับนายกฯ บิ๊กตู่

ยกเว้น “พี่ตู่-พี่ป้อม” จะหยวนๆ ให้เป็นกันคนละปี คือให้ พล.ต.ธรรมนูญ ที่ก็เป็นบูรพาพยัคฆ์ ที่เกษียณกันยายน 2564 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ. ก่อน แล้วให้ พล.ต.สันติพงษ์ ที่เกษียณ 2565 เป็นต่อ

แต่ที่จะร้อนแรงคือการดันขุนพลเตรียมทหาร 23 ขึ้นมาคุมกำลังใน ทบ. แบบที่เรียกว่า ยกแผง และจ่อขึ้นคุมอำนาจ

ทั้งการให้ เสธ.โต พ.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ขึ้นมาเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. แทน บิ๊กต่อ พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ ที่ขยับขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1

ที่ทำให้ พ.อ.สุขสรรค์ ที่จะเป็นพลตรี หลัง 1 ตุลาคม 2560 นี้ ถูกจับตามอง เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2567 พร้อม พล.ต.เจริญชัย ที่ถูกมองว่าเป็นทายาท ผบ.ทบ. ของบิ๊กตู่ในอนาคต

แม้จะรู้กันดีว่า พล.ต.เจริญชัย เป็นน้องรักสายทหารเสือราชินีของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็ไม่อาจมองข้าม พ.อ.สุขสรรค์ ที่ก็เป็นบูรพาพยัคฆ์พันธุ์แท้ อดีต ผบ.ร.2 พัน 1 รอ. และ ผบ.ร.2 รอ. แห่งค่ายจักรพงษ์

แม้ไม่ใช่น้องรักนายกฯ แต่ พล.อ.ประวิตร ก็คุ้นเคย และเป็นน้องรักของ บิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรีและอดีต ผบ.ทบ. น้องรักของบิ๊กป้อมด้วยนั่นเอง

และถือว่า พ.อ.สุขสรรค์ ขึ้นมาตัดหน้า เสธ.ตั้ม พ.อ.วรยุทธ์ แก้ววิบูลย์พันธุ์ รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ลูกรักนายกฯ บิ๊กตู่ ที่จ่อคิวรออยู่เช่นกัน แต่ทว่า เป็นรุ่นน้อง ตท.24 จึงต้องรอไปก่อน เพราะ เสธ.ตั้ม ก็ถูกมองว่าเป็นทายาททหารเสือราชินีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เมียงมองเอาไว้แล้ว

สายบูรพาพยัคฆ์ ตท.23 ที่ขึ้นมาในโผนี้คือ เสธ.เล็ก พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รอง ผบ.พล.ร.9 ที่ขยับขึ้นพลตรี เป็น ผบ.มทบ.11 เพราะโตมาตามไลน์สายคอมแมนด์ แต่ชีวิตหักเห มาเป็น “เสธ.โพเดี้ยม” เมื่อ เสธ.ไก่อู พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล เพื่อนรัก ชักชวนเข้าสู่วงการด้วยการให้มาเป็นทีมโฆษก คสช. ต่อกรกับนักการเมือง

เพราะใน ตท.23 ก็มี เสธ.ต้อง พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหมอีกคน ที่โผนี้ก็ขึ้นเป็น พลโท ตำแหน่ง ผช.หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำ รมว.กลาโหม

ไม่แค่นั้น ตท.23 ยังคุมกำลังสำคัญคือ เสธ.บุ๋ม พ.อ.สุวิทย์ เกตุศรี ขยับจาก รอง ผบ.พล.ม.2 รอ. เป็น ผบ.พล.ม.2 รอ. แทนรุ่นพี่ ตท.21 บิ๊กแก้ว พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ที่ขึ้นเป็น พลโท เจ้ากรมยุทธการทหารบก จ่อเข้าไลน์สู่เส้นทางเหล็ก

โดยที่กรมยุทธการ ทบ. ก็มี เสธ.โซ่ พ.อ.ชนาวุธ บุตรกินรี มือร่างสัญญาประชาคม ขึ้นมาเป็น พลตรี รองเจ้ากรมยุทธการ ทบ.

บิ๊กอู๋ พล.ต.วุฒิชัย นาควานิช ก็ขยับจาก ผบ.พล.ร.9 มาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ส่วนสาย ปตอ. กองทัพภาคที่ 6 นั้น ก็มี เสธ.หนุ่ย พ.อ.วรวุฒิ วุฒิศิริ ก็ขึ้นเป็น เสธ.หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (เสธ.นปอ.)

ที่น่าจับตามองคือ กองทัพภาคที่ 5 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) แหล่งกำเนิดของ พล.อ.เฉลิมชัย ผบ.ทบ. ที่ดัน บิ๊กนัย พล.ต.สุนัย ประภูชะเนย์ รอง ผบ.นสศ. เป็น พลโท ในตำแหน่งสูงสุดของรบพิเศษ นั่ง ผบ.นสศ.

หลังจากที่มีการวางตัว ด้วยการถูกดึงจาก ผบ.พล.รพศ.1 ขึ้นมาเป็น รอง ผบ.นสศ. เมื่อโยกย้ายเมษายนที่ผ่านมา

พล.ต.สุนัย เป็นอีกความหวังของ ตท.21 ในสายหมวกแดงรบพิเศษ ที่อาจจะขึ้นถึง 5 เสือ ทบ. เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2563 และเป็นรบพิเศษฝีมือเยี่ยม ที่ผ่านมาหลายสมรภูมิรบ และสมรภูมิร้อนทางการเมือง โดยเฉพาะในยุค บิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เมื่อครั้งเป็น ผบ.นสศ. จนเป็น ผบ.ทบ.

จนเชื่อกันว่า พล.ต.สุนัย ขึ้นมาเป็น ผบ.นสศ. ในช่วงนี้ น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุด เพราะไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ และไม่ไกลไปนัก

โดยในสายรบพิเศษ มองกันว่า เสธ.ยอง พล.ต.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผบ.พล.รพศ.1 แห่ง ตท.24 ที่เคยเป็นมือขวาของ บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ตอนเป็น ผบ.ทบ. ที่มีส่วนสำคัญในการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จ่อที่จะขยับขึ้น รอง ผบ.นสศ. เพื่อที่จะเป็น ผบ.นสศ. ต่อจาก พล.ต.สุนัย นั่นเอง แถม เสธ.ยอง มีอายุราชการถึงกันยายน 2566 เลยทีเดียว

โดยมีเพื่อน ตท.24 อย่าง เสธ.หนุ่ม พล.ต.สนิธชนก สังขจันทร์ ผบ.มทบ.11 แกนนำรุ่นอีกคน ขยับเข้าไลน์เป็น ผบ.พล.ร.9 และมี เสธ.อ๊อบ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ขึ้นเป็น พลตรี ตำแหน่ง ผบ.พล.ร.11

เรียกได้ว่า ทั้ง ตท.21-22-23-24 พร้อมที่จะเบียดชิงเก้าอี้กัน เพราะรุ่นติดกัน อายุไล่ๆ กัน ที่คงส่งผลให้การชิงเก้าอี้ขุมกำลัง เป็นไปอย่างเข้มข้นยิ่ง

แถมในเวลานั้น การเมืองก็คงจะร้อนแรงไม่น้อย ยิ่งหากมี พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ละก็ ไม่รู้ว่าจะเอากองทัพอยู่หรือเปล่า เพราะถ้ายังคงยึดหลักเลือกน้องรัก เพราะต้องไว้ใจ และต้องสายทหารเสือฯ หรือบูรพาพยัคฆ์เท่านั้น

นอกจากทหารเสือฯ-และพยัคฆ์ จะต้องฟาดฟันแข่งขันกับวงศ์เทวัญ รบพิเศษ หรือทหารม้า แล้ว …ส่อเค้าว่า เสือกับพยัคฆ์ จะต่อสู้แย่งชิงกันเองด้วย

ศึกสายเลือดทหาร มักนำมาซึ่งปัญหาทางการเมืองด้วยเสมอ…